ยอดหมอยาของอ๋องเสียน / หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน - บทที่ 931 ถอนหมั้นกงชิงวี่
บทที่ 931 ถอนหมั้นกงชิงวี่
อ๋าวชิงไม่อยากพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว เขาถาม: “เช่นนั้นเจ้าคิดจะทำเช่นไร?”
“เมื่ออีกสามประเทศที่เหลือถูกโจมตีจนพ่ายแพ้ ประเทศต้าเหลียงก็จะบุกเข้ามาโจมตีเรา และในช่วงเวลานี้ ทั้งสามประเทศก็จะใช้เหตุผลว่าเมื่อเราร่วมมือกันก็จะสามารถรอดพ้นได้มาเกลี้ยกล่อมเรา เมื่อเป็นเช่นนี้ เหล่าขุนนางของประเทศเฟิ่งจะถูกสั่นคลอน ก็จะสร้างความกดดันให้ ข้าก็สามารถพูดได้แค่ว่ายอมตายก็จะไม่ยอมจำนน ต้องสู้รบให้ได้ เพราะนี้เป็นการทำตามเจตจำนงของประชาชน ถึงเวลา ท่านก็สามารถที่จะออกความคิดเห็นว่าจะไม่สู้รบ ขอเพียงเราแสดงแง่มุมที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกันอย่างชัดเจน ถึงจะทำให้เหล่าเสนาบดีลังเลได้
และไม่ว่าข้าจะตัดสินใจร่วมมือกับประเทศไหน กงชิงวี่ก็จะชิงบุกโจมตีพวกเขาก่อน เพราะใครก็ไม่สามารถแย่งภรรยาของเขาไปได้ รอให้ถึงตอนที่ใต้หล้าสงบลงมาแล้ว ก็ไม่ต้องให้เจ้ากับข้าเป็นห่วงแล้ว”
อ๋าวชิงมองดูเฟิ่งหลิงหยุน: “การปรากฏตัวของเจ้าตัดสินการอยู่หรือไปของเขา หากข้าฆ่าเจ้าแล้ว กงชิงวี่จะไม่โจมตีใช่หรือไม่?”
เฟิ่งหลิงหยุนส่ายหน้า: “เขาเป็นคนที่คำนึงถึงใต้หล้าในใจ เขาไม่ใช่คนเช่นที่ท่านคิด หากว่ามีวันเช่นนั้นจริงๆ เขาจะทำให้ใต้หล้าสงบลงมาก่อน ค่อยสังหารเจ้า จากนั้นก็จะตามข้าไป”
อ๋าวชิงหันหลังจากไป ไม่มีอะไรให้พูดแล้ว ประเทศเฟิ่งสูญเสียสถานการณ์ที่ได้เปรียบและอนาคตก็สิ้นหวังไปแล้ว นี่ก็คือชะตากรรมเช่นกัน
เฟิ่งหลิงหยุนมองดูกงชิงหยุนเยนที่เศร้าเสียใจอยู่บนเตียงมาตลอด เดินไปดูนาง
กงชิงหยุนเยนลุกขึ้นมองไปที่เฟิ่งหลิงหยุน ถามนาง: “ในใจของท่านพ่อ พวกเรากับใต้หล้าอันไหนสำคัญกว่ากัน?”
“ก็ต้องเป็นพวกเราอยู่แล้ว เขาสามารถละทิ้งใต้หล้านี้ได้ แต่เขาไม่สามารถละทิ้งพวกเราได้”
“เช่นนั้นเพราะอะไรถึงต้องทำสงคราม?”
“เพราะเขาคือเป็นคนที่มีจิตใจของผู้ที่เป็นจักรพรรดิ”
“ไม่เข้าใจ”
จักรพรรดิเกิดมาเพื่อทำให้ใต้หล้าสงบสุข ต้องทำให้ประชาชนมีชีวิตอยู่อย่างมั่นคงและมีความสุขในการประกอบอาชีพ ช่วงบนของแผ่นดินใหญ่ซื่อฟางยกทัพจับศึกกันตลอดปี เขาไม่สามารถที่จะทนเห็นและไม่สนใจได้ ในตอนที่เขาอายุยังน้อยอยู่ ก็คือในตอนที่อายุสิบเจ็บสิบแปด ก็คือตอนที่แต่งงานกับข้า ความจริงเขาก็ไม่ได้มีอุดมการณ์ที่ใหญ่มากขนาดนั้น แต่เมื่ออายุมากขึ้น ความคิดของเขาเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ เขารู้ว่า มีเพียงแต่รวมสถานที่แห่งนี้เข้าด้วยกันเท่านั้น ถึงจะสามารถอยู่อย่างมั่นคงและมีความสุขในการประกอบอาชีพ แม้ว่าจะต้องตาย แม้ว่าจะต้องทิ้งชื่อเสียงที่ไม่ดีเอาไว้ เขาก็ต้องทำเช่นนั้น
เขาเป็นเพียงแค่อ๋องเซ่เจิ้ง ถึงแม้จะได้ใต้หล้ามาอยู่ในมือแล้ว ก็ต้องส่งมอบให้ผู้อื่น ยิ่งไปกว่านั้นใจคนหนังท้องกั้นเห็นนอกไม่เห็นใจ หากว่าไท่จื่อไม่ไว้วางใจเขา เมื่อเขามีความดีความชอบที่อยู่เหนือกว่าแล้ว ยังจะฆ่าเขาอีกด้วย
เขาก็ไม่ใช่คนที่ไม่เห็นแก่ตัว จะต้องการใต้หล้านี้ไปเพื่ออันใดเล่า?”
กงชิงหยุนเยนนึกถึงไท่จื่อ ฮึออกมาอย่างเย็นชา: “อย่างไท่จื่อ? เขากลัวข้าที่สุดแล้ว ข้าตีเขาด้วยแส้ทีหนึ่งก็สามารถทำให้เขาถึงตายแล้ว เขายังกล้าทำร้ายท่านพ่อ?”
“เช่นนั้นก็หวังว่าถึงเวลาแส้ของเจ้าจะยาวพอ หากเขาทำร้ายท่านพ่อเจ้า เจ้าต้องไม่ปล่อยเขาไปเด็ดขาด”
กงชิงหยุนเยนพยักหน้า หนักแน่นขึ้นมามาก และก็ไม่เสียใจแล้ว
วันต่อมา
เฟิ่งหลิงหยุนออกว่าราชการ มีคนเอ่ยเรื่องแต่งงานขึ้นมา ต้องการจะให้เฟิ่งหยิงหยุนถอนหมั้น
เฟิ่งหลิงหยุนถามกลับไปว่า: “ในเมื่อต้องการจะถอนหมั้น เช่นนั้นแล้วมีเหตุผลอะไรหรือ? หากต้องการความร่วมมือจริงๆ ยังจะมีใครที่สามารถเหมาะสมมากกว่ากงชิงวี่อีกเล่า ไม่แน่ว่าจะมีวันนั้นจริงๆ อย่างน้อยเขาก็สามารถปกป้องเราได้”
“กระหม่อมไม่คิดเช่นนั้น กงชิงวี่นั่นนิสัยโฉดชั่วเหมือนหมาป่า สมัยก่อนพามงกุฎราชกุมารีของประเทศเรา ซึ่งก็คือพี่สาวของมงกุฎราชกุมารี อันหลิงหยุนไปแท้ๆ แต่ว่าพาไปไม่นานก็มีข่าวร้ายมา มงกุฎราชกุมารีอันหลิงหยุนสิ้นพระชนม์ที่ประเทศต้าเหลียงแล้ว หากว่าสิ้นพระชนม์แล้วเห็นพระศพก็ยังพอว่า แต่เราต้องการจะนำพระศพกลับมา ยังได้ยินมาว่าพระศพหายไปแล้ว
ในความเห็นของกระหม่อม ทั้งหมดนี้แล้วแต่เป็นแผนการชั่วร้าย(แบบลับๆ)ของกงชิงวี่ทั้งนั้น บัดนี้เขาก็จะมาประเทศเฟิ่งเราเพื่อแต่งงานกับมงกุฎราชกุมารีอีก นี่เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้อย่างเด็ดขาด”
เหล่าเสนาบดีเจตนาชัดเจน คุกเข่าอยู่บนพื้น
เฟิ่งหลิงหยุนมองดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อถูกบีบจนถึงทางตัน เช่นนั้นก็ปล่อยไปตามทางที่ตัน หากนางยอมจำนนในตอนนี้ เช่นนั้นในวันหน้าก็จะไม่มีโอกาสพูดอะไรอีก
เฟิ่งหลิงหยุนลุกขึ้นมองดูคนที่อยู่ด้านล่างครู่หนึ่ง กล่าวว่า: “พวกท่านตามสบายแล้วกัน”
เหล่าเสนาบดีรวมเป็นในชั่วขณะ เงยหน้าขึ้นมองไปทางเฟิ่งหลิงหยุนที่กำลังจะจากไป กัดฟันเอาไว้ ตัดสินใจพุ่งชนไปที่เสา ใช้ความตายข่มขู่เฟิ่งหลิงหยุน
เฟิ่งหลิงหยุนมองไปทางคนที่หัวร้างข้างแตกที่อยู่บนพื้น เพียงแค่มองดูอย่างเรียบเฉยครู่เดียวเท่านั้น ก็หันหลังเดินจากไป
จากนั้นเรื่องที่ต้องการจะบีบบังคับให้เฟิ่งหลิงหยุนถอนหมั้นก็เริ่มต้นอีกครั้ง ประเทศเฟิ่งวุ่นวายไปหนึ่งเดือนกว่าเต็มๆเพราะการอ่อนข้อให้ของเฟิ่งหลิงหยุนถึงทำให้สงบลงมาได้ ครั้งนี้ไม่เพียงแค่เหล่าเสนาบดีในราชสำนัก แม้แต่ประชาชนของประเทศเฟิ่ง ก็เริ่มบีบบังคับอันหลิงหยุน สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นไม่จำเป็นต้องไปคิดก็รู้อยู่แล้ว มีคนวางแผนเรื่องนี้อยู่เบื้องหลัง
เฟิ่งหลิงหยุนกลับไม่คิดว่ามันถูกต้อง เพียงแต่ทางด้านกงชิงวี่ส่งข่าวมาแล้ว กองทัพใหญ่ของเขาอยู่ที่หน้าประตูเมืองหนานอี้แล้ว เตรียมพร้อมเปิดศึกแล้ว
เพื่อที่จะให้ความร่วมมือกับกงชิงวี่ ยิ่งเพื่อเพิ่มเชื้อเพลิงให้กับกงชิงวี่ เฟิ่งหลิงหยุนถึงได้ยอมรับข้อเรียกร้องที่ไร้เหตุผลของเหล่าเสนาบดี ตอบตกลงถอนหมั้น เลือกคู่ครองที่จะเชื่อมสัมพันธ์ด้วยการแต่งงานขึ้นมาใหม่
เฟิ่งหลิงหยุนเขียนจดหมายเพื่อยกเลิกสัญญาการแต่งงานขึ้นมาหนึ่งฉบับ มอบให้กับอ๋าวชิง อ๋าวชิงสั่งให้คนส่งออกไป
อีกด้านหนึ่งเหล่าเสนาบดีฝั่งนี้ก็เริ่มรีบร้อนค้นหาคู่ครองที่จะเชื่อมสัมพันธ์ด้วยการแต่งงานให้กับเฟิ่งหลิงหยุนแล้ว ในบรรดาสามประเทศนี้ แน่นอนว่าหนานอี้แข็งแกร่งมากที่สุด ขอเพียงรวมตัวกับหนานอี้ ก็จะสามารถต้านทานการโจมตีของประเทศต้าเหลียงได้ บวกกับฮ่องเต้หญิงแห่งประเทศเฟิ่งกับอ๋องเซ่เจิ้งของหนานอี้เป็นสามีภรรยากัน การเชื่อมโยงกันของทั้งสองก็นำไปสู่สถานการณ์ของหนานอี้กับประเทศเฟิ่งแล้ว ก็รู้สึกว่าสองประเทศสมควรจะเชื่อมสัมพันธ์ด้วยการแต่งงาน ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ฉันท์ครอบครัวที่ลึกซึ้งอยู่แล้วยิ่งลึกซึ้งขึ้นไปอีก
เมื่อเป็นเช่นนี้ หวางไทจื่อหนานอี้ซูมู่ไห่จึงกลายเป็นตัวเลือกของการเชื่อมสัมพันธ์ด้วยการแต่งงาน
เวลานี้ซูมู่ไห่ก็แปลกใจมากเช่นกัน เขามองดูบัตรเชิญที่ถูกส่งมาครู่หนึ่ง ดีใจกับเรื่องที่คาดไม่ถึง บีบบังคับออกมาแล้วจริงๆ
ซูมู่ไห่ก้าวเท้าเดินออกไปทางประตูตี้อัน: “ข้าจะไปบอกเรื่องนี้กับเสด็จพ่อ”
ยังไม่ได้ออกจากประตู ซูมู่ไห่ก็หยุดลงมา ไตร่ตรองแล้วนึกอะไรขึ้นมาได้: “ความรักของพวกเขามั่นคงยิ่งกว่าทองคำ ทำไมถึงได้ตอบตกลงง่ายดายเช่นนี้ได้?”
ซูมู่ไห่หันหลังมองไปทางราชครู ราชครูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง: “ได้ยินว่าถูกบีบคั้นมาหนึ่งเดือนแล้ว มงกุฎราชกุมารีไม่เห็นด้วยกับการเชื่อมสัมพันธ์ด้วยการแต่งงาน แต่ว่าขุนนางใหญ่น้อยบีบบังคับเป็นครั้งที่สองแล้ว เป็นเช่นนี้ต่อไป ผลที่ตามมาสามารถที่จะรู้ได้เลย ในหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ก็มีเสนาบดีเอาหัวโขกกำแพงเสียชีวิตอยู่ในท้องพระโรงแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ การเชื่อมสัมพันธ์ด้วยการแต่งงานในครั้งนี้ ความจริงคือถูกบีบบังคับนั่นแหละ”
ซูมู่ไห่คิดดูแล้ว: “นางต้องจนปัญญามากแน่ มิเช่นนั้นด้วยนิสัยของนางแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะตอบตกลงอย่างแน่นอน”
นึกถึงเรื่องพวกนี้ ซูมู่ไห่ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดใจเล็กน้อยอยู่ สิบปีแล้ว เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้พบกับนางอีก การพบกันในครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนฝันไปจริงๆ
ตอนนั้นตอนที่ได้ยินคนพูดว่านางไม่อยู่แล้วเขานึกว่าเป็นแค่เรื่องโกหก ไม่รู้ว่าเขาไปประเทศต้าเหลียงแล้วกี่ครั้ง แอบสืบอย่างลับๆไปไม่รู้กี่ครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่มีประโยชน์ ต่างก็บอกว่านางตายแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น ในชั่วข้ามคืนกงชิงวี่ผมขาวหมดทั้งหัว นั่นไม่ใช่ของปลอม ทั้งประเทศต้าเหลียงก็จมอยู่ในความเงียบสงัด
ถ้าหากว่าตอนนั้นเขากลับมาหนานอี้ รวบรวมคนไปโจมตีประเทศต้าเหลียง อย่าว่าแต่คูเมืองไม่กี่แห่งนั่นเลย ถึงแม้จะเป็นประเทศต้าเหลียงก็อาจจะถูกตีจนแตกได้ แต่ตอนนั้นเขาก็เสียใจมากเช่นกัน สุดท้ายเลยไม่ได้ทำอะไรเลย