ยอดหมอยาของอ๋องเสียน / หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน - บทที่ 884 ทำไมท่านเพิ่งมา
บทที่ 884 ทำไมท่านเพิ่งมา
อันหลิงหยุนนอนลงดึงผ้าห่มขึ้น เซวียนเหอนั่งลงมองนาง “เจ้าโกรธหรือ”
“ไม่โกรธ ข้าอยากพักผ่อนสักพัก อีกเดี๋ยวท่านให้คนต้มยาเอาไปให้ซูมู่ไห่ดื่มด้วย”
“ทำไมเจ้าไม่บ่นสักคำ”
“ท่านก็ดื่มไปแล้ว บ่นไปก็ไร้ประโยชน์ ครั้งหน้าข้าจะป้องกันเจ้าเอาไว้ด้วย ”อันหลิงหยุนหลับตาลง เซวียนเหอลุกขึ้น ห่มผ้าห่มให้กับอันหลิงหยุน
“ข้าอยากได้ตัวเจ้าตอนนี้เลยจริงๆ ”
อันหลิงหยุนลืมตาขึ้น “ท่านคิดว่าท่านทำได้หรือ”
“……”เซวียนเหอจากไป “ก็เพราะรู้ว่าไม่สามารถทำได้ ข้าก็เลยไม่ทำเช่นนั้น หากเทียบการมองเจ้ากับเสียเจ้าไป ข้ายินดีจะมองเจ้าอยู่อย่างนี้ ”
“ข้าไม่เข้าใจความรู้สึกเช่นนี้ของท่าน แต่ข้าสามารถเข้าใจท่านได้”อันหลิงหยุนมองไปยังประตู
เซวียนเหอเองก็เหลียวไปมองแวบหนึ่ง หมุนตัวหันมามองอันหลิงหยุน “ข้ารู้ว่าเขามาแล้ว แต่เขาจะเข้ามาไม่ได้ในช่วงเวลาอันสั้นนี้ ”
“ท่านไปก่อนเถอะ”อันหลิงหยุนรู้สึกว่าเซวียนเหออย่าพบหน้ากับกงชิงวี่เป็นดีที่สุด
“นอนเถอะ”
เซวียนเหอลุกขึ้นจากไป อันหลิงหยุนจึงหลับตาลงพักผ่อน
พักผ่อนหนึ่งคืน อันหลิงหยุนตื่นขึ้นตอนเช้าไปดูซูมู่ไห่ ซูมู่ไห่ไม่เป็นอะไรแล้ว
กำลังมองภาพวาดในห้อง อันหลิงหยุนเคาะประตูก่อนเข้าไป ซูมู่ไห่หมุนตัวกลับมามองอันหลิงหยุน ราวกับใช้ความคิดอยู่ชั่วครู่ แต่ก็ไม่เปิดปากพูดอะไร
อันหลิงหยุนเข้าประตูไป มองไปยังถ้วยยาที่วางอยู่บนโต๊ะ ข้างในว่างเปล่า แสดงว่าดื่มยาไปแล้ว
แต่ตอนนี้เป็นตอนเช้า เช่นนั้นก็คงจะดื่มตั้งแต่เมื่อคืน
เดินไปตรงหน้าซูมู่ไห่ อันหลิงหยุนยื่นมือออกไปกำข้อมือของซูมู่ไห่ เริ่มตรวจชีพจรให้เขา ร่างกายดีขึ้นแล้ว
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าต้องกินยาตรงเวลา ทุกวันวันละครั้ง กินไปก่อนเจ็ดวัน หลังจากเจ็ดวันข้าจะตรวจให้เจ้าอีกครั้ง ท่านน่าจะไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ถ้ายังไม่หาย ข้าจะเขียนใบสั่งยารักษาให้อีกครั้ง ”
อันหลิงหยุนวางมือของซูมู่ไห่ลง ซูมู่ไห่หลุบตาลงถามขึ้นว่า “เจ้ารู้ความสัมพันธ์ของพวกเราตั้งแต่ต้น ทำไมไม่บอกข้า ”
“เจ้าเคยถามหรือ ”อันหลิงหยุนเดินไปนั่งลง
ซูมู่ไห่หมุนตัวเดินไปนั่งลง “แม้ว่าเจ้าจะเป็นน้องสาวข้า แต่ข้าก็ไม่ได้รู้สึกยินดีอะไร เจ้าเองก็รู้ถึงความไร้น้ำใจของราชวงศ์ เสด็จอากับเสด็จพ่อเป็นปรปักษ์กัน ทำไมเจ้าต้องดีกับข้า มีจุดประสงค์อะไร ”
“หนานอี้ตอนนี้เหลือท่านเป็นองค์ชายเพียงคนเดียวแล้ว ข้าเป็นมกุฎราชกุมารี หากไม่มีคนขึ้นเป็นรัชทายาทของหนานอี้ ข้าก็จะกลายเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ในภายหน้า ข้าไม่อยากเป็นฮ่องเต้ เหตุผลนี้เจ้ารู้สึกฟังขึ้นหรือไม่”
“อะไร ข้าคนเดียว”
ซูมู่ไห่รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง แม้ว่าองค์ชายใหญ่กับองค์ชายรองจะถูกลดฐานะลง แต่ก็ยังมีองค์ชายสามซูมู่หรง ทำไมจึงบอกว่าเหลือเขาเพียงคนเดียว
“ซูมู่หรงได้จากไปแล้ว ส่วนเรื่องที่เขาตายอย่างไรนั้นข้าจะไม่บอกท่าน แต่เขาตายแล้วอย่างแน่นอน และเสด็จพ่อของท่านฮ่องเต้หนานอี้ ตอนนี้อยู่ที่จวนอ๋องเสียน เรื่องของซูมู่หรงข้าจะบอกกับเขาเอง ส่วนท่าน คิดอยากจะเป็นฮ่องเต้ของประเทศหนานอี้ในภายภาคหน้าหรือไม่ ”
“ทำไมเจ้าจึงคิดว่าจะให้ใครขึ้นเป็นฮ่องเต้ก็ได้ ”ซูมู่ไห่สีหน้าเคร่งขรึม หนานอี้เป็นประเทศที่แข็งแกร่งมาก แต่ถูกอันหลิงหยุนพูด เหมือนกับเป็นเพียงดินแดนเล็กๆ ที่นางสามารถจัดการได้ตามใจชอบ
อันหลิงหยุนอธิบายว่า “ข้าเป็นมกุฎราชกุมารี หากข้าไม่สละตำแหน่ง ภายหน้าหนานอี้ก็เป็นของข้า ข้าจะจัดการอย่างไรก็เป็นเรื่องของข้า
ท่านไม่เป็น ข้าจะให้ลูกชายข้าเป็น ภายหน้าดินแดนทั้งสี่ทิศ ล้วนเป็นของข้า ข้ามีลูกชายเยอะมาก”
“ได้ยินว่าเจ้ามีลูกชายห้าคน ”ซูมู่ไห่คิดอยู่ทั้งคืน เขาได้ยินมาตั้งนานแล้ว
อันหลิงหยุนเองก็ไม่ปิดบัง “เป็นเช่นนั้นจริง”
“เจ้าช่างเหมือนตัวประหลาด”ซูมู่ไห่ไม่เคยได้ยินมาก่อน คนคนเดียวจะสามารถคลอดลูกมากมายในครั้งเดียว และนางยังอายุน้อยมาก
อันหลิงหยุนไม่ใส่ใจ “ท่านไม่เห็นด้วยก็แล้วไปเถอะ แต่หากท่านเห็นดีด้วย ข้ากลับไปแล้วจะทูลกับเสด็จพ่อท่านเอง”
“……”ซูมู่ไห่ไม่ได้ตอบในทันที อันหลิงหยุนก็ถือว่าเขาได้ตอบตกลงแล้ว
อันหลิงหยุนลุกขึ้นจะจากไป ซูมู่ไห่หมุนตัวไปมอง “ช้าก่อน”
อันหลิงหยุนหมุนตัวกลับมา “มีเรื่องอะไร”
“เจ้าเคยชอบข้าหรือไม่ ”ซูมู่ไห่รู้สึกค้างคาใจ
อันหลิงหยุนมองซูมู่ไห่สักพัก “เกิดเป็นราชา ท่านย่อมมีหญิงสาวมากมาย ท่านเองก็คงจะชอบผู้อื่นคนแล้วคนเล่า ราชานั้นน้อยมากที่จะทุ่มเทรักให้คนคนเดียว ข้าไม่เชื่อว่าทุกคนที่ข้าพบเจอทุกคนจะมีรักเดียวใจเดียว แต่จนถึงตอนนี้คนที่ข้าพบเจอต่างก็รักเดียวใจเดียวมาก นี่ทำให้ข้าล้มเลิกความคิดไป
ข้ารู้สึกประหลาดใจตลอด แต่พอมาคิดตอนนี้ กาเข้าฝูงกาหงส์เข้าฝูงหงส์ เช่นนี้ก็ชัดเจนแล้ว ”
“เจ้ายังไม่ตอบข้า”ซูมู่ไห่ไม่ฟังเรื่องอื่น
อันหลิงหยุนรู้สึกวิตกกับความฉลาดของเขา“ข้าเป็นคนรักเดียว ข้ามีสามีเพียงคนเดียวเท่านั้น ”
พูดจบอันหลิงหยุนก็หมุนตัวจากไป
ซูมู่ไห่อึ้งอยู่เป็นนายกว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จากนั้นก็ตามออกไป อันหลิงหยุนได้ออกจากลานบ้านไปเดินชมสวนแล้ว
ซูมู่ไห่เตรียมจะตามไป ก็เห็นเซวียนเหอเดินออกมา ไปหาอันหลิงหยุนทั้งสองพูดคุยและเดินไปข้างหน้า
เขาไม่ตายใจยังคงเดินตามอยู่ข้างหลัง อันหลิงหยุนเห็นซูมู่ไห่เดินตามมา ซ้ายคนหนึ่งขวาคนหนึ่ง
ทั้งสามคนเดินชมสวน ไม่มีใครพูดอะไร เดินไปข้างสระน้ำอันหลิงหยุนมองเงาของสามคนบนผิวน้ำ ล้วนไม่เกี่ยวข้องกัน ทำไมจึงมารวมตัวอยู่ด้วยกัน
“พรุ่งนี้ข้าคงต้องไปจากที่นี่แล้ว ท่านก็สมควรไปแล้ว ไม่เช่นนั้นหากพบหน้ากันจะไม่เป็นผลดีกับท่าน ”อันหลิงหยุนเตือนด้วยความหวังดี
“บางทีอาจไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อวานข้าได้ดื่มยาของเจ้าแล้ว รู้สึกร่างกายข้าจะเต็มไปด้วยไอพิฆาต กำลังอยากลองความสามารถอยู่พอดี ”
เซวียนเหอนั้นไม่อยากจากไป นางไม่รับรู้เลยสักนิด
เซวียนเหอหมุนตัวเดินไป อันหลิงหยุนมองเขา เขาเดินไปไกลแล้ว
อันหลิงหยุนไม่ได้ตามไป มองไปยังผิวน้ำ ข้างในยังมีฝูงปลา อันหลิงหยุนหยิบอาหารปลาขึ้นมาหนึ่งกำโยนเข้าไปข้างใน
ฝูงปลาเริ่มแย่งชิง อันหลิงหยุนเหม่อมองฝูงปลา
ซูมู่ไห่ถามขึ้น “ซูมู่หรงตายแล้วจริงหรือ”
“อืม ”อันหลิงหยุนตอบรับ หมุนตัวกลับไป
ซูมู่ไห่ถาม “ทำไมเจ้าจึงแน่ใจว่าข้าจะเป็นผู้สืบบัลลังก์
“เสด็จพ่อของเจ้าร่างกายไม่สู้ดีนัก ข้าช่วยปรับสมดุลต้องใช้เวลาช่วงหนึ่ง แต่เหมือนกับว่าเขาไม่ได้หลงในตำแหน่งฮ่องเต้ของเขาแล้ว อีกอย่างซูอู๋ซินก็กลับมาแล้ว หากว่าเขาเป็นฮ่องเต้ ก็ราวกับถูกควบคุมไร้อิสระ คนเย่อหยิ่งเช่นเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ถือสา
มีใจจะสืบทอดตำแหน่งให้กับซูมู่หรงตั้งแต่แรก เสียดายซูมู่หรงได้ตายไปแล้ว เขาก็สืบทอดต่อไปไม่ได้ ส่งต่อให้กับข้าเขาก็ไม่ยินยอม
ที่สมัยของเขาต้องแย่งชิงบัลลังก์ก็เพราะรู้สึกไม่ยินยอมต่อซูอู๋ซิน แต่เขาดูเหมือนจะชนะแล้ว แต่พอแก่ตัวลงก็แพ้ เขาย่อมไม่ยินดี
พอเป็นเช่นนี้ เขาก็ต้องวางแผนของตนต่อในราชสมัยต่อไป
เขาพอใจซูมู่หรงที่สุด เสียดายไม่อยู่แล้ว หากว่าเขาจะดึงดันส่งต่อบัลลังก์ให้กับข้า เช่นนั้นก็ยิ่งแพ้ยับเยิน คำพูดเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องส่งต่อให้กับลูกชาย
หากว่าข้าสามารถพูดกล่อมซูอู๋ซินได้สำเร็จ เจ้าคิดว่าบัลลังก์จะส่งต่อให้ใคร”
“มิน่า”
ซูมู่ไห่ไม่พูดอะไรอีก ทั้งสองกลับไปนั่งอยู่ที่ลานบ้าน
เป็นนานกว่าที่ซูมู่ไห่จะถามขึ้นว่า “ทำไมไม่ชอบข้า กงชิงวี่ดูแล้วก็เท่านั้นเอง”
“การชื่นชอบคนคนหนึ่ง กับคนคนหนึ่งที่จะอยู่ด้วยกันได้ยาวนาน ไม่ใช่ว่าตัวเขาจะดีหรือไม่ในสายตาเจ้า แต่ว่าเขาดีหรือไม่ในสายตาของข้า แม้ว่าทุกคนบนผืนแผ่นดินทั้งสี่ทิศต่างก็รู้สึกว่าเขาไม่ดี แต่ข้ารู้สึกว่าเขาดี ก็เพียงพอแล้ว
เริ่มจากวันที่ข้าเห็นเขาครั้งแรกแล้วแน่ใจว่าสามารถอยู่กับเขาได้ ข้าได้ทุ่มเททั้งหมดเพื่อเสี่ยงเป็นครั้งสุดท้าย
ข้าไม่เปลี่ยนความคิดที่จะอยู่ร่วมกับเขาเด็ดขาด ยิ่งจะไม่จากไปไหนเพียงเพราะมีคนที่ดีกว่า หรือยอดเยี่ยมกว่าเขา
สำหรับเสื้อผ้า อัญมณี บ้าน หรือสิ่งอื่นใดคนเรานั้นสามารถที่จะรู้สึกชื่นชอบของใหม่เบื่อของเก่าได้ มีเพียงคนรักเท่านั้นที่ไม่สามารถจะทำได้
ข้าเลือกเขาแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบจนถึงที่สุด
หากว่าแต่แรกข้าไม่แน่ใจว่าจะสามารถเดินเคียงข้างเขาไปจนสุดปลายทางของชีวิต เช่นนั้นข้าจะแต่งงานมีลูกกับเขาทำไม
แม้ว่าข้าเองก็ไม่ได้จะขายตัวเอง และก็ไม่ได้สัญญาว่าชาตินี้จะไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ถ้าหากว่าข้าไม่ได้คิดว่าชีวิตนี้จะเดินไปข้างหน้ากับเขาด้วยความไม่ลังเล แล้วข้าจะรับทุกสิ่งที่เขาให้ข้าอย่างไม่รู้สึกเสียดายได้อย่างไร”
เสียงเปิดประตูดังขึ้น อันหลิงหยุนรู้สึกตกใจ หมุนตัวไปมอง กงชิงวี่อุ้มคนหนึ่ง จูงอยู่คนหนึ่ง ปรากฏตัวอยู่ที่หน้าประตู
อันหลิงหยุนอ้าปาก “ทำไมท่านเพิ่งมา