ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 244
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 244
“แน่นอนว่าจริง เจ้ามิอยากจะปารึ?” นางถามกลับมายังจื่ออัน
จื่ออันมองไปยังใบหน้าและปากของเซี่ยหว่านเอ๋อ “มีคิดเล็กน้อย”
“หากคิดก็ต้องทำ สักวันข้าจะต้องสาดไปให้ทั่วตัวนาง!” เฉินหลิวหลิ่วพ่นลมออกมา
นี่… จื่นอันเอ่ยถาม “เจ้ากับนางมีเรื่องขัดแย้งกันมาก่อนรึ?”
“ใครจะมีเวลาไปขัดแย้งกับนางกัน? คนประเภทนี้แม้แต่พูดคุยด้วยก็มิควรค่าให้พูดคุย”
“งั้นทำไมเจ้าถึงคิดที่จะ… เกลียดนาง?” เกลียดถึงขนาดอยากที่จะเอาสิ่งสกปรกไปปาใส่นาง
“ข้าดูตัวมาแล้วตั้งหลายครั้ง หลายคนชอบที่จะบอกว่าหญิงสาวเราควรที่จะอ่อนโยนสง่างามแบบเซี่ยหว่านเอ๋อ รู้หนังสือคุณธรรม ชายในเมืองหลวงต่างก็ชอบนางกันทั้งนั้น”
“ดังนั้น เพราะเหตุนี้เจ้าจึงไม่ชอบ?” จื่ออันรู้สึกว่าความคิดนี้ค่อนข้างแปลก แต่มิรู้ว่าทำไม นางแน่ใจว่านางนั้นชอบเฉินหลิวหลิ่วผู้นี้
เฉินหลิวหลิ่วเอ่ยออกมาอย่างโกรธจัด “แต่ปัญหาคือนางมิได้เป็นอย่างที่ทุกคนพูดถึงกัน ข้าตรวจสอบนางมาแล้วหลายครั้ง นางแย่ยิ่งกว่าที่ข้าคิดไว้มากนัก อย่างเช่นเมื่อปีที่แล้วที่ข้ามาร่วมงานเลี้ยงวันเกิด ข้ากับนางนั่งอยู่ด้วยกัน นางผายลมออกมา แต่นางกลับปิดจมูกและมองมายังข้าด้วยความรังเกียจ ทุกคนคิดว่าเป็นข้าที่ผายลมออกมา วันนั้นหากมิใช่ว่าพ่อของเซียวท่าก็อยู่ด้วย ข้าคงเอาสิ่งสกปรกมาโยนใส่นางไปแล้ว”
จื่ออันฟังแล้วก็รู้สึกว่าน่าขบขัน แต่ต้องอดทนเอาไว้ “เซียวท่า เจ้ารู้จักเซียวท่าไหม? ”
“รู้จักสิ ข้าชอบเขา แต่เขากลับไม่ชอบข้า เขากล่าวว่าชอบหญิงสาวที่เย็บปักถักร้อยเป็น ไม่ชอบหญิงสาวที่ถือมีดดาบ” เฉินหลิวหลิ่วเอ่ยคำนี้ออกมานั้น บนใบหน้ามิได้มีความเศร้าโศก ราวกับว่านางชอบเซียวท่า เซียวท่ามิได้ชอบนางนั้น สำหรับนางแล้วนั้นเป็นเพียงเรื่องธรรมดา
“เจ้าชอบเซียวท่า? ชอบอะไรกัน?” จื่ออันเอ่ยถาม ก่อนที่จะเริ่มงานได้พูดคุยกับเฉินหลิวหลิ่ว จึงรู้สึกปลอดโปร่งสบายจริง ๆ
เฉินหลิวหลิ่วคิดอยู่ครู่นึง “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เพียงแต่รู้สึกว่าคนคนนี้หน้าตาดี จมูกเป็นจมูก ตาเป็นตา คนที่ท่านย่าพาข้าไปดูตัวนั้น หน้าตาดูบิดเบี้ยว หรือไม่ก็อายุมากกว่าข้า โดยเฉพาะหนึ่งในนั้นยังมีคนแขนขาดไปหนึ่งข้าง แต่ท่านย่ากับเอ่ยออกมาว่า ขอแค่มีชายต้องการข้า ก็มิควรมีข้อเรียกร้องที่สูงเกินไป”
“ท่านย่าของเจ้า… ” จื่ออันรู้สึกว่าความคิดนี้ของเหล่าไท่จวินค่อนข้างแปลกประหลาดนัก “จะให้เจ้าแต่งออกไปอย่างนี้ได้อย่างไรกัน?”
“ไม่ใช่เป็นเพราะตอนที่ข้าเกิดรึ มีคนช่วยตรวจดูดวงชะตาแล้วบอกว่าหากข้าอายุครบสิบเก้าแล้วยังมิได้แต่งออกไป อาจจะตายได้ ปีนี้ข้าอายุสิบแปดปีแล้ว ท่านย่าจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร?”
“เรื่องนี้สามารถเชื่อได้รึ?” จื่ออันหัวเราะออกมา
“ใครพูดอะไรออกมาท่านย่าก็มิเชื่อ เชื่อเพียงแต่คำของคนผู้นี้ ที่ท่านเชื่อ” เฉินหลิวหลิ่วคิดอยู่ครู่นึง “ข้าเองก็เชื่อ”
“คนผู้นั้นเป็นใครรึ?” จื่ออันอดมิได้ที่จะสอบถามด้วยความสงสัย
“ไท่ฮวงไท่โห่ว!” เฉินหลิวหลิ่วเอ่ยตอบเสียงเบา
จื่ออันมองนางด้วยความประหลาดใจ เฉินหลิวหลิ่วผู้นี้ ปีนี้ก็อายุสิบแปดปีแล้ว ไท่ฮวงไท่โห่วน่าจะทำนายไว้เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว
“ต้องตาย”เรื่องนี้ยังไกลออกไป
นอกเสียจากว่า นางอยู่บนภูเขาหนาวเย็น? ไปแล้วยังจะหันหลังกลับมามองอีก?
พวกนางพูดคุยกันอยู่ทางนี้ ส่วนเหล่าไท่จวิน ชุยไท่เฟย และฮูหยินผู้เฒ่าก็กำลังพูดคุยกันอยู่อีกด้านนึง
เหล่าไท่จวินมาเพื่อที่จะหาคู่ครองให้หลานสาว รู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าและชุยไท่เฟยเป็นคนกว้างขวาง ดังนั้นในตอนแรกจึงได้พูดคุยกับพวกนางในเรื่องยังมิแก่เรื่องที่ควรพูด แต่เมื่อเซี่ยหว่านเอ๋อต้องการที่จะไล่หลานสาวสุดที่รักของนางออกไปนั้น นางก็เริ่มที่จะดูเฉยเมยมากขึ้น
ฮูหยินผู้เฒ่าก็รู้สึกได้ วันนี้ตั้งใจที่จะเชิญนางมา เป็นเพราะเหล่าไท่จวินและชุยไท่เฟยสองท่านนี้เป็นผู้ที่มีจริยธรรมและที่นับหน้าถือตาในเมืองหลวง เหตุการณ์ในวันนี้นั้น มีพวกนางทั้งสองคนเป็นผู้พบเจอ และมีพวกนางเป็นคนพูด “ขอความเป็นธรรม” แล้ว จวนมหาเสนาบดียังรักษาหน้าไว้ได้เท่าไรกัน
เมื่อเห็นว่าเหล่าไท่จวินมิค่อยยินดีนัก ฮูหยินผู้เฒ่ากลั้นหายใจแล้วจ้องเขม็งไปที่ฮูหยินหลิงหลง ส่งสัญญาณให้นางดูแลเซี่ยหว่านเอ๋อให้ดี
ในใจของฮูหยินหลิงหลงนั้นรู้สึกโกรธ ลูกสาวของตนถูกคุณหนูตระกูลเฉินจัดการ แต่กลับพูดอะไรออกมามิได้ ได้แต่ข่มกลั้นอารมณ์เอาไว้ แล้วยังต้องคอยดูสีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าอีก ภายในใจอึดอัดยิ่งนัก
หยวนซื่อจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ออกมา แผนการนี้ก็เลยยังมิรู้ว่าจะเริ่มได้เมื่อใดกัน