ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 968 หญิงสาวที่โหดเหี้ยม
ตอนที่ 968 หญิงสาวที่โหดเหี้ยม
ฉู่หลิวเยว่ก็จำอักขระยันต์สีดำนั้นได้แทบจะในทันที
นี่มันเหมือนกับจิตวิญญาณที่แฝงอยู่ในร่างกายของซั่งกวนหว่านเมื่อตอนแรกอย่างกับแกะเลยไม่ใช่หรือ?!
แม้ว่าชิ้นส่วนจะหายไปสองส่วน แต่นางก็สามารถมองออกได้อย่างรวดเร็ว!
ริมฝีปากของนางยกยิ้มเป็นรอยยิ้มที่เย็นยะเยือก
“คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะมีความสัมพันธ์กับถ้ำปีศาจทมิฬด้วย…”
“ถ้ำปีศาจทมิฬอันใด เจ้าพูดจาเพ้อเจ้ออันใดอยู่!?”
อวี๋เจ๋อเฟิงรีบเถียงทันที!
แต่เขากลับรู้สึกร้อนตัวขึ้นมา
ซั่งกวนเยว่…เหมือนว่านางจะรู้ว่านี่คืออันใด?
ตอนแรกฝ่าบาทนำอักขระยันต์นี้มาให้พวกเขา แล้วแบ่งออกเป็นห้าส่วน และซ่อนอยู่ในร่างกายของพวกเขา
ในตอนนั้นเขาบอกเพียงว่าเป็นวัตถุล้ำค่าที่เขาได้ค้นพบมา สามารถทำให้พวกเขาที่อยู่ภายในหุบเขาบรรพกาลเฟิ่งหวงติดต่อกันได้ หากมีเรื่องอันใดก็สามารถส่งสัญญาณได้เช่นกัน
อีกทั้งอักขระยันต์เหล่านี้ก็ทรงพลังอย่างมาก สามารถนำมาใช้ป้องกันตนเองได้
อวี๋เจ๋อเฟิงจำได้อย่างแม่นยำ ฝ่าบาทเคยพูดว่า ที่มาของของชิ้นนี้ยิ่งใหญ่มาก คนทั่วไปไม่มีทางมองออก
แต่เขาก็กำชับอย่างรอบคอบว่า หากไม่ถึงจุดที่อันตรายจริงๆ ไม่ควรนำอักขระยันต์ทั้งหมดมารวมกัน
ตามคำบอกเล่าของฝ่าบาทแล้ว คนอื่นไม่มีทางมองสิ่งนี้ออก
แต่ซั่งกวนเยว่มองเพียงครู่เดียว จะมองออกได้อย่างใด?
แต่สีหน้า ท่าทางของนาง ไม่ดูเหมือนคนโกหก
“ไม่ยอมรับหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่แค่นหัวเราะออกมา หางตามีประกายความเย็นชาปรากฏขึ้น
นางคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมาเจอของบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับถ้ำปีศาจทมิฬที่นี่
ต่อให้อวี๋เจ๋อเฟิงและคนอื่นๆ ไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอันใด แต่ว่าถานไถเฉินจะต้องรู้อย่างแน่นอน
นางดูไม่ออกเลยว่าเฒ่าเจ้าเล่ห์คนนี้ จะแอบซ่อนกลอุบายแบบนี้เอาไว้ด้วย!
ฉู่หลิวเยว่กระชับกระบี่หลงหยวนให้แน่นขึ้น ง้างมือขึ้นสูง แล้วฟันออกไปอย่างแรง!
โฮก…
ในตอนนั้นเองเหมือนมีเสียงคำรามของมังกรดังก้องไปทั่วฟ้าดิน!
แววตาของอวี๋เจ๋อเฟิงและคนอื่นๆ เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“เร็ว! รีบกระตุ้นอักขระยันต์เร็วเข้า!”
อวี๋เจ๋อเฟิงตะโกนขึ้นอย่างรีบร้อน!
ต่อให้อักขระยันต์นี้ไม่สมบูรณ์ แต่ถ้ากระตุ้นมันก็ยังพอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง!
หลายคนถ่ายเทพลังดั้งเดิมลงไปด้วยความรีบร้อน!
ขอบของอักขระยันต์สีดำมีประกายไฟสีดำลุกโชนขึ้น!
บรรยากาศที่หนาวเย็น แผ่กระจายออกมา!
ทันทีที่สิ้นเสียงเขา ปราณกระบี่ที่แข็งแกร่งก็พุ่งตรงออกมา!
ตู้ม!
ได้ยินเพียงเสียงแตกร้าวที่ฟังแล้วเสียดฟัน อักขระยันต์ที่เพิ่งรวมตัวกันได้เมื่อครู่นี้ ถูกกระบี่หลงหยวนฟันจนขาดครึ่ง!
ตู้ม!
พลังทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างรุนแรง และสร้างความปั่นป่วนอย่างน่ากลัว ระลอกคลื่นกระจายออกไปโดยรอบ!
เศษหิน เศษกรวดบินว่อน บนพื้นก็พังทลาย!
ฉู่หลิวเยว่ขยับข้อมือ บนกระบี่หลงหยวนมีปราณกระบี่จำนวนนับหมื่นเล่มปรากฏขึ้นมา! พร้อมจะฆ่าโดยตรง!
“เจ้า…”
อวี๋เจ๋อเฟิงเพิ่งตะโกนออกมาได้หนึ่งคำ แต่คอของเขาก็มีรูเลือดปรากฏออกมาแล้ว!
เขาเบิกตากว้าง เลือดสดๆ พุ่งออกมาจากปากแผล หลังจากนั้นไม่นานอาภรณ์ของเขาก็ถูกย้อมเป็นสีแดง
จากนั้นร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไป ก่อนจะล้มลงที่พื้น
คนที่อยู่ด้านข้างสองคนก็อยากจะเข้าไปช่วยเขา แต่ในตอนนี้พวกเขายังไม่สามารถดูแลตัวเองได้เลย!
หลังจากนั้นไม่นานเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นอีกสองครั้ง ก่อนที่ทั้งสองคนจะล้มตามๆ กันไป!
ในตอนนั้นเองอักขระยัน์สีดำกลับถูกทำลายไปอย่างไร้เสียงแล้ว จนสุดท้ายมันก็สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ถวนจื่อกระพือปีกขึ้น!
ลมพายุพัดอย่างบ้าคลั่งทั่วทั้งสี่ทิศ
เปลวเพลิงสีชาดกลืนกินคนเหล่านั้นลงไปทันที!
หลังจากนั้นไม่นาน คนเหล่านั้นก็ถูกเผาหมดจนเป็นเถ้าถ่าน ก่อนจะถูกลมพัดหายไปในอากาศ!
…
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ถานไถเฉินที่รออยู่ด้านนอกม่านพลัง ก็ลุกพรวดขึ้นมา!
ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ริมฝีปากซีดขาว เหงื่อเย็นๆ ไหลท่วมแผ่นหลัง
นั่นมัน…เมื่อครู่นี้มัน…
เขามองไปที่ฝ่ามือของตัวเองด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
อักขระยันต์สีจางๆ ปรากฏขึ้น แต่มันยังไม่ทันสะท้อนได้อย่างชัดเจน มันก็จางหายไปในทันที!
ถานไถเฉินเหมือนถูกฟ้าผ่าลงมากลางศีรษะ ด้านหน้าดำมืด ขาทั้งสองข้างอ่อนยวบ เขาเดินซวนเซไปสองสามก้าว เกือบจะล้มลงพื้น!
“พี่ถานไถ เจ้าเป็นอย่างใดบ้าง?”
กงซุนเซียวและหนิงหยวนสังเกตถึงสถานการณ์ทางนี้ และรีบหันไปมองทันที
เมื่อเห็นสีหน้าของถานไถเฉิน พวกเราก็สามารถตระหนักได้แล้วว่าจะต้องมีอันใดบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ถานไถเฉินเหมือนจะไม่ได้ยินเสียงของพวกเขา เขานั่งอยู่ตรงนั้นเหมือนคนโง่งม
ห้าคน…
ห้าคนตายทั้งหมดแล้ว!?
เป็นไปได้อย่างใด?
พวกเขาเป็นถึง…
ก่อนหน้านี้ไม่นาน เขาเพิ่งได้เผลอว่ารั่วหลีและคนอื่นๆ จะสามารถทำผลงานได้เป็นอย่างดี และทำให้ทุกคนเห็นเป็นประจักษ์ว่าราชวงศ์ไท่อวี่ของเขานั้นแข็งแกร่งขนาดไหน!
แต่ผ่านไปชั่วพริบตาเดียว พวกเขาทั้งห้าคนกลับตายหมดแล้ว!
แม้แต่…เบาะแสสุดท้ายของพวกเขาก็ไม่เหลือทิ้งเอาไว้ให้!
ความรู้สึกเหมือนถูกธนูนับหมื่นดอกยิงเข้าที่หัวใจ มันเป็นเช่นนี้นี่เอง!
ดวงตาของถานไถเฉินเต็มไปด้วยเลือด เขารีบวิ่งเข้าไปที่ม่านพลังนั้นเหมือนกับคนบ้า!
ผู้อาวุโสฮวาเซียนขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะสะบัดชายเสื้อแล้วขวางทางเขาเอาไว้
“ถานไถเฉิน เจ้าคิดจะทำอันใด? หรือว่าต้องการจะบุกเข้าไปในหุบเขาบรรพกาลเฟิงหวงอย่างเช่นซั่งกวนเยว่?”
เมื่อได้ยินชื่อนั้น ถานไถเฉินก็เงยหน้าขึ้นมาทัน! พร้อมน้ำตาที่ไหลพราก!
“เป็นนาง! จะต้องเป็นนางแน่นอน!”
…
ภายในม่านพลัง
ประกายไฟลูกสุดท้ายดับลง
ในจุดที่คนเหล่านั้นเคยอยู่ นอกจากร่องรอยของการปะทะของพลังแล้ว ก็ไม่มีสิ่งอื่นเหลืออยู่เลย
หากมีคนมาก็จะคิดว่าที่นี่เคยเกิดมหาสงครามและระเบิดขึ้นเท่านั้น แต่ไม่มีทางรู้ว่าใครตายอยู่ที่นี่
ฉู่หลิวเยว่เก็บกระบี่หลงหยวนลง แต่ในใจกลับคิดถึงสถานการณ์สุดท้ายของพวกเขาเหล่านั้น
ราชวงศ์ไท่อวี่…กับถ้ำปีศาจทมิฬ มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใดกันแน่?
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง ก็พบว่าไม่มีเงื่อนงำใดๆ ก็คิดว่าควรจะไปสอบถามถานไถเฉินมากกว่า
ฉู่หลิวเยว่จึงรีบปัดความคิดนั้นทิ้งไป ก่อนจะหมุนตัวไปมองมู่หงอวี่
“พวกเรา…”
“ตึก”
“ตึก”
“ตึก”
ฉู่หลิวเยว่ยังไม่ทันพูดจบ แต่กลับได้ยินเสียงแหบแห้งดังกระทบเข้าที่โสตประสาท
“หึ ช่างเป็นหญิงสาวที่โหดเหี้ยมจริงๆ”
ฉู่หลิวเยว่หันขวับกลับไปมอง!
จวินจิ่วชิง!