ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 77
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 77
พระสนมเหมยที่เห็นว่ามหาเสนาบดีเซี่ยโกรธจัดต่อหน้าพระพักตร์ฮวงไทเฮา ก็รู้ดีว่าท่าไม่ดีเสียแล้ว รีบกล่าว “หญิงรับใช้ผู้นี้จะรู้อะไร? นางอยู่ข้างกายหยวนซื่อ ก็ย่อมจะพูดว่าหยวนซื่อดี ต้องช่วยพูดให้หยวนซื่ออยู่แล้ว เรื่องการถอนหมั้นตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ มันช่างไร้สาระจริง ๆ”
ฮองเฮาถามอย่างแผ่วเบา “ไร้สาระยังไงหรือ?”
จริง ๆ แล้วเดิมทีฮองเฮาไม่คิดจะทนเสียเวลากับคนพวกนี้ที่นี่ โมโหก็เลยมาเพื่อจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยจากนั้นก็คุยกับจื่ออานถึงการดำเนินการในขั้นต่อไป แต่ว่า เมื่อเห็นพระสนมเหมยยังคงแก้ต่างให้มหาเสนาบดีเซี่ยอย่างต่อเนื่องแล้ว นางก็ต้องระแวดระวังไว้
เรื่องนี้ ไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น
ฮองเฮารู้จักสนมเหมยผู้นี้ดี นางเป็นคนที่ไม่ใส่ใจเรื่องของคนอื่น ปกติแล้วใครขอให้นางช่วยพูดอะไร ด้วยพื้นฐานนิสัยของนาง นางจะไม่ช่วยทั้งนั้น
ถ้าเพราะไมตรีจิตที่มีต่อญาติพี่น้อง ก็เข้าใจได้ว่าทำไมวันนี้นางถึงมาช่วยมหาเสนาบดีเซี่ย แต่ด้วยการปฏิบัติตัวของนางแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะทุ่มเทอย่างสุดกำลังเหมือนวันนี้ นอกเสียจากว่า นางจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า
ถูกต้องแล้ว พระสนมเหมยเป็นคนโลภมาก
นางใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อตำแหน่งพระสนม อย่างนั้น วันนี้จึงไม่ใช่แค่ “ร้องขอให้ลงโทษ” แสดงออกว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์มันดูง่ายเกินไป
ฮองเฮาทรงวางแผนมาหลายปีแล้ว และทรงวิเคราะห์สถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างรวดเร็ว
มู่หรงเจี๋ยเพิ่งจะบอกว่ามีข่าวลือจากด้านนอกว่า เซี่ยจื่ออานถูกโบยแล้วถูกพาไปคุมขังในห้องลงทัณฑ์ เหตุผลเดียวจากการคาดเดาภายนอกก็คือการถอนหมั้น
มหาเสนาบดีเซี่ยมาที่นี่เพราะเรื่องนี้ เอาแต่พูดต่อว่าหยวนซื่อ บอกว่านางเป็นคนร้ายกาจ เพราะเขาต้องการให้หยวนซื่อเป็นแพะรับบาป
แต่ว่าทำไม ต้องหาคนมาเป็นแพะรับบาปด้วย? ไม่มีใครในราชวงศ์กล่าวโทษพวกเขา เหตุใดจึงต้องดิ้นรนเข้ามาขอรับโทษ? เพราะว่าเขารู้ว่าเซี่ยจื่ออานเป็นผู้บริสุทธิ์ ผู้ที่ออกความคิดให้ทำเรื่องนี้ก็คือเขาและภรรยารอง ดังนั้น เขาจึงต้องหาผู้อยู่เบื้องหลังสักคนมารับผิดชอบข้อกล่าวหาทั้งหมดแทน พวกเขาต้องการชิงลงมือก่อน ก่อนที่ทางราชวงศ์จะเอาผิดจวนมหาเสนาบดี ก็ขับไล่หยวนซื่อออกไป
จากนั้นก็ยิงธนูดอกเดียวได้เหยี่ยวสองตัว ยืมมือนางเพื่อกำจัดหยวนซื่อ
ฮองเฮาไม่ใช่คนโง่ กำจัดหยวนซื่อเหรอ? ตอนนี้ใครจะกล้าลงมือ?
หยวนซื่อชื่อนี้สะท้านโลก แม้แต่ฝ่าบาทในตอนนั้นก็เคยชอบนาง ยังมีคนอีกเท่าไหร่ที่ตอนนี้ยังคงแอบเก็บบทกวีและภาพวาดของหยวนซื่อไว้ในมือ เพราะถือว่าเป็นสมบัติอันล้ำค่าของพวกเขา? นางเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถมากที่สุดในราชวงศ์นี้ คนส่วนใหญ่ที่ไล่ตามนางคือบัณฑิต นักปราชญ์ และผู้มีความรู้ไม่พอใจเป็นอย่างมาก พู่กันหนึ่งเล่มขีดเขียน แทรกซึมไปได้ทุกที่ ฆ่าคนได้อย่างแยบยล
ผู้มีความรู้ก็ปล่อยผ่านไป เจ้าหน้าพลเรือนและเหล่าทหารในราชวงศ์นี้ยังมีอีกหลายคนที่ชื่นชมและให้ความนับถือหยวนซื่อ ถ้าครั้งนี้หยวนซื่อตายด้วยน้ำมือของนาง ก็จินตนาการได้เลยว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้นกับองค์รัชทายาท?
ฮองเฮาเชื่อว่ามหาเสนาบดีเซี่ยเพียงต้องการขับไล่ หยวนซื่อ แต่ว่าคนที่ต้องการยืมมือนางฆ่าหยวนซื่อจริง ๆ แล้วก็คือพระสนมเหมย
เพราะว่า องค์ชายสามของพระสนมเหมยอายุสิบสามปีแล้ว เพียงรอให้เขาอายุครบสิบหกปีเต็ม ก็จะสามารถครองตำแหน่งองรัชทายาทได้
เพียงแค่องค์รัชทายาทถูกข้าราชบริพารและประชาชนปฏิเสธเพราะนางฆ่าหยวนซื่อ ลูกชายของสนมเหมยก็จะมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะได้ขึ้นเป็นองค์รัชทายาทแทน
ดังนั้น ไม่ใช่มหาเสนาบดีเซี่ยที่ยิงธนูดอกเดียวได้เหยี่ยวสองตัว แต่เป็นสนมเหมย นอกจากจะได้รับค่าตอบแทนจากมหาเสนาบดีเซี่ยแล้ว นางยังสามารถปูทางให้บุตรชายของนางได้อีก
ในวังแห่งนี้อันตรายในทุกก้าวย่าง แม้แต่จื่ออานเองก็คาดไม่ถึงว่าเรื่องเป็นเช่นนี้
สนมเหมยคุ้นเคยกับฮองเฮาดี เห็นสีหน้านางดูเฉยเมย นัยน์ตาเย็นชา ต่างจากความโกรธโดยปกติของนาง ในใจต้องมีความคิดที่แน่นอนแล้ว อย่างไรก็ตาม นี่เป็นโอกาสที่ดีจริง ๆ ดังนั้นแม้นางรู้ว่าไม่ควรกล่าวอะไรอีก แต่นางก็ทนไม่ได้ในใจคิดว่าตนเองจะมีโชคเล็กน้อย “พฤติกรรมของหยวนซื่อนั้น หม่อมฉันรู้ดีว่าเป็นอย่างไร เพราะหลายปีก่อน นางเข้าวังมาเพื่อเข้าเฝ้าหม่อมฉันบ่อย ๆ จำได้ว่าตอนนั้นหม่อมฉันยังเป็นสนมชั้นผิน มีอยู่ครั้งหนึ่งที่นางเข้าวังมาเข้าเฝ้า เมื่อถึงเวลารับชาและขนม มีนางข้าหลวงคนนึงทำชาหกใส่ภาพวาดของนาง นางโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ใบหน้าที่ดูโหดร้ายเกรี้ยวกราดในตอนนั้นของนาง หม่อมฉันยังจำได้ชัดเจน ช่างอำมหิต ต่างจากใบหน้าที่อ่อนโยนในเวลาปกติของนางมาก อีกทั้งยังให้หม่อมฉันสั่งโบยนางข้าหลวงผู้นั้นให้ตาย แน่นอนว่าหม่อมฉันไม่ได้ทำตามที่นางบอก นางข้าหลวงผู้นั้นเป็นข้ารับใช้ที่หม่อมฉันโปรดปรานและไว้วางใจมากที่สุด รับใช้หม่อมฉันอย่างดีเยี่ยม แค่จะโบยนางเบา ๆ หม่อมฉันก็ขุ่นเคืองแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโบยให้ตาย หม่อมฉันให้นางข้าหลวงออกไป และปลอบให้หยวนซื่อใจเย็นลงด้วยคำพูดไม่กี่คำ แล้วเรื่องนี้ก็ผ่านไป แต่ว่าจากเรื่องนี้ก็ทำให้รู้ได้ว่า อุปนิสัยและการกระทำของนางนั้นชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์”