ยอดหมอยาของอ๋องเสียน / หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน - บทที่ 874 จับโจรต้องจับหัวหน้าก่อน
- Home
- ยอดหมอยาของอ๋องเสียน / หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน
- บทที่ 874 จับโจรต้องจับหัวหน้าก่อน
บทที่ 874 จับโจรต้องจับหัวหน้าก่อน
กงชิงวี่หันไปมองอันหลิงหยุน ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
อันหลิงหยุนหันไปมองเขา: “ท่านคงไม่ใช่ไม่พาคนมาด้วยหรอกนะเพคะ?”
“ในท้องเจ้ามีคนอยู่ทั้งคน จะไปฆ่าคนมากมายอย่างนั้น เจ้าไม่กลัว….. ”
“เพื่อช่วยชีวิตผู้คนแล้ว ข้าไม่กลัว!” อันหลิงหยุนกลอกตามองบนใส่กงชิงวี่อย่างเคือง ๆ กงชิงวี่จึงได้คัดเลือกคนส่งออกไป
เมื่อคนมาถึง อันหลิงหยุนจึงพูดขึ้นว่า “เตรียมไหใบใหญ่ให้ข้าใบหนึ่ง ข้าจะเอาคนคนนี้ใส่เข้าไป”
เพียงไม่นานก็มีคนเตรียมไหใบใหญ่มา อันหลิงหยุนจึงห้ามอาการเจ็บปวด รวมถึงห้ามเลือดของหลี่ถิงไว้ก่อน ให้เขามีอาการดีขึ้นชั่วขณะ จากนั้นจึงนำเขาไปใส่ไว้ในไห แล้วนำไปขังไว้ในรถคุมขังนักโทษคันหนึ่ง ทั้งยังใช้ผ้าสีดำปิดตาเขาเอาไว้ด้วย
กงชิงวี่ไม่เข้าใจ : “หากกลัวว่าจะมีคนเห็นดวงตาของเขา เช่นนั้นก็ควักดวงตาของเขาออกเสียไม่ง่ายกว่าหรือ?”
“ตอนนี้เขายังตายไม่ได้ ข้ารักษาอาการเขาแล้ว ประคองให้เขายังมีชีวิตอยู่ก็พอ”
อันที่จริง การที่อันหลิงหยุนพาคนคนนี้ไปด้วย นับว่าเป็นเรื่องที่ลำบากยุ่งยากมากจริงๆ แต่นางก็ไม่มีทางเลือกอื่น นางจำเป็นต้องซื้อเวลาให้ซูมู่หรงให้ได้ จึงมีแต่ต้องทำอย่างนี้
กงชิงวี่เหลือบมองไปที่ไหซึ่งถูกเคลื่อนย้ายไปยังรถม้า แล้วจึงมองไปรอบ ๆ : “จะหาอย่างไร?”
“จิ้งจอกหางสั้น เจ้าไปหาหน่อย”
อันหลิงหยุนสั่งการออกไป จิ้งจอกหางสั้นเร่งออกไปหาเบาะแสทันที โดยใช้ประโยชน์จากความมืดช่วยพรางกาย มีกองทัพเกราะเหล็กตามหลังไปติดๆ เพียงไม่นานก็พบหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ด้านนอกมีคนเฝ้าอยู่ อันหลินหยุนวางยาพิษในน้ำ แอบซุ่มรออยู่สองวัน สองวันต่อมาผู้คนในหมู่บ้านพากันล้มตายไปได้พอสมควรแล้ว อันหลิงหยุนจึงตามกงชิงวี่เข้าไปในหมู่บ้าน
ภายในหมู่บ้านเหลือคนไม่กี่คนที่ยังไม่ตาย ต่างก็กำลังดิ้นทุรนทุราย มีผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังท้องใหญ่อยู่ด้วย คล้ายเป็นนางโลมที่ถูกพามาอุ้มท้องที่นี่ อีกฝ่ายคลานเข้ามาหาอันหลิงหยุนเพื่อขอร้องให้ช่วยนางด้วย อันหลิงหยุนก้มลงมองผู้หญิงที่คลานเข้ามาที่เท้าของนาง: “เจ้าท้องได้อย่างไรหรือ?”
หญิงสาวร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว: “ข้าไม่รู้ พวกนั้นน่ากลัวมาก ข้ากลัว!”
กงชิงวี่หันไปมองอันหลิงหยุน: “เด็กไร้เดียงสาไม่มีความผิดนะ”
อันหลิงหยุนหันไปมองกงชิงวี่: “รอให้นางคลอดเด็กออกมาแล้วไม่ใช่คน ท่านจะไม่พูดอะไรแบบนี้แน่”
อันหลิงหยุนชักกระบี่ที่เอวกงชิงวี่ออกมา แล้วแทงเข้าไปทันที ผู้หญิงคนนั้นกรีดร้องอย่างน่าเวทนา แล้วล้มลงขาดใจตาย
อันหลิงหยุนส่งเจ้าห้าที่อยู่ในอ้อมแขนไปให้กงชิงวี่ แล้วเดินตรงไปข้างหน้า มือก็กุมกระบี่เอาไว้มั่น สายตากวาดมองหาคนในหมู่บ้าน เมื่อพบใครก็จัดการฆ่าทั้งหมด ไม่มีละเว้นแม้แต่คนเดียว
ดวงตาทั้งสองของนางเป็นสีแดงก่ำ ใบหน้าขาวซีด กงชิงวี่เพียงเดินตามหลังนางไปโดย
ไม่พูดอะไรสักคำ มองดูนางยามที่กระหายเลือดขึ้นมา ช่างน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง!
อันหลิงหยุนค้นหาทั้งหมู่บ้านจนครบหนึ่งรอบ ในที่สุดก็พบบ้านถ้ำหลังหนึ่งด้านในหมู่บ้าน หลังจากเปิดประตูเข้าไป ข้างในมีคนที่ตายแล้วจำนวนหนึ่ง มีบางส่วนที่ร่างผ่านการชำแหละชิ้นส่วนไปแล้ว
อันหลิงหยุนเห็นดังนั้น จึงจุดไฟแล้วเผาทั้งหมู่บ้านทิ้งไป
ในระยะทางห้ากิโลเมตรรอบ ๆ ต่างถูกทำการตรวจสอบค้นหาทั้งหมด จนกระทั่งแน่ใจว่าไม่มีปลาเล็กปลาน้อยที่เล็ดรอดผ่านสายตาไปได้ จึงค่อยวางใจ
จนค่ำอันหลิงหยุนก็ยังไม่ออกไป เพียงตั้งค่ายพักแรมชั่วคราวอยู่ที่ด้านนอกหมู่บ้าน ในตอนดึก อันหลิงหยุนยังออกไปหาซ้ำอีกครั้ง เพราะกลัวว่าจะมีปลาเล็กปลาน้อย ที่เล็ดลอดผ่านสายตาไปได้
อันหลิงหยุนยังพบหนูอีกหลายตัวที่นอกหมู่บ้าน แต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้พวกมันรอดเช่นกัน
กงชิงวี่อุ้มเจ้าห้าพลางจ้องมองอันหลิงหยุน: “เจ้าวิตกกังวลเกินไปแล้ว!”
อันหลิงหยุนหันไปมองกงชิงวี่: “การที่ข้าคนเดียวมาถึงยังที่นี่ ถ้าสามารถเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ได้ถึงหนึ่งราชวงศ์ล่ะก็ เช่นนั้นเมื่อคนกลุ่มนี้ทั้งกลุ่มมาถึงยังที่นี่ ผลที่จะตามมาจะเป็นอย่างไรเพคะ?
หากในร่างกายของคนในโลกอนาคต มีทั้งยีนของหนู ของงู ของกอริลลา ร่างกายเหล่านั้นจะกลายเป็นอะไร? ”
กงชิงวี่ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก อันหลิงหยุนแหงนหน้ามองท้องฟ้า: “อาจารย์เองก็เหมือนกับข้า เพื่อความรักแล้วสามารถละทิ้งทุกสิ่งเพื่อจะได้อยู่ที่นี่ต่อไป แต่ถ้าเพื่อมนุษยชาติแล้ว เราสามารถละทิ้งความรักได้!
ท่านอ๋องเข้าใจหรือไม่เพคะ? ”
กงชิงวี่เพียงส่งเสียงอือตอบรับในลำคอ อันหลิงหยุนพูดต่ออีกว่า : “ ท่านไม่เข้าใจ มนุษย์สามารถวิวัฒนาการได้ตามธรรมชาติเท่านั้น ต่อให้ในอนาคตหลังจากนี้ เราอยากไปว่ายน้ำในทะเล เราก็ไม่ควรใช้วิธีนี้”
“ข้ากลับรู้สึกว่ามันไม่เห็นจะเป็นอะไร”
“เช่นนั้น วันพรุ่งนี้ท่านอ๋องก็ไปหาหมูมาสักตัว ให้มันมาคลอดลูกให้ท่านไปก็แล้วกัน ยกให้มันเป็นพระชายาของท่านไปเสีย!”
กงชิงวี่ถูกพูดดักเสียจนใบ้กินพูดอะไรไม่ออกทั้งสิ้น หน้าทั้งหน้าแดงเถือก
อันหลิงหยุนหันกลับไปด้วยอารมณ์โกรธกรุ่น ออกไปตามหาอีกครั้ง
สามวันเต็ม ๆ ผ่านไป อันหลิงหยุนไม่ได้พักผ่อนเลยแม้แต่น้อย
ก่อนจากไป อันหลิงหยุนยังสอดส่ายสายตามองหาสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่อาจจะอยู่รอบ ๆ บริเวณนี้อีกครั้ง ทั้งยังโปรยยาพิษซ้ำเข้าไปอีกหนด้วย
อันหลิงหยุนไปถึงป้อมตระกูลป๋ายแห่งหนานอี้ ก็ถูกคนของตระกูลป๋ายพบเข้าก่อนแล้ว เจ้าบ้านป๋ายยังส่งคนมารับอันหลิงหยุนกับกงชิงวี่อีกด้วย แต่กงชิงวี่แต่งตัวเป็นเฟยยิง ติดตามอันหลิงหยุนเข้าไปยังป้อมตระกูลป๋าย
ป้อมตระกูลป๋ายตั้งอยู่บนภูเขาสูง ภูเขาทั้งลูกล้วนเป็นพื้นที่ของพวกเขาทั้งหมด อันหลิงหยุนตามคนนำทางเข้าไป ก็คือต้องปีนภูเขาทั้งลูก นางจึงไม่อยากขึ้นไป
“เจ้าบ้านของพวกเจ้าล่ะ?” อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกใจมาก อย่างไรเสียก็รู้แล้วว่านางมาที่นี่ แต่กลับทำเพียงส่งคนมารับนาง จึงรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดแผกไป
“เจ้าบ้านปิดด่านฝึกวิชา ตอนนี้มีเพียงรองเจ้าบ้านที่อยู่ที่นี่” คนที่มารับบอกกับอันหลิงหยุน
“รองเจ้าบ้านคือใครหรือ?”
“เจียงหยุนเฟิง”
“โอ้! ถ้าเช่นนั้นข้าไม่ขึ้นไปแล้วดีกว่า นี่เป็นคนติดตามข้างกายของข้าเอง เจ้าพาเขาขึ้นไปก็พอ ข้าจะรอที่อยู่ที่ด้านล่างนี่ล่ะ ข้าพาเด็กมาด้วย ไม่สะดวกปีนเขานัก” อันหลิงหยุนมองไปที่ภูเขาด้วยสีหน้ากังวล
อีกฝ่ายลังเลอยู่ครู่หนึ่ง : ” ในเมื่อขึ้นไปไม่ได้ เช่นนั้นผู้ติดตามก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นไปหรอก เจ้าพักผ่อนอยู่ที่ด้านล่างนี่ไปก่อน ข้าจะไปรายงานรองเจ้าบ้านเอง แล้วค่อยตัดสินใจกันอีกครั้ง”
“ก็ดี!” อันหลิงหยุนกับกงชิงวี่ต่างรออยู่ที่เชิงเขา ไม่ได้ขึ้นไป
หลังจากเข้าไปในรถม้า อันหลิงหยุนก็อุ้มเจ้าห้าเข้ามา: “ป้องกันไว้ก่อน เผื่อขึ้นไปแล้วอาจเกิดเรื่อง หนอนของพวกเขาต่างก็ร้ายกาจมาก คงทำได้แค่ให้ราชากู่น้ำแข็งขึ้นไปดูสถานการณ์ก่อนแล้วล่ะ”
“ไม่ต้องหรอก ถ้าให้ราชากู่น้ำแข็งขึ้นไป มันจะดึงดูดความเคลื่อนไหวเกินความจำเป็น ให้ชื่อเซียนจื่อขึ้นไปน่าจะดีกว่า บรรดาหนอนตัวเมียของพวกเขาเป็นประเภทเดียวกัน ถ้าให้ชื่อเซียนจื่อเข้าไปน่าจะถูกหาตัวเจอได้ยากกว่า”
กงชิงวี่เองก็เริ่มพบแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ นี่ไม่ใช่วิธีการต้อนรับคนที่สมควรเลย
อันหลิงหยุนเห็นด้วย จึงปล่อยชื่อเซียนจื่อออกมา แต่เสี่ยวเฮยไม่วางใจจึงตามออกมาด้วย
หลังจากที่พวกเขาไปแล้วอันหลิงหยุนจึงถามเจ้าห้าว่า : “ลูกรับรู้อะไรได้บ้างหรือไม่?”
เจ้าห้าเม้มริมฝีปากแน่น: “จื่อฮั่วถูกขังอยู่”
“….. ” อันหลิงหยุนตกใจจนสะดุ้งเฮือก: “แล้วจากนั้นล่ะ?”
“….. ” เจ้าห้าไม่พูดอะไรออกมาอีก เงยหน้าขึ้นมองอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนก็มองกลับไปอย่างงุนงง : “ทำไมลูกไม่พูดแล้วล่ะ?”
เจ้าห้าเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง: “พ่อแม่ของจื่อฮั่วไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว!”
“…..” อันหลิงหยุนหันมองกงชิงวี่ด้วยความประหลาดใจ กงชิงวี่อุ้มเจ้าห้ามาตรงหน้า แล้วมองลูกชายแบบเต็มสายตา เขาค่อนข้างจะเข้าใจลูกชายคนนี้อยู่ไม่น้อย
“เกิดอะไรขึ้น?”
เจ้าห้ามองกงชิงวี่แน่วนิ่ง: “จื่อฮั่วทุกข์ทรมานใจอย่างมาก ข้ารับรู้ได้ว่าพ่อแม่ของนางเพื่อที่จะช่วยนางแล้ว จึงป้อนตัวเองเป็นอาหารหนอนกู่ ตอนนี้มีหนอนกู่ที่ตัวใหญ่มากสองตัวอยู่ข้างกายนาง พยายามจะเข้าไปในร่างกายนาง แต่เพราะนางไม่มีพลังกำเนิดสวรรค์ที่จะใช้ปกป้องตัวเองได้ นางคงฝืนยันเอาไว้ได้อีกไม่นานแล้ว
ธรรมชาติของหนอนกู่จำเป็นต้องหาร่างพักพิง หากร่างที่พักพิงอ่อนแอ หนอนกู่จะสามารถกลืนกินได้ แต่หากหนอนกู่อ่อนแอ ตัวของหนอนกู่นั้นจะหลีกลี้หนีห่างออกไปเอง
เว้นเสียแต่ว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็มีพละกำลังที่เท่าเทียมกัน จึงจะสามารถหลอมรวม ผสานเป็นหนึ่งเดียวกันได้ด้วยความความปรองดอง
แต่จื่อฮั่วไม่ต้องการตกเป็นเป้าหมายให้อีกฝ่ายควบคุมได้ อีกทั้งไม่ชอบหนอนกู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกหนอนกู่ที่กินพ่อแม่ของนางเข้าไป
ตอนนี้นางอ่อนแอมาก นางใกล้จะตายอยู่แล้ว! ”
เจ้าห้าพูดจบ ก็ใช้แขนโอบกงชิงวี่ไว้แน่น นอนฟุบร่างลงบนอ้อมแขนของเขา
กงชิงวี่รู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาเป็นระลอก ในใจก็หวนนึกถึงเจียงหยุนเฟิงกับเจ้าบ้านป๋าย แล้วหันไปมองอันหลิงหยุน: “คิดไว้แล้วเชียวว่าไม่ควรกลับมาจริง ๆ ข้าประมาทพวกนั้นเกินไป ในเมื่อพวกนั้นคิดจะทำร้ายคน มีหรือจะยอมปล่อยพวกเขาไป ?”
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่ารออีกเลย ในเมื่อพวกเขาต่างก็ตายกันไปแล้ว!” อันหลิงหยุนออกจากรถม้า หยิบผงยาพิษออกมา แล้วอาศัยแรงลมโปรยมันออกไป
ตอนที่อันหลิงหยุนมา นางก็เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมหมดแล้ว นางยังเตรียมยาฆ่าแมลงเพื่อใช้ฆ่าพวกหนอนพวกแมลงมาด้วย นางใช้บางส่วนในหมู่บ้านกบดานของหลี่ถิง ที่เหลืออยู่ตอนนี้ ก็เพียงพอที่จะใช้ฆ่าหนอนที่เหลือแล้ว
บรรดาหนอนที่อยู่บนพื้นเริ่มม้วนตัวเกลือกกลิ้ง ดิ้นทุรนทุรายไปมา แล้วตายลงไปเกลื่อนกลาด
อันหลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองอีกาดำ: “พวกเจ้าไปก่อนเลย อย่าลืมนะว่าห้ามลงพื้นดินเด็ดขาด”
อีกาน้อยร้อง ก๊า ก๊า รับคำเสร็จก็บินจากไป อันหลิงหยุนหันไปมองกงชิงวี่: “จับโจรต้องจับหัวหน้าก่อน ท่านอ๋อง ลงมือเถอะเพคะ!”