ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 11
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 11
จื่ออานทำท่าทางให้เสี่ยวซุนออกไป
เสี่ยวซุนนำน้ำออกไป และจึงยื่นมือปิดประตู
“ท่านแม่ ท่านไม่ต้องห่วง ข้าเคยศึกษาวิชาแพทย์ และการฝังเข็มมาก่อน ข้ามั่นใจ” จื่ออานพูดเบา ๆ
เซี่ยฟูเหรินพยักหน้าเล็กน้อย เธอยื่นมือออกไปลูบผมหล่อน “ลูกเอ๋ย แม่ทำให้เจ้าลำบากเสียแล้ว เจ้าอยู่แทนจื่ออาน มิหนำซ้ำยังต้องมาทนทุกข์กับสิ่งที่นางควรจะต้องทนเอง ไม่ยุติธรรมเสียเลย”
“ข้ามีความสุขดี!” จื่ออานยิ้มออกมาเล็กน้อย
อย่างน้อย ในท้ายที่สุดเธอก็ไม่ใช่เด็กตัวคนเดียวอีกต่อไป
เมื่อวาน เซี่ยฟูเหรินรู้ว่านางไม่ใช่ลูกสาวของตัวเอง จำได้ว่าเซี่ยฟูเหรินจับมือนางด้วยท่าทางเย็นชาราวกับประติมากรรมน้ำแข็งอย่างไรอย่างนั้น
จากนั้นเธอก็พูดว่า “ข้าต้องการล้างแค้นให้ลูกสาวของข้า”
เสียงที่แสนแผ่วเบา แต่กลับกัดฟันด้วยความเกลียดชัง
วันนี้สิ่งที่พวกเขาต้องป้องกันอย่างเข้มงวดในตอนนี้คือ พวกเขาไม่สามารถถูกเสนาบดีสังหารได้ภายในสองสามวันนี้
ณ เซี่ยจื่อหย่วน หญิงรับใช้สองคนและเสี่ยวซุน กำลังปรนนิบัติรับใช้นาง ส่วนชู่อวี่กำลังรับใช้แม่ของนาง ทว่าชู่อวี่มีจิตใจมักใหญ่ใฝ่สูง และเย่อหยิ่งมาก จื่ออานอ่านคนมามากมาย เพียงแค่เธอมองก็รู้ว่าหล่อนไม่น่าไว้วางใจ
“ท่านแม่ สองสามวันนี้ท่านต้องระแวดระวังชู่อวี่ให้ดี!” เธอเตือน
“เข้าใจแล้ว เข้านอนเถอะ!” เซี่ยฟูเหรินกระซิบเบา ๆ หลังจากที่เอายาให้นาง
จื่ออานเหนื่อยมากทีเดียว ความเหนื่อยล้าแทบจะทะลักออกมา แค่เอนหัวลงก็ผล็อยหลับไป
เซี่ยฟูเหรินนั่งอยู่ข้าง ๆ เตียง ฟังเสียงหายใจของจื่ออาน ลูบใบหน้าและนิ้วของจื่ออานเบา ๆ ค่อย ๆ ลามไปตามบาดแผล น้ำตาก็ไหลออกมาทันที
เธอเศร้า เธอเกลียด แต่เธอไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าผู้ใด เธอเองก็รู้สึกลำบากใจกับแม่นางที่อยู่ตรงหน้าเธอเช่นกัน ความทุกข์ทั้งหมดเหล่านี้ที่แม่นางผู้นี้เผชิญอยู่ ลูกสาวของเธอควรจะได้รับเองแท้ ๆ ความตายเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลยจริง ๆ แต่หากต้องใช้ชีวิตอย่างเหลวแหลก และต้องมาถูกรังแกเช่นนี้ตลอด การจากไปอาจมีความสุขก็ได้
สองวันที่ผ่านมา ไม่มีใครมารบกวนแม่ลูกคู่นี้
จื่ออานเงียบ เพื่อที่เธอจะได้รักษาบาดแผลและศึกษาวิธีฝังเข็ม
เซี่ยฟูเหรินถอนหายใจเบา ๆ เมื่อรู้ว่าจื่ออานถูกบังคับให้ดื่มสมุนไพรดอกคำฝอยตอนอยู่ในวัง ผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นหมันตลอดชีวิตของเธอ ก็เหมือนชีวิตแตกสลาย
เธอเจอคนเลว แต่ไม่ได้หมายความว่าชายทุกคนในโลกนี้จะเลวหมดเสียเมื่อไหร่ เธอยังคงหวังว่า จื่ออานจะได้พบกับชายที่รักนางในอนาคต
ในเช้าวันที่สาม ชู่อวี่เข้ามาและพูดว่า: “คุณหนู เหล่าฟูเหรินเชิญท่านเข้าพบ เจ้าค่ะ”
จื่ออานวางหนังสือในมือลงแล้วเหลือบมองเซี่ยฟูเหริน
“เหล่าฟูเหรินสั่งให้คนมาตามหรือ?” จื่ออานถาม
ชู่อวี่กล่าวว่า “เจ้าค่ะ ข้าเพิ่งออกมาจากสวน และเห็นชุ่ยหยูเดินมา นางพบข้า จึงฝากมาบอกว่าเหล่าฟูเหรินเชิญท่านเข้าพบ”
“ชู่อวี่พูดว่าไหมว่าพบข้าเรื่องอันใด?” จื่ออานถามด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น
วันนี้เป็นวันที่สาม ซึ่งเป็นวันที่สำคัญที่สุด
หากพวกเขาเลือกที่จะเริ่มลงวันนี้ อะไร ๆ ก็ค่อนข้างยุ่งยาก
“ไม่ได้พูด!”
จื่ออานลุกขึ้น “ตกลง ข้าจะเข้าไป”
เซี่ยฟูเหรินลุกขึ้นทันที “ข้าจะไปกับเจ้า”
ชู่อวี่พูดว่า: “ฟูเหริน ชุ่ยหยูบอกว่าให้ไปเฉพาะคุณหนูเท่านั้น”
จื่ออานปลอบเซี่ยฟูเหริน “ท่านแม่ ไม่เป็นไร ข้าไปได้”
เซี่ยฟูเหรินพูดอย่างกังวล: “จื่ออาน เจ้าต้องระวังตัวด้วย”
ชู่อวี่ฟังอีกฝ่ายแล้วหัวเราะ “ดูที่พูดเข้าสิ นางแค่เข้าไปทักทายเหล่าฟูเหรินไม่ใช่เหรอ? ถึงกับให้ระวังตัวเลยหรือ?”
จื่ออานก้มหน้า “พอเถอะ เจ้าอย่าจอแจให้มากเรื่อง ไปทำความสะอาดบ้านให้ดีไป”
ชู่อวี่ตอบอย่างสุภาพ “เข้าใจแล้วคุณหนู ท่านไปเถอะ”
ท่าทีของนางที่มีต่อจื่ออานมีความน่าแปลกใจเล็กน้อย เมื่อก่อนขอให้นางทำสิ่งใด นางมักจะเงยหน้าพูด แต่ตอนนี้กลับมีมารยาทและเคารพ จื่ออานจึงอดไม่ได้ที่ต้องระแวงในใจเล็กน้อย
เนื่องจากเสี่ยวซุนเป็นหญิงรับใช้ของจื่ออาน หากจื่ออานออกไปข้างนอก จึงมิใช่เรื่องแปลกที่นางอยากติดตามไปด้วย
เมื่อข้าถึงบ้านเหล่าฟูเหริน มีคนไม่กี่คนที่ยืนอยู่ที่หน้าประตู พวกเขาเห็นเธอ สีหน้าท่าทางก็ดูเย่อหยิ่ง เหล่าฟูเหรินไม่ชอบเสียงดัง ในบ้านจึงมีแต่คนรับใช้ผู้หญิง ไม่ค่อยมีปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ
วันที่สาม ในที่สุดก็ถึงเวลาลงมือ
ชุ่ยหยูยืนอยู่ที่หน้าประตู นางเห็นหล่อนมา จึงพูดอย่างห่อเหี่ยวว่า: “คุณหนูเข้ามาสิ”
จื่ออานหมุนแหวน แล้วก้าวเข้าไป
ในห้องนั้นมีคนอยู่หลายคน เหล่าฟูเหรินนั่งอยู่บนเก้าอี้สูงตรงกลาง และหญิงใช้อายุราวสิบห้าหสิบหกนั่งคุกเข่านวดเท้าให้นางอยู่
มหาเสนาบดีเซี่ย และหลิงหลงฟูเหรินนั่งอยู่คนละฝั่ง ทั้งคู่มีสีหน้าเคร่งขรึม โดยเฉพาะหลิงหลงฟูเหริน สายตาของนางที่มองเธอนั้น เหมือนกำลังจะกลืนเธอทั้งเป็น
เซี่ยหว่านเอ๋อร์ยืนอยู่ข้าง ๆ หลิงหลงฟูเหริน มองเธออย่างอาฆาต หูของนางถูกพันผ้าเอาไว้ และเลือดก็ไหลออกมาจากผ้าพันแผล
“เหล่าฟูเหริน” จื่ออานก้าวไปข้างหน้าเพื่อแสงความเคารพ มาต้องรับนางต้องมีคนมากมายขนาดนี้เชียว
ในมือของเหล่าฟูเหรินถือกล่องใส่บุหรี่แบบจีนอยู่ นิ้วมือชี้ไปยังโต๊ะข้าง ๆ แล้วพูดว่า “อีกไม่นานก็จะถึงวันเกิดเจ้าแม่กวนอิม เจ้ามีบาปหนา เจ้าต้องคัดคัมภีร์พุทธศาสนา เพื่อล้างบาปของเจ้า”
มีกองกระดาษและกวนอิมพระสูตรวางอยู่บนโต๊ะ จื่ออานค่อย ๆ เดินเข้าไป แต่ในใจของเขาเต็มไปด้วยเสียงระฆังดังกระหน่ำ
เธอนั่งลง หัวหมุนอย่างรวดเร็ว
ภาพการแต่งงานในวันนั้น เธอแสดงจดหมายหย่ากับคนจำนวนมาก มหาเสนาบดีเซี่ยต้องการขจัดข้อกล่าวหาของเธอที่ใส่ความฟูเหริน จึงต้องยุติการลักลอบเป็นชู้ต่าง ๆ นา ๆ
ในกรณีนี้ หนังสือหย่าฉบับนั้นสามารถอธิบายได้
ตอนนี้มีเพียงชู่อวี่และท่านแม่ที่อยู่ที่นั่น เสี่ยวซุนและตัวเธอเองออกมาแล้ว ผู้คนมากมายภายนอกต่างจ้องมอง ปล่อยให้เธอวิ่งออกไป
จื่ออานรู้สึกกังวลมากเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ตอนนี้ที่เซี่ยจื่อหยวนต้องถูกชู่อวี่จัดการอยู่เป็นแน่ นอกจากนี้ชุ่ยหยูที่อยู่ข้าง ๆ เหล่าฟูเหริน ตอนนี้ก็ไม่อยู่เช่นกัน ต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลแน่นอน
จื่ออานรู้ว่าเธอต้องออกจากที่นี่ทันที แต่เธอไม่สามารถบอกเหล่าฟูเหรินว่า เธอถูกหลอกล่อด้วยกลอุบาย
เธอคร่ำครวญอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็กุมท้อง “โอ้ย ข้าปวดท้องเสียจริง เหล่าฟูเหริน ข้าต้องไปส้วม”
เหล่าฟูเหรินเหลือบมองหล่อนเบา ๆ “ทนไปนั้นแหละ”
จื่ออานนั่งยอง ๆ “ทนมิได้หรอก โอ้ย จะไหลออกมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นข้าขอใช้ส้วมที่ลานบ้านเหล่าฟูเหรินแทนได้หรือไม่”
เหล่าฟูเหรินเห็นเธอดูปวดท้องหนัก ไม่เหมือนการโกหก มิหนำซ้ำยังกลัวว่าเธอจะถ่ายตรงนี้ นางจึงบอกหลานยวี่ที่อยู่ข้าง ๆ นางว่า “พาเธอไปที่ห้องน้ำ แล้วดูเธอให้ดีด้วย”
หลานยวี่พูดว่า “รับทราบ เหล่าฟูเหริน”
จื่ออานกุมท้องแล้วออกไป และพูดกับหลานยวี่ “มีหลานยวี่อยู่ด้วยกันที่นี้แล้ว”
หลานยวี่มองเธอด้วยความรังเกียจ นางไม่พูดอะไร จากนั้นก็พาจื่ออานออกไป เสี่ยวซุนที่อยู่นอกประตูเห็นจื่ออานออกมา มองตามไปรอบ ๆ เห็นว่าเสี่ยวซุนไม่ได้รับอนุญาตให้ตามจื่ออานไป จึงได้แต่ยืนอยู่นิ่ง ๆ
ห้องน้ำอยู่ทางฝั่งขวาของลานบ้าน มีบ้านแยกต่างหาก ไว้เพื่อสำหรับคนรับใช้ ส่วนบ้านหลักอยู่ด้านใน
หลังจากจื่ออานเข้ามา เธอพูดกับหลานยวี่ผ่านประตู “ที่นี่ไม่มีกระดาษชำระ หลานยวี่ช่วยหยิบมันให้ข้าได้หรือไม่”
หลานยวี่พูดอย่างไม่อดทน “ทำไมเจ้ามากความมากเรื่องเช่นนี้กันนะ”
จื่ออานร้องไห้และพูดว่า “ข้าหารู้ไม่ว่าที่จะไม่มีกระดาษชำระ แต่ยังที่ดีท่านป้า ไม่เช่นนั้นเหล่าฟูเหรินจะถูกมองว่าไม่ดี”
หลานยวี่สบถเสียงต่ำ “ยิ่งคนเลวทรามมากเท่าใด ก็ยิ่งมากเรื่องขึ้นเท่านั้น มิหน้ำซ้ำยังไม่ไตร่ตรองถึงสถานะของตัวเอง!” พูดจบนางก็หันหน้าหนีอย่างโกรธเคือง