ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 117
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 117
มหาเสนาบดีเซี่ยเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้พาเซี่ยหลินกลับมาด้วย แต่เขาก็ไม่ได้กังวลและกล่าว “ให้เขาพักอยู่ในวังสักสองสามวัน อย่างไรเสียพระสนมเหมยก็โปรดปรานเขา”
พระสนมเหมยโปรดปรานเซี่ยหลินจริง ๆ แต่ก่อนพระสนมเหมยก็เรียกตัวให้เขาไปพักในวังสองสามวันเหมือนกัน เซี่ยหลินมีนิสัยที่เรียบง่าย แทบจะไม่มีใครที่จะไม่ชอบเขาเลย
เหล่าฟูเหรินกล่าวอืม “ก็ดี เด็กคนนี้ช่างเป็นที่นิยมชมชอบของผู้คนเสียจริง งั้นก็ให้เขาเล่นสนุกที่นั่นอยู่ข้างกายพระสนมเหมยไปอีกสักสองสามวันเถอะ จะได้สนิทสนมกับองค์ชายสามด้วย
หลิงหลงฟูเหรินไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องของเซี่ยหลิน เพียงคิดถึงเรื่องของเฉินเอ้อเท่านั้น
ตั้งแต่คราวที่แล้วที่เขาถูกหลอก ก็เคยมาหานาง และก็เคยข่มขู่นาง บังคับให้นางนำเงินออกมาให้เขามากตั้งเท่าไรถึงจะสลัดเรื่องนี้ออกไปจากตัวได้
ใจนางรู้สึกรังเกียจในความโลภของเขาไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะ เห็นว่า…
ดังนั้น ครั้งนี้ช่างเหมาะเจาะยิงธนูนัดเดียวได้เหยี่ยวสองตัว นอกจากจะได้กำจัดหยวนซื่อแล้ว ยังได้ฆ่าเฉินเอ้อด้วย
เหล่าฟูเหรินกล่าวกับซุ่ยยู่ “เจ้าไปส่งข่าวที่เซี่ยจื้อย้วน บอกหยวนซื่อให้มาคำนับข้าในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า
“รับทราบ!” ซุ่ยยู่ตอบ
“ท่านแม่ เรื่องนี้ทำไปเพื่ออะไร?” มหาเสนาบดีเซี่ยกล่าวถามอย่างไม่เข้าใจ ท่านแม่ไม่อยากจะพบเจอหยวนซื่อมาโดยตลอด พอนางมาคำนับท่านแม่ก็ดูจะไม่ค่อยจะมีความสุขเลย
เหล่าฟูเหริน มองเขาเบา ๆ “เมื่อนางมาคำนับข้าที่นี่ แน่นอนว่าข้าจะต้องมีเรื่องให้นางทำ สามารถสะกดรอยตามนางไปได้ ถ้าตอนนี้ฟูเหรินของเจ้ามีแผนกการอะไร ความได้เปรียบก็จะตกอยู่ในมือพวกเรา
มหาเสนาบดีเซี่ยเข้าใจได้ในทันที “ยังคงเป็นท่านแม่ที่คิดอย่างรอบคอบ”
เหล่าฟูเหรินสูดหายใจแรง “หรือเจ้าคิดว่าลำพังนางจะทำให้หยวนซื่อออกมาได้อย่างนั้นเหรอ? เจ้าควรใจเย็นลงหน่อย อย่ามักง่าย ตัดสินใจผิดพลาด”
หลิงหลงฟูเหรินทำใจให้ชอบแม่สามีผู้นี้ไม่ได้จริง ๆ หลายปีมานี้ ในใจรู้สึกเบื่อหน่ายเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าอยู่ในจวนแห่งนี้เหล่าฟูเหรินมีสิทธิ์มีเสียงมากที่สุด
โชคดีที่ไม่จำเป็นต้องรอนานจนเกินไป รอจนนางได้เป็นมารดาพระสนมขององค์รัชทายาท ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป
มหาเสนาบดีเซี่ยถูกเหล่าฟูเหรินเตือนสติไว้ ในใจก็เริ่มสงบลงอย่างช้า ๆ สองสามวันมานี้ทุกสิ่งทุกอย่างถาโถมเข้ามาอย่างท่วมท้น ทำให้เขากระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก จนไม่รู้ต้องทำอย่างไรดี โต้กลับอย่างขาดสติไปชั่วขณะ เมื่อนึกย้อนกลับไปในตอนนี้ ทุกอย่างที่ได้ทำไปก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ก็รู้ว่าตนเองถูกความโกรธและความอัปยศมาควบคุมจิตใจ โชคยังดีที่วันนี้ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น มิเช่นนั้นเขาคงตกอยู่ในเงื้อมมือของเซี่ยจื่ออานแล้ว
ซุ่ยหยูไปรายงานหยวนซื่อที่เซี่ยจื้อย้วน ให้นางไปคำนับและเริ่มปรนนิบัติเหล่าฟูเหรินเช้าเย็นใหม่อีกครั้ง
เมื่อซุ่ยหยูกลับไปแล้ว หยวนซื่อก็มองไปที่จื่ออานเบา ๆ “ตอนนี้พวกเขาทำอะไรเจ้าไม่ได้ ก็เลยมาลงมือกับข้า”
จื่ออานกล่าวอย่างเป็นกังวล “ท่านแม่ ท่านต้องระวังตัวให้ดี ๆนะ”
หยวนซื่อยิ้ม “ที่ข้าอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด เพียงเพราะว่าข้านึกถึงวันคืนที่สงบสุข ตอนนี้บุตรสาวข้าก็ไม่มีแล้ว ข้ายังต้องกลัวสิ่งใดอีก? อย่างไรก็ตามมันก็แค่ชีวิตเดียว อยากได้ก็เอาไปเถิด ถ้าพวกเขามีปัญญา”
จื่ออานที่ได้ยินหยวนซื่อพูดเช่นนี้ ก็รู้ไว้ว่านางมีแผนตอกกลับพวกเขาแล้ว อันที่จริงแล้ว สตรีที่ชาญฉลาดเช่นหยวนซื่อผู้นี้ จะไม่ต่อสู้กลับได้อย่างไร ตอนนี้ฮึดต่อสู้ขึ้นมา จะต้องเกินความคาดหมายมากอย่างแน่ ๆ
มีพันธมิตรที่กล้าหาญบ้าดีเดือดเช่นนี้ จื่ออานก็สุขใจยิ่ง ที่น่ากลัวที่สุดก็คือคนที่เมื่อพบเจอปัญหาก็ไม่กล้ายืนหยัดต่อสู้ ถ้าเป็นเช่นนั้นนางคงต้องเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด และอาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้
หยวนซื่อยืนอยู่ข้างหน้าต่าง มองเห็นต้นยี่โถที่บานกำลังดีในลานด้านหน้า
นางหันกลับไปทันที “หลินหลินหายไปในวังเช่นนั้น? ได้ยินว่าท่านพ่อของเจ้าก็กลับมาแล้ว เป็นไปได้ไหมที่เขาจะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องกับหลินหลิน?”
จื่ออานยิ้มอย่างเย้ยหยัน “เขาใส่ใจด้วยเหรอ? ก่อนที่หลินหลินจะตาย บนใบหน้ามีรอยนิ้วมือ เขาบอกข้าว่ากลัวท่านพ่อมาก ใครกันล่ะที่ตบเขา? เป็นแค่เด็กคนนึง กลับทำถึงขนาดนั้น? เขาน่าจะยังคิดว่าหลินหลินเล่นสนุกอยู่ในวัง”
“อย่างไรก็ไม่อาจทิ้งให้เขาโดดเดี่ยวอยู่ในวังได้ จื่ออาน เจ้ามีหนทางไหม?” หยวนซื่อกล่าวถาม
ก่อนหน้านี้จื่ออานก็คิดไม่ถึงว่าตอนที่มหาเสนาบดีเซี่ยออกจากวังมาจะลืมเซี่ยหลินไว้ที่นั่น เดิมทีคิดว่าเขาพาเซี่ยหลินเข้าวังไป ยังไงก็ต้องพาเขาออกมาด้วยกัน เมื่อไม่เห็นเซี่ยหลิน ก็ต้องใช้ให้คนออกตามหา
กลับนึกไม่ถึงว่า เขาจะกลับออกมาคนเดียวแบบนี้