ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 83
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 83
ซุนกงกงตะโกนเสียงเข้ม “ช่างอวดดีนัก ต่อหน้าหวงไท่โฮ่วในวังโซ่วอัน ก็บังอาจยโสโอหังได้เยี่ยงนี้รึ?”
หลิงหลงฟูเหรินเห็นว่าขันทีผู้นี้ก็กล้าตำหนินาง จึงกล่าวด้วยความโกรธ “เจ้าอยู่ในฐานะอะไร? ถึงกล้ามาตะโกนใส่ข้าเยี่ยงนี้”
นางสนมเหมยคิดไม่ถึงว่าหลิงหลงฟูเหรินจะไม่รู้จักกาลเทศะได้ถึงขนาดนี้ ช่างน่ารำคาญเสียจริง วันนี้การได้ไล่ตามน้ำโคลน ช่างเป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างมหันต์
หวงไท่โฮ่วมีท่าทีที่โกรธมาก ขณะที่กำลังจะบันดาลโทสะออกมา ก็เหลียวไปมองนางสนมเหมยแวบหนึ่ง จึงอดกลั้นไว้ได้ ทำได้เพียงแต่กล่าวเสียงเข้ม “เอาสิ เชิญเซียงแหยและฟูเหรินนางนี้ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงออกไป คราหน้าหากไม่ได้รับอนุญาตจากข้า ก็ห้ามเหยียบเข้ามาในประตูวังแม้แต่ก้าวเดียว”
หลิงหลงฟูเหรินตื่นตกใจกลัว จึงรีบคุกเข่าหมอบลงกับพื้นทันที “หวงไท่โฮ่วอภัยให้หม่อมฉันด้วย หม่อมฉันเพียงแค่พลั้งปากไปชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น…”
“จะพลั้งปากหรือสันดานของเจ้าเป็นเยี่ยงนี้อยู่แล้ว ข้าไม่อยากรู้ ข้าเองก็ไม่อยากลงไปเกลือกกลั้วเสวนากับคนประเภทเจ้า ส่วนเรื่องที่ล้มงานอภิเษก ด้วยคุณความดีในส่วนที่จื่ออานได้สร้างไว้ ข้าไม่ต้องการสอบสวนอีก พวกเจ้าออกจากวังไปซะ” หวงไท่โฮ่วออกคำสั่งขับไล่ทันที
หลิงหลงฟูเหรินอยากจะพูดอะไรต่อ แต่กลับโดนมหาเสนาบดีเซี่ยดึงเอาไว้ และเห็นใบหน้าที่ดุร้ายของนางเข้า ในใจก็เกิดความเกลียดชังขึ้นมาครู่หนึ่ง “หุบปาก เจ้ายังขายหน้าไม่พอหรือไง?”
หลิงหลงฟูเหรินก็ชะงักไปทันที ตั้งแต่ที่นางเดินเข้าประตูจวนเสนาบดีมา เขาไม่เคยพูดเสียงดังแบบนี้กับนางมาก่อน
มหาเสนาบดีเซี่ยกับใบหน้าที่ซีดเผือดโค้งคำนับ “หวงไท่โฮ่ว กระหม่อมขอตัวพ่ะย่ะค่ะ!”
ในเมื่อหวงไท่โฮ่วไม้ได้จะสอบสวนเรื่องล้มงานแต่ง เขาก็ไม่อยากจะข้องเกี่ยวมากไปกว่านี้ คิดแค่เพียงรีบ ๆ ออกไป เพื่อไม่ให้หลิงหลงนางโง่เขลาผู้นี้ได้พลั้งปากพูดอะไรผิดไปอีก จนทำให้หวงไท่โฮ่วต้องโกรธเคือง
ก่อนที่มหาเสนาบดีเซี่ยใกล้จะจากไป สายตาที่สับสนมองจื่ออานอยู่ครู่หนึ่ง จื่ออานเองก็สบตากลับอย่างไม่เกรงกลัว ดวงตาของพ่อลูกประสานกันจนเกิดเป็นเขม่าควันในอากาศ ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นเห็นเหมือนกันหมด
ฮองเฮาขมวดคิ้ว ในใจนึกกลัวว่าจะให้เซี่ยจื่ออานออกจากวังไปเร็วขนาดนี้ไม่ได้ แม้นางจะมีทักษะทางการแพทย์ แต่จะต่อสู้กับกลอุบายที่ลึกล้ำของมหาเสนาบดีเซี่ยและเหล่าฟูเหรินได้อย่างไร?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันนี้ที่สองคนนี้กลายเป็นศัตรูอย่างเป็นทางการแล้ว เกรงว่าเสนาบดีจะทนต่อเซี่ยจื่ออานไม่ไหวอีกต่อไป
คิดมาถึงตรงนี้ นางก็สบตากับแม่นมหยาง และขยับนิ้วมือหนึ่งนิ้ว แม่นมหยางก็เข้าใจความหมาย จากนั้นจึงโค้งคำนับแล้วออกไป
มู่หรงเจี๋ยมองเข้าไปในดวงตา มุมปากก็ค่อย ๆ ยกยิ้มขึ้น ครั้งนี้หลิงหลงฟูเหรินคงได้เจอดีเป็นแน่
หวงไท่โฮ่วมองไปยังนางสนมเหมย และกล่าวด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “ความคิดของเจ้าข้าเห็นชัดเจน ถือโอกาสตอนที่หางยังโผล่ออกมา รีบเก็บมันเข้าไปซะ ข้าไม่หวังว่าจะเจออีกในคราหน้า”
ที่นางอดกลั้นไว้ได้เมื่อครู่ ก็เพื่อหน้าตาขององค์ชายสาม ผ่านไปอีกสักสองสามปี องค์ชายสามก็จะถูกแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองแล้ว จึงไม่อยากให้ผู้คนรู้สึกว่าแม่ที่เป็นสนมไร้ประโยชน์ในเวลานี้
สีหน้าของนางสนมเหมยซีดและหม่นหมองลง “หม่อมฉันไม่มีความคิดอะไรแบบนั้นแม้แต่น้อย ไทเฮาอย่าเข้าใจหม่อมฉันผิดไปเลยนะเพคะ เรื่องของวันนี้ หม่อมฉันเองก็ถูกชักนำไปในทางที่ผิด แต่คราวหน้าหม่อมฉันจะจำไว้ ว่าเรื่องที่หม่อมฉันไม่ควรยุ่ง หม่อมฉันก็จะไม่ไปยุ่งอีกเพคะ”
หวงไท่โฮ่วกล่าวอย่างเยือกเย็น “ตั้งใจสั่งสอนองค์ชายสามดี ๆ หากสั่งสอนเขาดี ในวันข้างหน้าเจ้าก็จะมีความสุข เขาเป็นโอรสของกษัตริย์ เป็นหลานชายของข้า จะไม่มีผู้ใดทำให้เขารู้สึกน้อยใจ หากเจ้าที่ทำหน้าที่แม่ไม่เข้าใจที่จะถนอมรักษาความสุขเพื่อเขา งั้นวังหลังเจ้าก็จะทำร้ายเขาอีกเป็นแน่ ซึ่งข้าจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด เจ้าอย่าได้ตำหนิที่ข้าต้องพูดต่อหน้าเจ้าเลย”
นางสนมเหมยก้มหน้าลง รู้ว่าต่อให้แก้ต่างไปก็คงจะไร้ประโยชน์ ไทเฮาเองก็คงจะไม่เชื่อคำพูดของนางอีกต่อไป จึงได้แต่ก้มหัวต่ำ และกล่าวด้วนน้ำเสียงอู้อี้ “หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ หม่อมฉันขอตัวลา!”
ก่อนที่นางสนมเหมยกำลังจะเดินออกไปก็หันมามองจื่ออานครู่หนึ่ง นางไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ถึงได้ยินยอมแต่งงานรับจื่ออานที่เป็นหญิงเยี่ยงนี้เป็นภรรยา นางรู้ว่าหนทางที่นางได้วางไว้ให้ลูกชายมีขวากหนามเพิ่มมาอีกหนึ่งสาย แม่นางจื่นอานนางนี้ไม่ได้จัดการง่าย ๆ เลย
หลังจากที่นางสนมเหมยจากไปแล้ว หวงไท่โฮ่วก็ถอนให้ใจออกมาเฮือกหนึ่ง “องค์จักรพรรดิล้มป่วยไปนานเท่าใหร่กัน? ความคิดของคนพวกนี้จะเผยออกมาหมดแล้ว จะกล่าวโทษก็แต่องค์รัชทายาทที่เฉยเมยเกินไป เหล่าเสนาบดีพลเรือนและการทหารต่างก็มีความคิดเห็น ให้ไปปลุกระดมนางสนมวังหลังที่มีองค์ชาย ใคร ๆ ก็คิดอยากจะเป็นผู้บุกเบิกด้วยกันทั้งนั้น เวลานี้ฮองเฮาจะต้องอบรบสั่งสอนองค์รัชทายาทดี ๆ มิเช่นนั้นไม่รู้ว่าตำแหน่งองค์รัชทายาทจะถูกคนจ้องจะเอาไปเมื่อใด ฮองเฮาอย่างเจ้าก็ไปร้องไห้เสียเถอะ!”
คำพูดทั้งหมดของหวงไท่โฮ่วในวันนี้ทั้งโหดเหี้ยมและรวดเร็ว ใบหน้าของมู่หรงเจี๋ยและเซี่ยจื่ออานไม่มีอารมณ์ใด ๆ เหลือไว้ให้ต่อหน้เฮองเฮาและนางสนมเหมยแม้แต่น้อย