ยอดหมอยาของอ๋องเสียน / หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน - บทที่ 908 ซูมู่หรงอยู่ในท้อง
บทที่ 908 ซูมู่หรงอยู่ในท้อง
อันหลิงหยุนอายุหนึ่งเดือนแล้ว ลืมตาขึ้นมาก็สามารถมองเห็นเฟิ่งป่ายซูกับซูอู๋ซินทั้งสองคนแล้ว เพราะเรื่องของการอุ้มลูก ทั้งสองมักจะแย่งกันไปมาอยู่บ่อยๆ
แต่ทุกครั้งคนที่แพ้ก็เป็นซูอู๋ซินเสมอ อยู่ต่อหน้าเฟิ่งป่ายซู ซูอู๋ซินมักจะแพ้เสมอ
“ท่านว่าจะให้ชื่อว่าอะไรดี?” ขณะที่เฟิ่งป่ายซูลูบใบหน้าเล็กที่เนียนนุ่มของอันหลิงหยุน ก็สอบถามไปด้วย
ซูอู๋ซินนั่งอยู่ด้านข้าง กุมมือเล็กๆของอันหลิงหยุนเอาไว้
“หลิงหยุนเถอะ เฟิ่งหลิงหยุนดีไหม?” ซูอู๋ซินคิดถึงลูกสาวคนนั้น ในใจเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ถึงตอนนี้ก็ยังยอมรับไม่ได้ เดิมทีเขาคิดจะทำลายประเทศต้าเหลียงให้ราบคาบด้วยความโกรธ แต่เขาไปแล้ว คนคนนั้นผมขาวไปทั้งหัวแล้ว ได้ยินว่าเพราะคลอดลูกสาวถึงได้คลอดยาก เขายังจะพูดอะไรได้อีก?
เฟิ่งป่ายซูถาม: “ท่านเป็นผู้ชายอกสามศอก จะให้ลูกสาวใช้นามสกุลของข้า?”
“ใช้ของใครแล้วอย่างไร นอกจากนี้ตอนนี้ประเทศเฟิ่งก็มีแค่เด็กคนนี้ ข้าก็อายุขนาดนี้แล้ว ยังหวังจะคลอดอีกหรือ ความรักของเราให้นางทั้งหมดเถอะ”
ซูอู๋ซินอุ้มอันหลิงหยุนขึ้นมา: “หลิงหยุน พ่อว่าหวังเจ้าจะเป็นหลิงหยุนคนนั้น”
อันหลิงหยุนหลับตาลงอย่างจนปัญญา ทอดถอนใจในใจเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง เจ้าคนฆ่ามีดพันเล่ม(ไม่ได้ตายดี)ซูมู่หรง เจ้ารอก่อนเถอะ ชาตินี้อย่าได้พบกันอีกเด็ดขาด มิเช่นนั้นไม่ยอมอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกันแน่
หยุนโล๋ชวนจามออกมาหนึ่งครั้ง รู้สึกว่าคนที่อยู่ในท้องเคลื่อนไหว ก้มหน้าลงไปมองท้องที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย หยุนโล๋ชวนรู้สึกหดหู่เล็กน้อย เหลือบมองไปยังลูกสาวที่กำลังถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขนของแม่นม ลุกยืนขึ้นมา
“พวกซื่อจื่อกับจวิ้นจู่มาหรือยัง?”
“มาแล้ว อยู่ในตำหนักของไทเฮา” แม่นมตอบ หยุนโล๋ชวนเดินไปทางตำหนักของไทเฮา
วันนี้หยุนจิ่นมาด้วย อุ้มเด็กคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขน
หยุนโล๋ชวนเข้าประตูมาหยุนจิ่นคำนับ หยุนโล๋ชวนเดินไปอุ้มเด็กไว้ในอ้อมแขน พอเห็นเสี่ยวหยุน ก็ยิ้มออกมา: “เสี่ยวหยุนเป็นเด็กดีหรือเปล่า คิดถึงป้าหรือเปล่าน้า?”
หยุนจิ่นกล่าวว่า: “วันนี้เป็นเด็กดีมากไม่ได้ร้องไห้ด้วย พี่ชายทั้งหลายก็คอยเอาใจ”
“อืม” หยุนโล๋ชวนมองไปรอบๆ เด็กๆอยู่กันทุกคน เข้าไปคำนับไทเฮาแล้ว ก็มาพูดคุยกับพวกเด็กๆ
“เจ้าห้า เจ้ามานี่ เจ้าว่าในท้องป้าเป็นน้องสาวหรือว่าน้องชาย?”
เจ้าห้าเหลือบมอง ขมวดคิ้วเล็กน้อย
หยุนโล๋ชวนแปลกใจ: “เป็นอะไรไป?”
“เป็นน้องชาย”
“งั้นหรือ?” หยุนโล๋ชวนกลับเชื่อ หมอหลวงก็พูดแบบนี้เหมือนกัน
จู่ๆเจ้าห้าก็บอกว่า: “ท่านยาย เรากลับกันเถอะ”
หยุนจิ่นฟังพวกเด็กๆมาตลอดอยู่แล้ว รู้ว่าพวกเขาไม่ชอบเข้าวัง ลุกขึ้นก็ขอตัวกลับไป เสี่ยวหยุนก็อุ้มกลับไปพร้อมกันด้วย
ระหว่างทางกลับไปเจ้าห้าเงียบไม่พูดอะไรเลย กลับไปถึงจวนอ๋องเสียนก็ไปยังลานโอวหลาน
ประตูเปิดออก เจ้าห้ามองไปทางผู้ชายที่ผมขาวเต็มหัว เดินเข้าไปข้างใน
“ท่านพ่อ!”
กงชิงวี่เงยหน้าขึ้นช้าๆ สายตาเฉื่อยชาไร้ชีวิตชีวา: “อืม”
“ครูผู้ฝึกของท่านแม่คนนั้น มาแล้ว”
สายตาที่ไม่มีความรู้สึกมาหลายเดือน ถูกย้อมด้วยแสงแปลกประหลาดเล็กน้อย กงชิงวี่มองไปที่ลูกชาย: “พูดมา”
เจ้าห้ากล่าวว่า: “แต่เขาอยู่ในท้องเสด็จป้า”
“……”
นานพักใหญ่กงชิงวี่ถึงจะตอบสนองกลับมา: “งั้นหรือ?”
เจ้าห้าหันหลังจากไป กงชิงวี่ลุกขึ้นและเข้าไปในวัง
ฟ้ามืด หยุนโล๋ชวนก็ง่วงแล้ว ไปพักผ่อนแต่หัวค่ำแล้ว
ตั้งแต่อันหลิงหยุนจากไป กงชิงวี่ก็ไม่เคยออกจากจวนเลย เล่าลือกันเขาแก่ชราผมหงอกหมดแล้ว วันนี้เข้าวังทำให้คนในวังตกใจกลัวกันหมด โดยเฉพาะไห่กงกง เมื่อเห็นกงชิงวี่ ตกใจจนคุกเข่าลงไปเลย
กงชิงวี่เดินตรงไปที่พระตำหนักจรุงจิต เข้าประตูเห็นฮ่องเต้ชิงหยินที่อยู่ข้างใน กล่าวว่า: “ข้าต้องการจะฆ่าคน!”
ตอนนี้ฮ่องเต้ชิงหยินไม่ได้พบหน้ากงชิงวี่มานานแล้ว นึกถึงเรื่องของอันหลิงหยุนในใจก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง ถึงอย่างไรก็เป็นบุคคลเช่นนั้นคนหนึ่ง
ดังนั้นฮ่องเต้ชิงหยินจึงกล่าวว่า: “ขอแค่เจ้าพอใจ ไม่ใช่จวิ้นจู่น้อยนั่นของเจ้า ข้าก็ยังสามารถอนุญาตให้เจ้าฆ่าได้คนสองคน”
เพื่อน้องชายแล้ว ฮ่องเต้ชิงหยินก็ทุ่มสุดตัวแล้ว หนึ่งเพราะรู้ว่าจนถึงตอนนี้กงชิงวี่ยังไม่เคยไปดูจวิ้นจู่เสี่ยวหยุนเลย ถึงอย่างไรการมาของนางก็ทำให้อันหลิงหยุนต้องตาย ฮ่องเต้ชิงหยินก็สามารถเข้าใจได้ หากเขาเจอกับเรื่องเช่นนี้ เขาก็คงจะเกลียดจวิ้นจู่น้อยนั่นไม่น้อยลงไปเหมือนกัน
กงชิงวี่กล่าวว่า: “ไม่ใช่เสี่ยวหยุน เสี่ยวหยุนเป็นลูกสาวสุดที่รักของข้า ข้าจะทำลงคอได้อย่างไร?”
“……” ฮ่องเต้ชิงหยินเลิกคิ้ว พูดอย่างกับเรื่องจริง เขาก็คนเป็นพ่อเหมือนกัน การอุ้มองค์หญิงเป็นสิ่งที่เขาต้องทำทุกวัน ถึงแม้เขาจะออกว่าราชกิจ ก็ยังต้องอุ้มเอาไว้ ทำไมไม่เห็นเขาอุ้มเอาไว้เลย?
แต่ว่าตอนนี้ฮ่องเต้ชิงหยินก็ไม่ถือสาเรื่องพวกนี้กับเขาคนนี้ เพียงแต่มองดูเขาแล้วถามว่า: “เจ้าต้องการจะฆ่าใคร?”
“องค์ชายที่อยู่ในท้องฮองเฮา” ทันทีที่กงชิงวี่กล่าวคำนี้ออกมา ฮ่องเต้ชิงหยินตกใจจนเกือบจะล้มลง
“กงชิงวี่ ข้าไม่ได้ไปทำอะไรให้เจ้านะ!” ฮ่องเต้ชิงหยินกล่าวอย่างเย็นชา
กงชิงวี่มองไปทางฉางกงกงที่อยู่ด้านข้าง ฉางกงกงตกใจจนหันหลังก็วิ่งหนีไปเลย กงชิงวี่ตวัดมือออกไป ฉางกงกงก็ล้มลงไปกับพื้นเจ็บจนแยกเขี้ยวยิงฟัน กระอักเลือดออกมา ถึงแม้จะไม่ตาย แต่ก็เกือบจะเอาชีวิตเหมือนกัน
ฮ่องเต้ชิงหยินกัดฟันกรอด: “บ้าไปแล้วหรือเจ้า! ข้าเป็นฮ่องเต้ เจ้าจะทำการกบฏใช่ไหม!”
“ข้าไม่ก่อการกบฏ แต่ข้าไม่มีทางยอมให้ซูมู่หรงเข้ามาในตระกูลกงชิง”
ฮ่องเต้ชิงหยินตะลึงไปครู่หนึ่ง เรื่องมีความน่าสงสัยกล่าวขึ้นมาทันที: “ประคองฉางกงกงขึ้นมา ไปสถาบันแพทย์หลวง”
ฉางกงกงตกใจจนมีเสียงพึมพำอยู่ในหัว ยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ถูกคนลากออกไปแล้ว
คนไปแล้ว ฮ่องเต้ชิงหยินถาม: “เกิดอะไรขึ้น?”
“เจ้าห้าบอกกับข้าว่า คนที่อยู่ในท้องฮองเฮาคือซูมู่หรง”
“……”
ค่อนข้างชัดเจนว่าฮ่องเต้ชิงหยินไม่เชื่อ มองกงชิงวี่อยู่สักพักถึงได้กล่าวว่า: “คำพูดของเด็กก็เชื่อถือไม่ได้ทั้งหมดหรอก ถึงแม้เจ้าห้าจะเป็นเด็กที่เก่งกาจ แต่เจ้าพูดเช่นนี้ ข้าก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี เจ้าก็อย่าเชื่ออะไรง่ายๆเช่นนี้เลย”
“ข้าเชื่อ” พูดจบกงชิงวี่ก็ออกไป ฮ่องเต้ชิงหยินเดินตามออกไป สุดท้ายก็เห็นเงาร่างคนสีดำสีเหลืองสองคนกำลังต่อสู้กันอยู่หน้าพระตำหนักจรุงจิต สู้กันไปตลอดทางจนถึงวังเฟิ่งหยี ทำให้ไทเฮาสองวังตกใจ
ฮั๋วไท่เฟยในตอนนี้กลายเป็นฮั๋วไทเฮาแล้ว ได้ยินว่าจะลงมือกับหยุนโล๋ชวน ก็รีบไปหาหวางฮองไทเฮา พบกันแล้วไม่รอให้พูด ก็ได้ยินหวางฮองไทเฮากล่าว: “ไม่ต้องพูดมาก รีบไปเถอะ!”
ไทเฮาสองวังมาถึงวังเฟิ่งหยี หยุนโล๋ชวนกำลังยืนอยู่ในลาน มองดูกงชิงวี่กับฮ่องเต้ชิงหยินอย่างตกอยู่ในภวังค์ ฮ่องเต้ชิงหยินถือกระบี่ไว้ในมือ ปกป้องหยุนโล๋ชวนที่อยู่ด้านหลัง เวลานี้กงชิงวี่ยืนอยู่ในลาน ถูกคนล้อมเอาไว้แล้ว
เพื่อปกป้องวังหลวง ฮ่องเต้ชิงหยินมีองครักษ์วังหลวงของตัวเอง และทั้งหมดล้วนแต่เป็นคนสวมชุดเกราะทั้งนั้น คนเหล่านี้ล้วนแต่ฟังคำสั่งเขาทั้งนั้น
“เจ้าสาม ข้าไม่อยากพูดเรื่องไร้สาระกับเจ้า แต่ว่าวันนี้เจ้าเป็นบ้าจะฆ่าลูกชายของข้า ข้าก็จะไม่จบไม่สิ้นกับเจ้า หากเจ้ายังมีความเป็นมนุษย์อยู่ก็จากไป มิเช่นนั้นวันนี้ข้าไม่ไว้หน้าเจ้าแน่!”
“ข้าไม่ต้องการหน้า ต้องการชีวิตของเขา!” กงชิงวี่เดินไปทางฮ่องเต้ชิงหยิน ฮ่องเต้ชิงหยินออกคำสั่ง คนที่อยู่รอบๆทั้งหมดต่างพากันลงมือ เวลานี้ยอดฝีมือสิบสองคน บวกกับเฟยยิง บินลงมาในลานในพริบตา ปกป้องกงชิงวี่เอาไว้
กงชิงวี่ตะลึงไปครู่หนึ่ง มองไปทางเฟยยิงที่อยู่ด้านข้าง
เฟยยิงมองกงชิงวี่ครู่หนึ่ง: “ก่อนที่พระชายาจะจากไปเคยฝึกฝนเราอย่างหนัก ให้เราปกป้องท่านอ๋อง ยังบอกอีกว่าให้ท่านอ๋องรอนางกลับมาให้ได้”
เฟยยิงก็ไม่มีทางเลือก ตอนนี้กงชิงวี่บ้าๆบอๆ หากเขาไม่พูดเช่นนี้ วันนี้ปกป้องเอาไว้ได้ พรุ่งนี้ก็ตายอยู่ดี