ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 23
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 23
เหล่าฟูเหรินขยิบตาให้ป้าชุ่ยยู่ที่อยู่ข้าง ๆ แล้วมอบตั๋วเงินปึกนึงให้กับนาง เพื่อให้นางตามออกไป
ป้าชุ่ยยู่เข้าใจความหมายดี จึงรีบตามออกไป
แม่นมหยางช่วยประคองตัวจื่ออานมาตลอดทางโดยที่ไม่ได้พูดอะไรเลย พอมาถึงหน้าประตู หญิงรับใช้ที่อยู่ตรงประตูก็เข้ามาช่วยพยุงจื่ออานขึ้นรถม้าด้วยเช่นกัน จากนั้น ป้าชุ่ยยู่ก็เข้ามาคว้าตัวแม่นมหยางเอาไว้ เอาตั๋วเงินซุกไว้ในอ้อมแขนนาง แล้วกระซิบถาม “แม่นม เหล่าฟูเหรินอยากทราบว่า ฮองเฮาเรียกตัวนางเข้าพบด้วยเรื่องอันใด?”
แม่นมหยางส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ หยิบตั๋วเงินในอ้อมแขนส่งคืนให้ป้าชุ่ยยู่ รวมทั้งตั๋วเงินที่เหล่าฟูเหรินเพิ่งจะให้มาส่งคืนไปด้วย พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เอาไปคืนเหล่าฟูเหรินของพวกเจ้าเถอะ บอกกับนางว่า หญิงรับใช้แก่ ๆ คนนี้ไม่กล้ารับไว้!”
พูดจบ นางก็ขึ้นรถม้าไป สั่งคนขับรถม้าด้วยสีหน้าที่เย็นชา “ออกรถได้!’
คนขับรถม้าขับเคลื่อนรถม้าออกไป ที่ปากทางเข้ามีทหารรักษาพระองค์นับสิบรายรออยู่บนม้า เมื่อเห็นรถม้าที่วิ่งออกมา พวกทหารก็ติดตามไปอย่างช้า ๆ
แม่นมหยางที่นั่งอยู่ในรถม้า มองใบหน้าที่เปื้อนเลือดของจื่ออาน นางดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วถอนหายใจเบา ๆ “สถานการณ์เร่งรีบ จะให้เจ้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ทำไม่ได้ เข้าวังสองครั้ง เจ้าก็ตกอยู่สถานการณ์ลำบากไม่จบสิ้น ครั้งนี้ที่ฮองเฮาเรียกพบเจ้า ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอันใด เจ้าก็ต้องทำให้ดีที่สุด เจ้าถึงจะรักษาชีวิตของเจ้าไว้ได้ มิเช่นนั้น คนบ้านเจ้าที่เหมือนสัตว์ป่าดุร้าย ไม่ช้าก็เร็วเจ้าก็จะโดนพวกเขาแทะกระดูกจนไม่เหลือชีวิตรอด“
จื่ออานน้ำตาเอ่อล้นเปรอะขนตา มองแม่นมอย่างมึนงง สะอื้นไห้กล่าว “ชีวิตนี้ของจื่ออานอกจากท่านแม่แล้ว ก็ไม่เคยได้รับความรักจากใคร ได้รับความใส่ใจจากแม่นมเช่นนี้ จื่ออานจะจดจำไว้ในใจ ในอนาคตหากยังไม่ตาย จะต้องตอบแทนน้ำใจท่านอย่างแน่นอน
จื่ออานรู้ว่าแม่นมหยางที่อยู่ข้างกายฮองเฮาเป็นคนช่างพูด แต่แม่นมที่ต้องอยู่ในวังเช่นนี้ ได้ตัดขาดกับคนในครอบครัวที่อยู่นอกวังทั้งหมดแล้ว แม้ใบหน้าของนางแลดูเย็นชา แต่นางก็ยังโหยหาความจริงใจ
ดังนั้น แม้ว่าน้ำตาหยดนี้ของจื่ออานจะเป็นสิ่งเสแสร้ง แต่มันก็ทำให้ใจของแม่นมรู้สึกซาบซึ้ง
“เจ้าไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ต่อไปย่อมมีอนาคตที่ดีแน่นอน นางข้าหลวงคนนี้ก็ได้แต่อวยพรให้เจ้า ในภายภาคหน้าหากเจ้ายังจำได้ ก็ช่วยรายงานความดีของข้าสักหน่อย หากจำไม่ได้ก็ถือว่านางข้าหลวงคนนี้ปิดทองหลังพระเอง”
“ไมตรีจิตที่ท่านมีต่อข้า ชีวิตนี้ข้ามิกล้าลืมเลือน” จื่ออานพูดอย่างอ่อนโยน น้ำตาหยดลงกระทบหลังมือของแม่นม
แม่นมหยางรู้สึกเหมือนโดนน้ำร้อนลวกที่หลังฝ่ามือ นางมองไปที่จื่ออานอย่างมึนงง
อยู่ในวังหลังมาเป็นเวลานาน นางรู้ดีว่าตนเองไม่อาจใจอ่อนได้ โดยเฉพาะการที่เซี่ยจืออานเข้าวังมานี้ ไม่รู้ด้วยโชคชะตาหรืออย่างไร นางคิดว่าการไม่เข้าไปเกี่ยวข้องมากจนเกินไปจะเป็นผลดีกว่า
แต่ว่าน้ำตาของจื่ออานหยดนี้ก็ได้ละลายน้ำแข็งบางส่วนในใจนาง แม่นมหยางกล่าว “คุณหนูใหญ่ หลังจากเข้าวังไปแล้ว อย่าได้ทำให้ฮองเฮาขุ่นเคืองพระทัย หากว่าฮองเฮาตำหนิเรื่องอื่นใด หญิงรับใช้คนนี้จะช่วยอย่างสุดความสามารถ”
“ขอบคุณแม่นม” จื่ออานตอบเสียงสะอื้น ในใจรู้สึกคลายกังวลลงเล็กน้อย มีแม่นมหยางคอยช่วยเหลืออยู่ในวัง ย่อมดีกว่าหัวเดียวกระเทียมลีบ
ตอนที่เพิ่งจะขึ้นรถม้ามา เธอได้เห็นแม่นมหยางคืนตั๋วเงินไป จึงรู้ได้ทันทีว่านางเป็นคนที่ใช้ได้
นางไม่มีทางเลือกอื่น นอกใช้ประโยชน์จากความสงสารของผู้อื่นเท่านั้น อยู่ในวังหลังแห่งนี้ น้อยนักที่จะพบเจอกับคนจิตใจอ่อนโยนเช่นนี้ ที่นางได้พบก็ถือว่าเป็นความเมตตาจากสวรรค์แล้ว
นางคือเซี่ยจื่ออาน ที่ยังไม่ถูกลิขิตให้ตาย
ขณะเดียวกันผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิได้เดินเข้าไปในวังก่อน เมื่อมาถึงพระตำหนักของฮองเฮา สถานการณ์ขององค์จักรพรรดิเหลียงก็แย่แล้ว
หายใจติด ๆ ขัด ๆ หากจะพูดว่าเหมือนคนใกล้สิ้นใจก็ไม่ถือว่าพูดเกินจริง
ดวงตาของผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิแดงกล่ำเพราะกังวล ดุด่าหมอหลวงด้วยความโมโห “พวกเจ้ายังจะยืนบื้ออะไรอยู่ตรงนี้? ทำไมถึงไม่รีบไปหาหนทางรักษาเล่า?”
”หมอหลวงหลิวก้าวไปข้างหน้าอย่างอาจหาญ “ท่านอ๋อง ตามความคิดเห็นของกระหม่อม ให้กระหม่อมฝังเข็มให้เถิดพระเจ้าค่ะ”
ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิตระหนักถึงความสำคัญดี “ไม่ได้ เจ้าไม่ชำนาญในการฝังเข็ม รีบร้อนฝังเข็มลงไป เกรงว่าจะยิ่งทำให้พระอาการหนักยิ่งกว่าเดิม”