ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 249
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 249
จวนมหาเสนาบดีมีสวนดอกไม้อยู่สองแห่ง แห่งนึงอยู่ด้านหน้า อีกแห่งนึงอยู่ด้านหลัง
สวนด้านหน้ามิได้ใหญ่กว่าสวนด้านหลัง สวนดอกไม้ทั้งสองแห่งนี้ เชื่อมต่อกันด้วยทะเลสาบ เพียงแต่ใช้ตัวอาคารแยกออกจากกัน
พื้นที่ส่วนใหญ่ในสวนดอกไม้ได้สร้างขึ้นทีหลัง พื้นที่ได้มาจากการยักยอก เรื่องนี้เคยเกิดการทะเลาะวิวาทกันมาแล้ว แต่ตอนหลังฮูหยินผู้เฒ่าได้เอาเงินออกมาซื้อไว้ เป็นอันว่าจบเรื่องนี้
สวนดอกไม้ด้านหลังมีต้นไผ่อยู่แถวนึง ต้นไผ่แถวนี้มีมานานแล้ว จวนมหาเสนาบดีเพียงแต่ทำรั้วเพิ่มขึ้น ทำให้เป็นวงกลม หลังจากนั้นภายในสวนก็สร้างศาลาขึ้นสักหลายแห่ง ในทะเลสาบก็สร้างภูเขาจำลองไว้
แต่ว่าสวนดอกไม้ด้านหลังหลายปีมานี้มีคนมาน้อยมาก เพราะในแถวของต้นไผ่มักจะมีงูพิษออกมา มหาเสนาบดีเซี่ยเคยให้คนมาจัดการ แต่มิเคยจัดการได้โดยละเอียดพอนานเข้า จึงไม่มีคนกล้าเข้ามา
เมื่อครู่ฮูหยินหลิงหลงมารายงาน บอกว่าหยวนซื่ออยู่ที่นี้ ดังนั้นฮูหยินผู้เฒ่าจึงพากันย้ายมา หากเป็นวันปกติแล้ว นางไม่มีทางที่จะมาสวนดอกไม้แห่งนี้เป็นแน่
วันนี้คงจะมีการตระเตรียมละครไว้ ให้หยวนซื่อออกมา เนื่องจากนางตอนนี้สูญเสียดวงตามองไม่เห็น และนางยังไม่ชอบไปมาหาสู่กับผู้อื่น ดังนั้นจึงได้คิดแผนออกมา นางจึงได้นั่งอยู่ในศาลาเพียงคนเดียว
นางจัดฉากให้เฉินเอ้อร์เข้าไปดึงดันอยู่กับหยวนซื่อ แล้วให้ผู้อื่นได้ยินพวกเขาทะเลาะกัน เฉินเอ้อร์ก็จะเปิดเผยความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างเขาและหยวนซื่อ ทำให้ฝูงชนเกิดความโกลาหลขึ้น จากนั้นค่อยดำเนินการแผนที่สอง
แต่หยวนซื่อมิได้ออกมา แผนการนี้ก็เกิดขึ้นไม่ได้ นางจึงเปลี่ยนความคิด พูดออกมาต่อหน้าชุยไท่เฟยและเหล่าไท่จวินถึงเรื่องไม่ดีของหยวนซื่อ โดยอาศัยชื่อเสียงของของเหล่าไท่จวินและชุยไท่เฟยในการทำให้เรื่องสะท้อนออกไป จากนั้นก็แยกแม่นมหยางออกมา แล้วให้เฉินเอ้อร์เข้าไปจัดการต่อ ทำให้เรื่องที่จัดฉากในคราวก่อนทำให้สำเร็จในครั้งนี้
เช่นนั้นนางจึงนำชุยไท่เฟยและเหล่าไท่จวินเข้าไป อย่างได้เวลาพอดิบพอดี
ในตอนที่ชุยไท่เฟยให้นางเรียกหาหยวนซื่อออกมานั้น นางปฏิเสธออกไป เพราะหากหยวนซื่อออกมาก่อนก็จะโดนไท่เฟยดุด่า หยวนซื่อกลับไปที่เรือนเซี่ยจื่อหย่วน ตนก็จะไม่มีข้ออ้างที่จะนำไท่เฟยไป
แต่ว่าคาดไม่ถึงว่าฮูหยินหลิงหลงจะมาบอกว่าหยวนซื่อจะไปยังสวนดอกไม้ด้านหลัง ดั่งสวรรค์กำลังช่วยเหลือจวนมหาเสนาบดี สวรรค์ต้องการที่จะทำลายหยวนซื่อ
ตามทางเดินนี้ เดินไปอย่างสบาย ๆ มองวิวของทะเลสาบ แล้วก็มองดอกไม้ในสวน สาวใช้หลายคนเดินตามอยู่ห่าง ๆ ผีเสื้อดูดดึงน้ำหวานอยู่บนดอกไม้ ช่างเป็นภาพวิวที่สวยงาม
อีกด้านฮูหยินหลิงหลงนำหญิงสาวกลุ่มหนึ่งไปที่สวนดอกไม้ด้านหลังเช่นกัน บอกกับทุกคนว่าจะชวนกันไปดูดอกโบตั๋นและเบญจมาศชนิดใหม่
เซี่ยหว่านเอ๋อเอ่ยแผนการเป็นการส่วนตัวกับเซี่ยฟางเอ๋อ เซี่ยฟางเอ๋อตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ปกติแล้วนางเป็นคนหัวแข็ง ชอบมองดูเรื่องงี่เง่าและตลกขบขันของผู้อื่น ดังนั้น ทั้งสองคนนำคุณหนูคุณชายทั้งหลายไปยังสวนดอกไม้ด้านหลัง
มหาเสนาบดีเซี่ยเมื่อต้อนรับอ๋องเหลียงเรียบร้อยแล้ว จึงได้แสร้งเปิดเผยในระหว่างคำพูดว่าทางสวนดอกไม้ด้านหลังมีต้นไผ่อยู่แถวหนึ่ง เหล่านักกวีทั้งหลายชอบที่สุดก็คือป่าไผ่ จึงเสนอว่าอยากจะไปดู แน่นอนว่ามหาเสนาบดีเซี่ยจักต้องยินดีที่จะนำพวกเขาไป
ก็เป็นเช่นนี้กัน ทั้งก่อนและหลัง กลุ่มคนสี่กลุ่มไปยังสวนดอกไม้ด้านหลังของจวนมหาเสนาบดี
จื่ออันยืนอยู่ที่ระเบียงมองกลุ่มคนเหล่านี้ มุมปากเผยรอยยิ้มเย็นเยาะเย้ย
เฉินหลิวหลิ่วเห็นว่าทุกคนไปยังสวนดอกไม้ด้านหลัง จึงรู้สึกเบื่อ
“คุณชายเหล่านั้น ต่างก็ล้อมหน้าล้อมหลังพวกนาง”
จื่ออันยิ้ม “เจ้าอยากจะไปร่วมกับพวกนางไหม?”
“ไม่อยาก แต่หากไม่ไปร่วมก็หาคู่ครองมิได้” เฉินหลิวหลิ่วเอ่ยอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย
จื่ออันมองไปยังนางด้วยดวงตากลมโตที่แสดงความโศกเศร้าออกมา “หลิวหลิ่ว จริง ๆ แล้วเจ้าไม่จำเป็นต้องเชื่อในคำทำนายชะตากล่าวไว้”
เฉินหลิวหลิ่วมองไปยังนาง “ข้าไม่รู้ ข้าเชื่อมันโดยที่ไม่สงสัยมาโดยตลอด ข้าไม่อยากตาย โลกมนุษย์มันช่างสวยงามนัก”
การมีชีวิตอยู่สำหรับเฉินหลิวหลิ่วแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องยาก จื่ออันพบว่าสำหรับคนส่วนมากนั้นต่างต้องการเพียงมีชีวิตอยู่ เหมือนกับเฉินหลิวหลิ่วแบบนี้ เพื่อเปลี่ยนแปลงชะตาที่นางคิดว่าถูกกำหนดไว้แล้ว ทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบคุณชายพวกนั้น กับต้องคบค้าสมาคมด้วย หรือแม้แต่ทำให้ตัวเองแต่งงานออกไป