ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 269
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 269
จื่ออันและจ้วงจ้วงต่างคนต่างมองตาและพูดพร้อมกัน “ไม่เอา ขอบคุณ!”
พี่ชายสิบสองคนนี่มันแนวคิดแบบไหนกัน? แล้วทุกคนก็ยังไม่ได้แต่งงานเช่นนั้นหรือ? จื่ออันรู้สึกได้ในทันทีว่าเฉินหลิวหลิ่วคนนี้น่าจะเป็นบุตรีคนเดียวในตระกูลเฉิน?
นางถามเพื่อหยั่งเชิง “หลิวหลิ่ว แล้วพี่สาวของเจ้าล่ะแต่งงานกันทุกคนหรือยัง?
หลิวหลิ่วมองไปที่นาง “ข้าเป็นผู้หญิงคนเดียวในตระกูล!”
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง!
มู่หรงจ้วงจ้วงกล่าวกับจื่ออัน “เจ้าอย่าได้ทำให้นางขุ่นเคืองเชียวนะ นางคือลกสาวสุดที่รักคนเดียวในตระกูลเฉิน คนอื่นล้วนเป็นผู้ชาย ใครกล้ารังแกหลิวหลิ่ว แม่ทัพทั้งสิบสองคนของนางคงไม่ล้อเล่นแน่”
แม่ทัพสิบสองคน? ดูเหมือนว่าจำเป็นต้องมีความสัมพันธ์อันดีกับหลิวหลิวแล้วจริง ๆ
จื่ออันคว้าแขนของหลิวหลิ่วไว้ “หลิวหลิ่ว แม่ทัพในตระกูลของเจ้าทุกคนล้วนก็ยังไม่ได้แต่งงานหรือไม่?”
“ยกเว้นพี่สิบสอง คนอื่นก็แต่งกันหมดแล้ว” หลิวหลิ่วกล่าว “เจ้าชอบพี่สิบสองไหม?”
“เรื่องนี้ไม่ใช่ชอบหรือไม่ชอบ แต่ว่าค่อยแนะนำให้ข้ารู้จักวันหลังเถอะ อยากรู้จักพี่ชายของเจ้าทั้งสิบสองคนนั่นแหละ”
“ได้ แต่ยังไงก็เถอะ ข้าไม่ชอบพี่สะใภ้ทั้งสิบเอ็ดคนเลยสักนิด พวกนางก็ไม่ชอบข้า กำจัดพวกนางทิ้งไปหมดดีที่สุด” หลิวหลิ่วกล่าวด้วยท่าทีหม่นหมอง
จ้วงจ้วงจิ้มไปที่หน้าผากของนางเล็กน้อย “พวกนางต้องไม่ชอบเจ้าอยู่แล้ว ทุกคนล้วนมากจากตระกูลที่มีชื่อเสียง เจ้าพูดคุยกับพวกนางพอไม่พอใจก็จะโยนอึใส่พวกนาง แล้วใครเขาจะไปชอบเจ้ากันเล่า? อีกทั้งพี่ชายทั้งสองคนของเจ้าก็ตามใจเจ้ามาก จะไม่ให้พี่สะใภ้ของเจ้าอิจฉาได้อย่างไร?”
หลิวหลิ่วรู้สึกรำคาญเล็กน้อย “ข้ารู้ ข้ากำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ แต่ว่าพวกนางก็ยังชอบพูดถึงข้าในทางที่ไม่ดีลับหลังอยู่”
“กล้าพูดเหรอ? ข้าไม่เชื่อหรอก!” จ้วงจ้วงพูด “ในตระกูลเฉินของพวกเจ้า เจ้าใหญ่สุด ใครจะกล้าต่อว่าเจ้าจริงหรือไม่?”
“พวกนางพูดลับหลังข้า ขนาดพูดต่อหน้าข้ายังมีเลย แต่พอมีพวกพี่ ๆ และท่านย่าอยู่ด้วย พวกนางก็ไม่กล้าพูด พวกเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกนางปฏิบัติกับข้าเช่นไรบ้าง พวกนางฉวยโอกาสตอนที่ทุกคนไม่ทันระวังตัว ถ่มน้ำลายใส่ชามของข้า และแอบเหยียบเท้าข้า”
ตอนที่หลิวหลิ่วพูดมีน้ำเสียงสะอื้นเล็กน้อย เห็นได้นางรู้สึกเสียใจจริง ๆ
หลังจากที่เฉินหลิวหลิ่วพูดจบ นางก็เปิดม่านและพูดกับคนขับรถม้าว่า “ไม่ไปจวนอ๋องเหลียงแล้ว แต่ไปจวนผู้สำเร็จราชการแทน”
จ้วงจ้วงกล่าว “ไม่ใช่ พวกเราจะต้องไปที่จวนอ๋องเหลียงก่อน”
“ตอนนี้อ๋องเหลียงก็อยู่ที่จวนผู้สำเร็จราชการ”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร” จ้วงจ้วงเบิกตากว้าง
“ข้าต้องรู้อยู่แล้ว เพราะหลังจากที่จื่ออันพูดว่าจะทำให้ข้าได้แต่งกับเซียวท่า ข้าก็ได้สั่งคนให้ตามติดเขาทุกฝีก้าว สายลับบอกว่าตอนนี้เขากับอ๋องเหลียงอยู่ที่จวนผู้สำเร็จราชการ”
จื่ออันและหลิวหลิ่วมองตากันและหัวเราะออกมา
จ้วงจ้วงถอนหายใจ “เด็กน้อยเอ้ย ถ้าเซียวท่ารู้ว่าเจ้าคอยตามดูเขาอยู่ จะมีจุดจบที่ดีได้อย่างไร เพราะเซียวท่าจะต้องหงุดหงิดมากแน่ ๆ”
หลิวหลิ่วยักไหล่ “ข้าไม่สนหรอก ท่านย่าบอกว่าถ้ามีโอกาสก็หลับนอนกับเซียวท่า ท่านดูสิเซี่ยหว่านเอ๋อก็หลับนอนกับองค์รัชทายาทก่อนอธิเษกอีก? นางหลับนอนแล้ว ฮองเฮาก็ให้พวกเขาอภิเษกกันทันที”
“อะไรนะ?” จื่ออันและจ้วงจ้วงตะโกนออกมาพร้อมกัน “ย่าของเจ้าสอนมาเหรอ?”
ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าไท่จวินก็รู้แล้วว่ารหว่างเซี่ยหว่านเอ๋อกับผู้สำเร็จราชการตอนนี้ข้าวสารได้กลายเป็นข้าวสุกแล้ว ร้ายกาจจริง ๆ เหล่าไท่จวินผู้นี้ รอบรู้ทุกข่าวสารจริง ๆ
“ใช่ ท่านย่าบอกว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด นางยังบอกอีกว่าหากเซียวท่าเก่งกาจมากพอ ข้าหลับนอนกับเขาหนึ่งครั้ง ก็จะสามารถตั้งครรภ์ได้แล้ว ตระกูลเฉินของข้าล้วนให้กำเนิดแฝดสาม ถึงเวลานั้นข้าก็จะทำเพื่อตระกูลท่าให้กำเนิดแฝดสามเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นเซียวท่าจะต้องรักข้ามากเป็นแน่”
จ้วงจ้วงรู้สึกว่านางกำลังจะเป็นลม นางพิงศีรษะไปที่ไหล่ของจื่ออัน และมุมปากของนางก็กระตุก “จื่ออัน วันหน้าเจ้าบอกกับเหล่าไท่จวินที การสอนหลานสาวเช่นนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่ดี”
จื่ออันพบว่ามันน่าสนใจมาก “แต่นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด ด้วยนิสัยของเซียวท่าแล้ว ถ้าหลิวหลิ่วไม่เริ่มก่อน เรื่องนี้ก็จะไม่สำเร็จ”