ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 225
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 225
“นี่…” ราชครูเหลียงตกใจจนมองไปที่จื่ออัน แล้วกลับมามองที่มีดสั้น อักษรบนมีดสั้นนั้น หากมิได้มองพลาดไปแล้ว เป็นอักษรมังกร เป็นไปได้อย่างไร? มีดสั้นที่มีอักษรมังกรจะมาอยู่ในมือของเซี่ยจื่ออันได้อย่างไร?
เฉินซื่อและเซี่ยหว่านเอ๋อถูกมีดสั้นเล่มนี้ทำร้าย ไม่ผิดเลย ไม่ตายก็ถือว่าโชคดีแล้ว
ความคิดนับพันแวบผ่านเข้ามาในสมองของราชครูเหลียง ก่อนจะค่อย ๆ ปล่อยวาง นำมีดสั้นกลับมอบให้จื่ออันด้วยความเคารพ “คุณหนูใหญ่ ตามความคิดของข้านั้น เรื่องคืนนี้นั้นคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน คุณหนูใหญ่อย่าได้ถือโทษ ข้ายังมีเรื่องต้องจัดการ คงต้องขอตัวก่อนแล้ว”
พูดจบแล้วก็ไม่ได้สนใจต่อองค์รัชทายาท ไม่แม้แต่บอกลามหาเสนาบดีเซี่ย แล้วเดินออกไปทันที
องค์รัชทายาทมองดูสถานการณ์ ก่อนจะเร่งให้องค์รักษ์ประคองตนเองจากไป คนของทางการทั้งสองที่ราชครูเหลียงนำมาก็จากไปเช่นกัน
เซี่ยหว่านเอ๋อเห็นองค์รัชทายาทจากไปโดยไม่แม้แต่มองมาทางนาง ทั้งเสียใจทั้งเศร้าโศก เอ่ยถามทั้งน้ำตา “ท่านพ่อ นี้มันเกิดเรื่องอะไรกัน? จะปล่อยให้นางทำร้ายพวกเราอย่างนี้หรือ?
มหาเสนาบดีเซี่ยมองไปที่มีดสั้นในมือของจื่ออันมาโดยตลอด เขาจึงไม่ได้สนพร้อมทั้งเอ่ย “เรื่องนี้ในเมื่อแจ้งทางการไปแล้ว ฟังคำของใต้เท้าเหลียงก็พอแล้ว”
สามารถทำให้ราชครูเหลียงตื่นตกใจได้แบบนี้ ที่มาของมีดสั้นเล่มนี้คงไม่ใช่เรื่องธรรมดา
มู่หรงจ้วงจ้วงจึงเอ่ยออกมา “ใต้เท้าเหลียง เซี่ยจื่ออันมีความผิดหรือไม่?”
ใต้เท้าเหลียงคุกเข่าลง “องค์หญิง คุณหนูใหญ่ไม่มีความผิด ไม่มีความผิด เฉินซื่อและคุณหนูรองทำร้ายฮูหยิน คุณหนูใหญ่เป็นบุตรีคนโต ลงโทษพวกนาง ถูกต้องตามกฎหมาย และถูกต้องตามกฎจริยธรรม”
“งั้นเจ้ายังไม่รีบนำคนของเจ้าใสหัวออกไป?” มู่หรงจ้วงจ้วงเอ่ยเสียงดัง
“พ่ะย่ะค่ะ พ่ะย่ะค่ะ!” ใต้เท้าเหลียงมองก็ยังมิกล้ามองไปที่อ๋องหลี่ เขารีบนำคนออกไปอย่างรวดเร็ว
อ๋องหลี่เมื่อเห็นคดีเสร็จเรียบร้อย ก็มิได้อยู่ต่อ เอ่ยกับมู่หรงจ้วงจ้วง “ท่านอา พวกเราก็ควรกลับกันได้แล้ว”
มู่หรงจ้วงจ้วงมองจื่ออันอย่างห่วงใย จื่ออันโค้งคำนับพร้อมกล่าว “องค์หญิงเสด็จกลับก่อนเถอะเพคะ วันนี้ขอบพระทัยองค์หญิงมากเพคะ”
มู่หรงจ้วงจ้วงเอ่ย “หากมีคนรังแกเจ้า รีบให้คนมาส่งข่าวให้ข้า”
คำพูดนี้มิได้เอ่ยให้แก่จื่ออัน แต่ให้แก่คนของจวนมหาเสนาบดี
จื่ออันค่อย ๆ ผงกหัว รีบส่งยิ้มให้แก่มู่หรงจ้วงจ้วง ฮูหยินเฒ่ามีใบหน้ามืดมน ไม่มีคำพูดใด ๆ มหาเสนาบดีเซี่ยยังคงมองไปที่มีดสั้นของจื่ออัน มิได้สนใจว่าจ้วงจ้วงเอ่ยสิ่งใด
อ๋องหลี่และจ้วงจ้วงกลับไปจนถึงหน้าประตู จ้วงจ้วงเอ่ย “อ๋องสาม หลังจากเรากลับไปแล้ว คนของจวนมหาเสนาบดีเซี่ยจะทำอะไรจื่ออันหรือไม่?”
จ้วงจ้วงเอื่อมมือไปลูบผมด้านซ้ายของนาง มองไปยังอ๋องหลี่
อ๋องหลี่มองไปยังนาง เอื้อมมือออกไปจัดทรงผมทางด้านขวาที่ยุ่งเหยิงให้เหมือนด้านซ้าย จากนั้นจึงช่วยนางเก็บไว้หลังใบหู “ทำ แต่เซี่ยจื่ออันมิใช่คนที่จะโดนรังแกง่าย ๆ คำพูดที่หลานพูดออกไปคืนนี้นั้น ล้วนเป็นนางที่สอนข้า นางสอนข้าว่าจะต้องไต่สวนคดีนี้อย่างไร”
“นางสอนรึ?” มู่หรงจ้วงจ้วงมองไปยังอ๋องหลี่อย่างประหลาดใจ “ทำไมข้าไม่รู้เรื่องนี้?”
“ตอนนั้นมิใช่ว่านางพูดคุยกับหลานเป็นการส่วนตัวรึ? พูดเรื่องราวเหล่านี้ นางยังคาดเดาเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นมากมาย ทั้งยังหาทางจัดการไว้เรียบร้อย ถึงแม้ว่ามิจำเป็น แต่นางยังคงคิดได้อย่างรอบด้าน พิสูจน์ว่านางเป็นคนที่รอบคอบ คนของจวนมหาเสนาบดีมิใช่คู่ต่อสู้ของนาง”
“แผนการของจื่ออันค่อนข้างลึกซึ้งแยบยล” มู่หรงจ้วงจ้วงค่อนข้างไม่มีความสุข “พวกเจ้าถึงกับปิดบังข้าอยู่คนเดียว”
“นั่นมิใช่การปิดบัง แต่ท่านบอกว่าอยากไปกินของหวาน”
“คืนนี้ที่ตั้งใจปรากฏตัวช้า มิใช่เพื่อทำตามแผนหรือ?”
“ใช่ ให้พวกนางไม่ระวังตัว ให้การบางอย่างออกมาก่อน หลานจึงค่อยปรากฏตัว ก่อนหน้านี้เคยตกลงกันว่าให้ท่านอาเป็นพยาน เพราะฉะนั้นพวกนางจึงมิอาจปฏิเสธได้ แล้วให้หลานเป็นคนไต่สวนต่อไป ตีตรงจุดภายในครั้งเดียว ถูกต้องและแม่นยำ”