ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 285
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 285
มหาเสนาบดีเซี่ยมองมายังนางแม่นมหยาง “เจ้าออกไปก่อน ข้ามีเรื่องจะคุยกับนาง”
แม่นมหยางเอ่ย “นายท่านมีคำพูดอันใดจะพูด เชิญพูดได้เลยเจ้าค่ะ บ่าวถอยหลังไปอีกนิด ไม่ได้ยินหรอกเจ้าค่ะ”
“ไม่ เจ้าออกไปก่อน” มหาเสนาบดีเซี่ยตอบกลับเสียงเย็น
แม่นมหยางกำลังจะเอ่ยต่อ หยวนซื่อจึงเอ่ย “แม่นม ไม่เป็นอันใดหรอก ท่านออกไปก่อนเถอะ”
แม่นมหยางกังวลมองมายังหยวนซื่อ “ฮูหยิน…”
มหาเสนาบดีเซี่ยเอ่ยเสียงเย็น “ทำไม? แม่นมกลัวว่าข้าจะฆ่านางงั้นรึ?”
แม่นมหยางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เอ่ยเยาะเย้ยอย่างไม่ไว้หน้า “นายท่านทำเรื่องในช่วงที่ผ่านมานี้ ก็ไม่ใช่เพื่อการนี้หรือ?”
มหาเสนาบดีเซี่ยมองแม่นมหยางอย่างโกรธจัด “อย่าคิดว่าท่านเป็นคนข้างกายของฮองเฮา แล้วจะมาเอ่ยคำพูดไม่สุภาพกับข้าได้!”
หยวนซื่อโบกมือ “แม่นม ไม่เป็นไร ออกไปเถอะ”
แม่นมหยางได้ยินคำหยวนซื่อให้นางออกไปอีกครั้ง ก็รู้ว่าหยวนซื่อนั้นเป็นผู้ที่ฉลาดรอบรู้ นางเอ่ยให้ตนออกไปนั้นจะต้องเป็นเพราะต้องการจะปกป้องความปลอดภัยของตน จึงได้เดินกลับเข้าไปในห้อง
ในลานบ้านนั้นมีเสียงนกหวีดร้องอยู่ตามกิ่งไม้ เสียงสั่นเทาดูช่างมีชีวิตชีวา
แต่เสียงนกร้องนี้กลับทำให้ในลานบ้านดูเพิ่มความเงียบขึ้นไป เพราะว่าเมื่อแม่นมเดินเข้าไปแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดเริ่มเปิดปากเอ่ยออกมา
มหาเสนาบดีเซี่ยไม่มีที่ใดให้นั่งได้ เขาเองก็ไม่อยากที่จะนั่งลง ทำเพียงยืนอยู่ตรงนั้น ใช้ดวงตาจ้องมองมายังหยวนซื่อ
เขาไม่เอ่ยออกมา หยวนซื่อเองก็ไม่เอ่ยอันใด นางหลายปีมานี้ คุ้นเคยกับความเงียบนี้แล้ว และนางยังรู้สึกว่ากับเขานั้นไม่มีคำพูดใดที่จะเอ่ยออกมาแล้ว
ผ่านไปเนิ่นนาน มหาเสนาบดีเซี่ยจึงได้ค่อย ๆ เอ่ยออกมา น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “หยวนฉุ่ยยวี่ เจ้าทำไมถึงไม่ตายไปซะ?”
ใบหน้าซีดขาวโปร่งใสของหยวนซื่อค่อย ๆ เผยยิ้มออกมา ปกปิดริมฝีปากราวกับดอกไห่ถังที่บานเพียงครึ่งนึง “ข้ายังมีชีวิตอยู่ เพราะท่านยังโหดเหี้ยมไม่พอ”
“เจ้าควรจะตายไปซะ เจ้ามีชีวิตอยู่เพื่ออะไรกัน?” มหาเสนาบดีเอ่ยต่อไป “ในตอนที่ข้าแต่งเจ้าเข้ามาปีนั้น เจ้าควรจะตายไปซะ หากเจ้าตายไปในตอนนั้น คงจะดีนัก?”
“ใช่แล้ว หากข้าตายไปในตอนนั้น คงจะดีนัก!” หยวนซื่อเอ่ยซ้ำคำของเขา ดูเยาะเย้ยสิ่งที่พวกเขาพูด เป็นคำพูดที่ดูจะเป็นความรู้สึกจริงๆ
“ทุกคนต่างก็พูดกัน ข้าเซี่ยหวายจุนไม่คู่ควรกับเจ้าหยวนฉุ่ยอวี่ ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นมหาเสนาบดีที่มีอายุน้อยที่สุดของต้าโจว ข้าก็ยังไม่คู่ควรกับเจ้า ไม่มีใครมองเห็นสิ่งที่ข้าทุ่มเทออกไป ไม่มีใครมองเห็นความมานะของข้า ไม่มีใครมองเห็นว่าข้าทำอะไรลงไปบ้างเพื่อขุนเขาของต้าโจว ทุกคนเพียงเอ่ยออกมาว่า ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้า คือได้แต่งเจ้าหยวนฉุ่ยอวี่”
หยวนซื่อไม่ได้ส่งเสียงใดออกมา เพียงแต่อมยิ้มปกปิดริมฝีปาก เพียงแต่ค่อย ๆ เย็นชา
“ผู้อื่นต่างก็สามภรรยาสี่อนุ มีเพียงข้า ข้าแต่งอนุกลับเป็นผิดต่อเจ้า เจ้าเป็นหญิงที่มีความสามารถสั่นสะเทือนโลก มีไม่รู้กี่คนที่อยากจะแต่งเจ้ากลับเข้าจวน? มีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถมีเจ้าข้างกายตลอดไป ข้าโชคดีมากเพียงใด? แต่ที่น่าขำขันคือ ข้าเองก็เคยคิดว่าข้าโชคดีนัก แต่ว่าไม่มีผู้ใดรู้ว่าจริง ๆ แล้ว หยวนฉุ่ยอวี่นั้นเป็นคนเช่นไร นางไม่มีแรงอารมณ์ ไม่มีจิตใจ ไม่เข้าใจคุณธรรม ไม่เข้าใจหลักคุณธรรมของภรรยา นางเห็นแก่ตัวและทำตามอำเภอใจ”
หยวนซื่อเอียงหัวฟังคำ ความมืดมิดที่อยู่ด้านหน้านางราวกับชีวิตของนาง ช่างมืดมนนัก ข้างหูมีแต่เสียงโกรธเกลียดของเขา
ราวกับได้รับความไม่เป็นธรรมที่ยิ่งใหญ่ “ไม่มีข้าราชบริพานคนใดในราชวงศ์ที่น่าสงสารเหมือนข้า ข้านำอนุภรรยากลับจวน ที่โดนดูถูกเหยียดหยามจากเจ้า เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นอะไรกัน? แต่งเจ้าเข้ามาแล้วก็มิอาจจะมีอนุภรรยาได้อีกรึ? เจ้าเรียนหนังสือมาตั้งเยอะ เรียนจนมันครอบงำให้เจ้ากลายเป็นเช่นนี้? หรือว่าเจ้าคิดว่าในตอนนั้นหากเจ้าแต่งให้กับอ๋องอันแล้ว เขาก็จะไม่มีสามภรรยาสี่อนุรึ? เขาที่ยังคอยปกป้องเจ้าจนถึงทุกวันนี้นั้น เป็นเพราะเขายังคงไม่สมหวังในตัวเจ้า ขอเพียงเจ้าแต่งให้เขาเท่านั้น รับรู้จนทั่วตัวของเจ้าแล้วนั้น ข้ากล้าพูด เขาจะต้องเบื่อหน่ายเจ้าอย่างที่ข้าเองก็เบื่อหน่ายเจ้าเช่นกัน”
“เจ้าทำตัวสูงส่ง หยิ่งผยองเกินไป นี่จึงเป็นผลที่เกิดจากการที่เจ้าหยิ่งผยอง สร้างความลำบากให้แก่ครึ่งชีวิตที่เหลืออยู่ของข้า เจ้ารู้ว่าภาพวาดที่เฉินหลิงหลงส่งให้ข้าเป็นฝีมือของเจ้า แต่เจ้ากลับไม่เอ่ยอันใดออกมา เจ้าเอาแต่หัวเราะเยาะเย้าข้ามาโดยตลอด เจ้าคิดว่าเจ้าฉลาดใช่หรือไม่?” เจ้าว่าข้าเซี่ยหวายจุนเป็นเพียงแค่ดินโคลนใต้ฝ่าเท้าเจ้าใช่หรือไม่?”
นิ้วของหยวนซื่อค่อย ๆ เลื่อนผ่านกระโปรงอย่างช้า ๆ เสื้อผ้าเรียบง่ายของนางไม่มีแม้แต่รอยเย็บปัก เรียบง่ายดั่งน้ำ นางยังคงเรียบง่ายเสมอ เรียบง่าย…
เดิมนางคิดว่า ไม่ว่าเขาจะเอ่ยอันใด นางก็จะไม่มีความรู้สึกอะไร ความรู้สึกของนางที่มีต่อเขานั้น มีเพียงความแค้นที่เขาฆ่าบุตรสาวเท่านั้น