ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 202
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 202
คืนนี้เขาคำนวณผิดพลาดไปจริง ๆ ติดกับดักของอ๋องหนานหวายอย่างคาดไม่ถึง และยิ่งคิดไม่ถึงว่ามู่หรงเจี๋ยจะปรากฏตัว ที่เกินคาดมากที่สุดก็คือเรื่องพระราชโองการฉบับที่สองของฝ่าบาท พระราชโองการฉบับนี้ทำให้ตำแหน่งของเขาสั่นคลอน
องค์รัชทายาทระดมกองทัพโดยพละการ ฝ่าฝืนกฎหมายไปแล้ว และจะถูกลงโทษด้วยการโบย สิ่งที่เรียกว่าการสั่งสอนซ้ําแล้วซ้ำเล่าไม่เปลี่ยน ไม่ใช่ว่าเขาจะมีโอกาสกระทำผิดหลายครั้ง กระทำผิดเพียงครั้งที่สอง ครั้งที่สาม เขาก็จะปลดจากตำแหน่งองค์รัชทายาทได้อย่างสมเหตุสมผลแล้ว
เขาไม่อาจแข็งข้อกับมู่หรงเจี๋ยเพียงเพราะไป๋เย่ ยอมสละแขนข้างหนึ่งเพื่อต่อลมหายใจ จะได้มีเวลาวางแผน
เรื่องที่จื่ออันไม่เข้าใจมาโดยตลอดก็คือ การที่มู่หรงเจี๋ยมีโอกาสจู่โจมองค์รัชทายาทกับเหลียงไท่ฟู่อย่างเห็นได้ชัด เพียงแค่เปิดโปงจดหมายฉบับนั้นก็ได้แล้ว ทำไมเขาต้องเสียเวลามากมายไปกับเรื่องฆ่าไป๋เย่และอัญเชิญพระบรมราชโองการขององค์จักรพรรดิด้วย?
ขณะที่นางกระซิบกระซาบกัน นางกระซิบถามมู่หรงเจี๋ยเบา ๆ “ท่านอ๋องจะละทิ้งโอกาสดี ๆ ให้หลุดลอยไปอย่างนั้นหรือ?”
มู่หรงเจี๋ยเหลือบมองไปที่นาง “เจ้าคุยโวว่าตนเองฉลาด เหตุใดถึงไม่รู้จุดประสงค์ของข้าเล่า?”
จื่ออันชะงัก มองไปที่ดวงตาที่เย็นเยียบของเขา สมองก็เลยกระจ่างขึ้นในทันที ใช่ เขาไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ เพราะว่าตอนนี้ยังปลดองค์รัชทายาทไม่ได้ ควรจะกล่าวว่ายังไม่ถึงเวลาที่สุกงอมในการปลดองค์รัชทายาทมากกว่า หากเปิดโปงจดหมายในตอนนี้ เหลียงไท่ฟู่ก็จะไม่มีทางให้ถอยหนีแล้ว ทำได้เพียงทุ่มสุดตัวเพื่อต่อสู้ เช่นนั้นแล้วฝ่าบาทก็จะมีอันตราย เพราะว่าถ้าฝ่าบาทสวรรคต องค์รัชทายาทก็จะสามารถขึ้นครองราชย์ได้
เว้นเสียแต่ว่าองค์รัชทายาทจะทำผิดครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงจะสามารถปลดองค์รัชทายาทได้ตามพระบรมราชโองฉบับที่สอง มู่หรงเจี๋ยกำลังรออยู่ รอให้องค์รัชทายาททำผิดพลาดอีกครั้ง
ดังนั้นเขาจึงได้ประกาศพระราชโองการนี้ออกมาก่อน ประการแรกก็เพื่อข่มขวัญองค์รัชทายาท ให้เขายับยั้งการกระทำที่ไม่ดีของตนเอง แต่เห็นได้ชัดว่าอุปนิสัยขององค์รัชทายาทเป็นผลมาจากความทะเยอทะยานของเหลียงไท่ฟู่ องค์รัชทายาทไม่มีทางยับยั้งการกระทำนั้นได้หรอก ประการที่สอง อย่างที่แจ้งให้เหล่าขุนนางทราบทั่วกัน เขาทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ จะไม่กระทำการใด ๆโดยพละการ ทุกสิ่งที่เขาทำล้วนได้รับการอนุญาตจากองค์จักรพรรดิแล้วทั้งสิ้น ดังนั้นตำแหน่งของเขาจึงมั่นคงภายใจในเหล่าขุนนางในราชสำนักด้วยเช่นกัน
องค์รัชทายาทถูกลากออกไป ตอนที่เขาถูกราชองครักษ์ลากออกไป ก็ได้ตะโกนใส่มู่หรงเจี๋ย “เจ้าลงโทษข้าตามอำเภอใจ รอให้เสด็จพ่อฟื้นขึ้นมาก่อนเถิด ข้าจะฟ้องเรื่องของเจ้า…”
มู่หรงเจี๋ย ข้าคือองค์รัชทายาท เจ้าไม่มีอำนาจที่จะมาสั่งโบยข้า เจ้าพวกสวะ ปล่อยข้า…”
ฮองเฮาอยากจะลุกขึ้นเพื่อขอร้องให้เขา ทว่ามู่หรงเจี๋ยกวาดสายตามองมาที่นางด้วยแววตาที่เย็นชา “ฮองเฮาปวดใจหรือ? หากเพียงแค่นี้ท่านยังปวดใจ ต่อไปจะต้องมีวันที่ท่านต้องร้องไห้แน่”
เป็นคำพูดที่เหน็บแนบและไม่ไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าเขาได้ตัดสินใจทำลายความปรองดองจอมปลอมระหว่างเขากับฮองเฮาลง แล้วประจันหน้ากันอย่างเปิดเผย
ฮองเฮาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่กำหมัดแน่น ดวงตาที่เกลียดชังและเย็นชาของนางค่อย ๆ มองไปที่ใบหน้ามู่หรงเจี๋ยและเลื่อนลงมาที่ใบหน้าของจื่ออันอย่างเหี้ยมโหด
ครั้งนี้นางไม่รู้เกี่ยวกับการสังหารผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิมาก่อน ดังนั้นนางจึงช่วยขอร้องให้ตอนที่จื่ออันถูกไท่เฟยพาไปคุมขัง แต่ว่านึกไม่ถึงเลย เซี่ยจื่ออันจะช่วยชีวิตมู่หรงเจี๋ยเอาไว้ จนกลับมาทำลายงานสำคัญของนาง
ถ้าไม่ใช่เพราะยังต้องพึ่งพานางในการรักษาอ๋องเหลียง เกรงว่าฮองเฮาคงจะไม่ปล่อยให้นางมีชีวิตจนถึงวันพรุ่งนี้
ฮองเฮาจะทนหรือไม่ทนจื่ออัน เป็นเพียงเรื่องที่จะเอ่ยถึงภายหลัง แต่ตอนนี้ในใจของมหาเสนาบดีเซี่ย แน่ใจแล้วว่าจะปล่อยนางเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว
นางมีความเกลียดชังทั้งต่อเขาและจวนมหาเสนาบดี และเขาไม่คิดว่าความเกลียดชังนี้จะสามารถแก้ไขได้ นางกลับมาพร้อมความเกลียดชัง ทั้งยังมีผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิหนุนหลังอีก เขาไม่อาจปล่อยให้นางมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกได้
ในขณะที่กำลังครุ่นคิด ก็ได้ยินเสียงองค์รัชทายาทร้องเหมือนหมูถูกเชือด ดวงตาของฮองเฮาแทบจะหลั่งเลือดออกมา มือทั้งสองกำแน่นจนเล็บทะลุเข้าไปในเนื้อผิว
แน่นอนว่าเซี่ยหว่านเอ๋อก็รู้สึกปวดใจมาก ดังนั้นนางจึงรีบออกไป และเมื่อนางมาถึงหน้าพระตำหนักก็เห็นองครักษ์หยุดโบยองค์รัชทายาท นางจึงรีบเข้าไปผลักองครักษ์ผู้นั้นออกไป และกล่าวอย่างโมโห “เขาเป็นถึงองค์รัชทายาท เจ้าเบามือหน่อยไม่ได้เชียวหรือ?”
จื่ออันที่มองดูอยู่ ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อยและหัวเราะออกมา เซี่ยหว่านเอ๋อ เจ้ายังไม่ใช่พระชายาเอกขององค์รัชทายาท ขนาดฮองเฮายังไม่อาจขอร้องได้เลย แต่เจ้ากลับไปผลักองครักษ์ที่กำลังทำการลงโทษออกไป?
นี่เป็นการหยามเกียรติของมู่หรงเจี๋ยอย่างโจ่งแจ้ง!