ยอดหมอยาของอ๋องเสียน / หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน - บทที่ 883 เป็นเรื่องของสภาวะจิตใจกระมัง
- Home
- ยอดหมอยาของอ๋องเสียน / หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน
- บทที่ 883 เป็นเรื่องของสภาวะจิตใจกระมัง
บทที่ 883 เป็นเรื่องของสภาวะจิตใจกระมัง
สิ่งที่ซูมู่ไห่พูดทำเอาคนตกใจ อันหลิงหยุนมองเขาแล้วหัวเราะออกมากะทันหัน
“หัวเราะอะไร”เห็นอันหลิงหยุนหัวเราะ สีหน้าของซูมู่ไห่ก็เย็นชา
อันหลิงหยุนเก็บรอยยิ้ม “ชายหญิงจะใกล้ชิดกันโดยพลการไม่ได้ นี่เกรงว่าคงไม่เหมาะสม เซวียนเหอ ท่านดูแลเขาเถอะ ข้าจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”
อันหลิงหยุนไม่เกรงใจเลยสักนิด ลุกขึ้นเดินไปข้างหลัง
ซูมู่ไห่คิดอยากจะตามไปด้วย ถูกเซวียนเหอเรียกเอาไว้ “องค์ชายสี่ เชิญทางนี้ ”
พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปข้างนอก ซูมู่ไห่จึงเดินตามออกไป
อันหลิงหยุนมีคนอยู่ด้วย หลังจากอาบน้ำแล้ว อันหลิงหยุนก็ไปยังลานบ้าน เห็นอีกาดำบนหัว อันหลิงหยุนก็ไปหาเซวียนเหอกับซูมู่ไห่
ซูมู่ไห่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว มองเห็นอันหลิงหยุนในชุดสีแดงก็รู้สึกคาดไม่ถึง ชุดสีแดงเป็นชุดของชายาประเทศต้าเหลียง อันหลิงหยุนเองก็คิดไม่ถึง เซวียนเหอจะจัดเตรียมชุดเช่นนี้ไว้ให้นาง
ที่นี่คือประเทศหนานอี้ อาภรณ์ของหนานอี้กับต้าเหลียงของพวกเขาแตกต่างกันสิ้นเชิง แต่ที่จริงแล้ว ประเทศทั้งสี่บนดินแดนทั้งสี่ทิศ ชุดของประเทศเฟิ่งจะดูยิ่งใหญ่ตระการตามากกว่าอยู่บ้าง โดยเฉพาะชุดของหญิงสาว
แต่ชุดในราชสำนักกับชุดของพระชายาบางส่วนในประเทศต้าเหลียงก็พิถีพิถันมากเช่นกัน โดยเฉพาะชุดของวันนี้ เทียบกับชุดหงส์ก็งดงามไม่ต่างกัน
ซูมู่ไห่มองอันหลิงหยุน “เจ้าเป็นใครกันแน่”
อันหลิงหยุนก้มลงมองอยู่แวบหนึ่ง แล้วมองไปทางเซวียนเหอ เซวียเหอก็เปลี่ยนเป็นชุดบุรุษของประเทศต้าเหลียง เขาไม่ได้สวมใส่สิ่งอื่น สวมเสื้อลายปักที่ท่านอ๋องใส่กัน เป็นสีแดง แขนเสื้อกว้างดูสวยงาม
อันหลิงหยุนนับว่าดูออกแล้วว่า เซวียนเหอนั้นหมายความว่าอย่างไร
ซูมู่ไห่สวมใส่ชุดของประเทศหนานอี้ สีดำอีกทั้งยังดูต่างกัน
อันหลิงหยุนก็ไม่ค่อยชื่นชอบเท่าไหร่
“ข้าเป็นพระชายาเสียนของประเทศต้าเหลียง และยังเป็นมกุฎราชกุมารีของหนานอี้ อันหลิงหยุน”
ซูมู่ไห่อึ้งไปสักพัก อันหลังหยุนไม่ค่อยใส่ใจนัก เดินไปกุมข้อมือของซูมู่ไห่เอาไว้ เริ่มตรวจชีพจร แน่ใจแล้วว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก จึงพูดว่า “ข้าเป็นน้องสาวของท่าน ท่านโตกว่าข้าอยู่นิดหน่อย”
“……”ซูมู่ไห่ดึงมือออกทันควัน หมุนตัวเดินออกไปจากลานบ้าน อันหลิงหยุนหยิบเข็มเงินออกมา ฉีดไปยังแผ่นหลังของซูมู่ไห่ คนยืนอยู่ตรงนั้นไม่เคลื่อนไหว เซวียนเหอประหลาดใจ “สกัดจุด”
“ข้าสกัดจุดไม่เป็น ข้าเคยศึกษาแล้ว ว่าสามารถสกัดจุดคนได้หรือไม่ แต่ก็ไม่ไหว เพียงแต่ทำให้ชาเท่านั้น เขาขยับไม่ได้ชั่วคราว ท่านช่วยข้าพยุงเขาเข้าไปในห้อง ข้าจะรักษาโรคให้เขา”
ซูมู่ไห่นอนลง ราวกับสองมือต้องการกำหมัดแน่น แต่เขาก็ไม่ไหว ทั้งร่างกายชาไปหมด ขยับไม่ได้เลย
อันหลิงหยุนโน้มตัวปลดเสื้อตัวนอกของซูมู่ไห่ออก ข้างในของเขาเป็นชุดสีขาวทั้งตัว
“อันหลิงหยุน”ซูมู่ไห่ยังคงคิดว่าอันหลิงหยุนจะทำเรื่องที่ไม่เหมาะสม ใช้แรงพูดออกมาสามคำ โมโหจนหน้าแดงก่ำ
อันหลิงหยุนจับแล้วพูดว่า “ข้าไม่ได้พกเอาเครื่องฟังเสียงหัวใจมา หากนำมาด้วย ก็ไม่ต้องยุ่งยากเช่นนี้แล้ว แต่ก็นับว่าท่านโชคดี เป็นพี่ชายของข้า ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่สนใจท่าน”
อันหลิงหยุนพูดจบก็หยิบเอาเข็มเงินออกมา แทงเข้าไปให้กับซูมู่ไห่อยู่หลายเข็ม
ซูมู่ไห่ค่อยๆหายใจไม่รุนแรง อันหลิงหยุนพูดว่า“ปอดของท่านบวมน้ำเป็นเวลานาน ข้าจะปล่อยน้ำในปอดให้ท่าน ”
อันหลิงหยุนหยิบเอามีดออกมา ปลดเสื้อผ้าของซูมู่ไห่ออก จิ้มเข็มลงไปยังใต้รักแร้ของเขา ยืนยันตำแหน่งแล้ว ก็เอาปิ่นปักผมลงมา ปิ่นปักผมของอันหลิงหยุนไม่เหมือนกับคนอื่นๆ นางเตรียมไว้เพื่อใช้ในวิชาแพทย์โดยเฉพาะ
ปลายแหลมของปิ่นปักผมกับหัวเข็มต่างกันไม่มากนัก เป็นท่อที่มีโพรง อีกฝั่งหนึ่งเปิดออกสามารถทะลุถึงกันได้
“เอาถังน้ำมาหนึ่งใบ ”อันหลิงหยุนสั่งการ มีคนรีบเอาถังน้ำมาให้กับอันหลิงหยุนทันที
วางไว้ให้อีกฝั่ง อันหลิงหยุนพูดว่า “ขยับตัวเขาออกมาหน่อย”
เซวียนเหอรีบทำตามคำสั่งทันที อันหลิงหยุนมือหนึ่งจับชีพจร อีกมือก็ถอนเอาเข็มเงินออกโยนไปอีกทาง ใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าไป
ซูมู่ไห่เบิกตามอง ยังคิดว่าคงจะเจ็บเจียนตายแน่ แต่ปรากฏว่าร่างกายไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย
อันหลิงหยุนแทงถูกจุด และสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“คงต้องเจ็บอีกหลายวัน แต่หากไม่ปล่อยน้ำออกมา ไม่ช้าก็เร็วต้องตายเป็นแน่”
ซูมู่ไห่ไม่พูดจา เพียงแต่สังเกตอันหลิงหยุนเท่านั้น
ในมือของอันหลิงหยุนมีเสียงของน้ำไหลส่งผ่านออกมา น้ำบางส่วนไหลออกมาจากปิ่นปักผม ข้างในยังคงสะอาดมาก
เซวียนเหอที่อยู่ข้างๆก็มองอันหลิงหยุนแวบหนึ่ง ดูนางราวกับเหนื่อยมาก ถามขึ้นว่า “ไม่สบายหรือเปล่า”
“ข้าตั้งครรภ์ ร่างกายอ่อนแอ ท่านช่วยเอาเก้าอี้มาให้ข้าที ข้าจะนั่งสักพัก”
เซวียนเหอถาม “ให้ข้าทำเถอะ เจ้านั่งพักก่อน”
“ไม่เป็นไร ตอนนี้เข็มแทงเข้าไปข้างในแล้ว ขยับเพียงเล็กน้อยก็อาจกระทบต่อส่วนอื่นๆของปอด ข้าขยับไม่ได้ ท่านเองก็ไม่แน่ว่าจะจับให้มั่นคงได้”
เซวียนเหอไปยกเก้าอี้มาหนึ่งตัว อันหลิงหยุนนั่งลง สูดลมหายใจหนึ่งเฮือก
น้ำในถังน้ำมีปริมาณเศษหนึ่งส่วนสามแล้ว
อันหลิงหยุนสูดลมหายใจอีกเฮือก มืออีกข้างก็ทำการจับชีพจรอีกครั้ง
“ทำไมเยอะอย่างนี้”เซวียนเหอรู้สึกคาดไม่ถึง
ซูมู่ไห่ไม่พูดอะไร หลับตาลง
อันหลิงหยุนพูดว่า “ที่จริงร่างกายของเขาปรากฏโรคมานานแล้ว แต่เขาอดทนไว้ไม่ยอมพูด มองดูภายนอกแล้วเขาไม่ได้ผอมแห้ง แต่ที่จริงล้วนเป็นการบวมน้ำ ”
“ต้องทำการชะล้างเช่นนี้ทุกวันหรือ”
“ไม่ต้อง ข้าสามารถรักษาเขาได้ เพียงแต่หากไม่นำเอาน้ำในปอดออกมา ภายหน้าก็ไม่อาจดีขึ้น”
อันหลิงหยุนมองน้ำในถังที่เพิ่มขึ้นจนได้ครึ่งถังแล้ว และไม่มีน้ำไหลออกมาอีกแล้ว อันหลิงหยุนจึงค่อยๆดึงปิ่นปักผมออกมา
มืออีกข้างหยิบเอาขวดยาผงออกมาโรย แล้วเอาผ้ามากดเอาไว้
หลังจากลุกขึ้นแล้วอันหลิงหยุนก็ใช้เชือกมัดให้กับซูมู่ไห่ ถามเขาว่า “มีความรู้สึกเจ็บบ้างหรือไม่”
“เล็กน้อย”
ซูมู่ไห่อดทนเอาไว้ จึงไม่ปริปากออกมา แต่ได้เริ่มรู้สึกเจ็บแล้ว
อันหลิงหยุนหยิบเข็มเงินออกมาอีกหลายอัน ทิ่มแทงไปยังร่างกายของซูมู่ไห่ “จะไม่รู้สึกเจ็บชั่วคราว ท่านพักผ่อนก่อนสักพัก”
ซูมู่ไห่หนังตาหนักอึ้ง หลับตาลงไม่นานก็นอนหลับไปแล้ว
อันหลิงหยุนเห็นเขานอนแล้ว ก็มองไปยังเซวียนเหอ “ให้คนเก็บกวาดที่นี่สักหน่อย แล้วให้พวกเขาออกไปให้หมด”
เซวียนเหอโบกมือ คนถอยออกไป อันหลิงหยุนกรีดข้อมือ ง้างปากของซูมู่ไห่ให้เขาดื่มเลือด พอสมควรแล้ว คิ้วของซูมู่ไห่ขมวดนิดหนึ่ง จะตื่นแล้ว
อันหลิงหยุนดึงมือออก คิดจะพันบาดแผล เซวียนเหอรีบดึงข้อมือของอันหลิงหยุนเอาไว้
ใช้ปากประกบไปที่แผล ดูดเลือด
อันหลิงหยุนเงยหน้ามองเซวียนเหอ สีหน้าประหลาดใจ
“เซวียนเหอจ้องมองอันหลิงหยุน ดื่มเลือดอย่างเต็มกำลัง อันหลิงหยุนสูดลมหายใจลึก
“ข้าจะเป็นอันตรายได้นะ”
เซวียนเหอดูดเลือดแรงๆหนึ่งคำ ค่อยปล่อยข้อมือของอันหลิงหยุนออก อันหลิงหยุนพันแผลที่ข้อมือ นั่งอยู่อีกฝั่งมองเซวียนเหอ
ซูมู่ไห่ก็ตื่นแล้ว เขาลูบข้างตัวอย่างรู้สึกประหลาดใจ ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ราวกับเป็นความฝัน ตอนนี้ไม่มีบาดแผลแล้ว
ซูมู่ไห่ลุกขึ้นนั่ง ลูบไล้ไปมา อันหลิงหยุนรู้สึกอ่อนเพลีย เลือดนะไม่ใช่น้ำ
หากแค่ซูมู่ไห่คนเดียวก็ยังดี แต่มีเซวียนเหอเพิ่มมาอีกคนมันมากไปแล้ว
อันหลิงหยุนมองเซวียนเหออย่างประหลาดใจ “เพราะอะไร”
“หลังจากครั้งนั้น ข้าก็อยากจะดื่มมันอีกครั้ง ร่างกายข้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ข้าไม่เพียงแต่มีพละกำลังมากขึ้น อีกทั้งสมองแจ่มใส จนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยไม่สบายมาก่อน”
“……”
อันหลิงหยุนนึกถึงฮ่องเต้ชิงหยู่ บางทีเขาก็อาจจะเป็นเหมือนกัน
แต่ทำไมกงชิงวี่จึงไม่เป็นเช่นนี้
อันหลิงหยุนลูบข้อมือที่กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ไม่ได้พูดอะไร
“เจ้าไม่เห็นหรือว่าร่างกายข้าสูงขึ้นกว่าแต่ก่อน หน้าตาก็ดูหล่อเหลาขึ้นหรือ”มุมปากของเซวียนเหอหยักขึ้น อันหลิงหยุนสังเกตอย่างละเอียด เหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ
อันหลิงหยุนนึกถึงกงชิงวี่อย่างละเอียด แต่ก็ไม่เห็นอะไร
เป็นเรื่องของสภาวะจิตใจกระมัง
อันหลิงหยุนต้องการพักผ่อน “ข้าต้องการพักผ่อน ข้าขอตัวก่อนล่ะ”
ลุกขึ้นแล้วอันหลิงหยุนก็มองไปยังซูมู่ไห่ที่นั่งอยู่บนเตียง เขาก็ฟื้นฟูได้ดีไม่น้อย
และเขายังดูผอมซูบไป ใบหน้าก็ไม่บวมเบ่งแล้ว
อันหลิงหยุนออกจากประตู ซูมู่ไห่ก็นอนกลับลงไป อารมณ์สับสนวุ่นวาย
เขาไม่รู้สึกทรมานแล้ว เพราะการรักษาของอันหลิงหยุน