ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 111
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 111
จื่ออานแอบกลับไปที่พระตำหนักฉางเชิง นางไม่ได้เข้ามาทางประตูพระตำหนัก แต่นางปีนกำแพงเข้ามา
แม่นมหยางกำลังจัดของในห้องที่นางพักอยู่ เมื่อเห็นนางที่เข้ามาโดยที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด หัวใจของแม่นมก็แทบจะหยุดเต้นด้วยความตกใจ แต่พอเห็นว่านั่นไม่ใช่เลือดของจื่ออาน แม่นมก็โล่งใจ รีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” แม่นมรีบถาม
จื่ออานทรุดลงไปนั่งที่พื้น เอามือปิดหน้าไว้ น้ำตาไหลซึมออกมาจากร่องนิ้ว มันทำให้แม่นมหยางกลัวมาก
นางก็ไม่ได้เอ่ยถาม และรีบหยิบชุดสำหรับให้จื่ออานผลัดเปลี่ยนออกมา ดึงตัวจื่ออานขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนชุดให้จากนั้นก็นำชุดที่เปื้อนเลือดของจื่ออานไปเผา
นางออกไปตักน้ำเพื่อให้จื่ออานใช้ชำระล้างคราบเลือดที่มือและใบหน้า จากนั้นก็กล่าว “คุณหนูใหญ่ ไม่ว่าเพิ่งจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับท่าน ก็ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น ท่านจะต้องฮึดสู้ขึ้นมา มิเช่นนั้นคนที่จะตายรายต่อไปก็คือท่าน”
จื่ออานเช็ดหน้า น้ำเสียงเยือกยะเย็น “แม่นมโปรดวางใจ ข้าไม่เป็นอะไร”
นางนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งและมองดูใบหน้าซีดขาวในกระจก พร้อมกล่าวออกมา “แม่นม ท่านข่วยแต่งหน้าให้ข้าสักหน่อย ข้าจะไปเข้าเฝ้าพระสนมเหมย”
แม่นมหยางตกใจ “ไปเข้าเฝ้าพระสนมเหมย?”
“ใช่ ข้าจะต้อง เข้าเฝ้า” เสียงของจื่ออานเหมือนกับน้ำเย็นที่หยดลงมาจากภูเขาสูง ไม่มีอุณหภูมิเลยสักนิดเดียว
มีกลอุบายบางอย่างที่ในอดีตจื่ออานไม่เคยได้ใช้มันเลย แต่วันนี้นางจะต้องใช้มัน
แม่นมหยางหยิบแป้งขึ้นมาและค่อย ๆ ทาลงบนใบหน้าของนาง
ทาแป้ง เขียนคิ้ว ทาปาก และทาเล็บมือ จื่ออานนิ่งเงียบราวกับรูปปั้นหิน ปล่อยให้แม่นมหยางจัดแจงให้
แม่นมหยางรู้ดีว่าจื่ออานจะไปทำสิ่งใด หลังจากแต่งหน้าเสร็จแล้ว นางก็มองไปที่จื่ออานแล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า
“คุณหนูใหญ่ หวังว่าท่านจะเข้าใจสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยในปัจจุบันของท่าน มีบางคน หากท่านสามารถจะไม่ไปทำให้คนผู้นั้นขุ่นเคืองใจได้ ก็พยายามอย่าไปทำให้ขุ่นเคืองใจเลย อนาคตท่านยังอีกยาวไกล ”
แม่นมเตือนจื่ออาน ในตอนนี้นางขัดแย้งกับหลายฝ่ายมากเกินไป หากยังไปกวนโมโหคนที่ไม่ควรไปทำให้โกรธแล้วล่ะก็ จะเป็นการสร้างปัญหาให้กับตัวเองโดยไม่จำเป็น
จื่ออานเปิดประตูและหันกลับมายิ้มให้แม่นมหยาง รอยยิ้มนี้ทำให้นางรู้สึกใจหาย ไม่ว่าจะเป็นตอนที่จื่ออานเข้าวังมาครั้งแรกหรือตอนอยู่ที่จวนมหาเสนาบดีเซี่ยนางจะได้รับความทุกข์มรมานเพียงใด นางก็ไม่เคยแสดงรอยยิ้มที่สิ้นหวังเช่นนี้ออกมาเลย
จื่ออานกล่าวเสียงแผ่ว “แม่นม ดูเหมือนว่าจะมีความสงบสุขในวังแห่งนี้ แต่ความจริงที่นี่ก็คือที่กำบังของเหล่าคนชั่ว บางเรื่องที่เกิดขึ้นในวัง ก็ทำได้เพียงต้องแก้ไขในวังเท่านั้น”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” แม่นมหยางตกใจ
จื่ออานหันกลับไป น้ำเสียงของนางแน่วแน่ “แม่นมรอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะกลับมาในอีกหนึ่งชั่วยาม”
ที่พระตำหนักเยว่ชิง
อาฟากลับมารายงานว่าเขาจับตัวเซี่ยจื่ออานไว้ไม่ได้ นางอาจจะไปหาหวงไท่โฮ่วแล้ว
มหาเสนาบดีเซี่ยดุด่าอย่างโมโห “แกมันขยะ ไร้ซึ่งประโยชน์จริง ๆ คนมากขนาดนั้นกลับไม่สามารถหยุดผู้หญิงที่อ่อนแอคนเดียวได้ พวกเจ้ายังจะมีประโยชน์อะไรอีก?”
อาฟาฆ่าเซี่ยหลินไปแล้ว ในใจเขารู้สึกกลัวมหาเสนาบดีเซี่ย ดังนั้นแม้ว่าเขาจะถูกดูหมิ่น ก็ไม่กล้าตอบโต้ เขาเพียงก้มศีรษะมือแนบชิดข้างลำตัว “พระสนมโปรดลงโทษ”
ความจริงแล้วพระสนมเหมยรู้สึกโล่งใจ สองวันมานี้ ไม่ว่าการตัดสินใจอะไร ก็ดูรีบร้อนไปหมด
จริง ๆ แล้วนางคิดว่า การที่เซี่ยจื่ออานจะตายในวังไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เซี่ยหวายจุนสติฟั่นเฟือนไปแล้ว นางไม่อาจบ้าตามเขาได้
“ช่างมันเถอะ เจ้าออกไปเถิด” พระสนมเหมยกล่าว
อาฟาเองก็โล่งอก นึกถึงเจ้าโง่นั่น ในใจก็พูดสาปแช่งอย่างชั่วร้าย เจ้าโง่ก็คือเจ้าโง่ พระตำหนักตั้งกว้างใหญ่ แต่กลับไปเล่นที่นั่น แม้แต่ความตายก็ยังดีเกินไปสำหรับเจ้า
พระสนมเหมยกล่าวกับมหาเสนาบดีเซี่ย “หมดเรื่องแล้ว เจ้าก็ออกจากวังไปเถิด”
มหาเสนาเซี่ยกล่าวอย่างไม่เต็มใจ “ลงมืออีกครั้งได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ?”
พระสนมเหมยโกรธจัดในทันที “เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ? การสกัดจับในวังมันก็เสี่ยงมากพออยู่แล้ว โชคดีที่อยู่ใกล้พระตำหนักอี๋หลาน ไม่มีใครเห็น หากนางไปหาหวงไท่โฮ่ว ในวังเต็มไปด้วยผู้คนตลอดทางที่นางเดินไปพระตำหนัก เจ้าคิดว่าจะลงมือได้เหรอ?”
มหาเสนาบดีเซี่ยกล่าวอย่างขุ่นเคือง “แล้วจะให้นางหนีรอดไปแบบนี้เหรอ?”