ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 87
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 87
ฮองเฮากลับเข้าไปในตำหนัก พลางกล่าว “เจ้าเข้าไปหลบที่ฉากกั้นด้านหลังเถอะ แล้วข้าจะทำให้เจ้าได้ประจักษ์แก่สายตา ว่าความสามารถที่ว่าของเฉินหลิงหลง แท้จริงแล้วจะน่าทึ่งเพียงใด”
ฮองเฮานั่งลง เพิ่งจะดื่มชาไปได้อึกเดียว แม่นมหยางก็พาเฉินหลงหลงเข้ามา
การหมอบกราบมาตลอดทาง ทำให้หน้าผากของนางบวมนูนขึ้นมา เริ่มมีเลือดซึมออกมา และยืนเซเล็กน้อย
ฮองเฮาเหลือบตามองเฉินหลิงหลงครู่หนึ่ง จากนั้นก็เรียกให้แม่นมหยางมาหา และกระซิบลงข้างหูนาง แล้วนางก็หมุนตัวเดินออกไป
มหาเสนาบดีเซี่ยดึงตัวนางสนมเหมยมา ตัวนางสนมเหมยนั้นไม่ยินยอม แต่พอมหาเสนาบดีเซี่ยพูดบางอย่างกับนาง นางก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นถึงยอมมาด้วยกัน
แต่ทว่าพอมาถึงวังจิ้งหนิง กลับเจอแม่นมหยางยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู พลางกล่าว “สนมหมย มหาเสนาบดี เชิญท่านทั้งสองไปดื่มชาที่ห้องปีกตะวันตกก่อนเถิด ฮองเฮามีเรื่องจะคุยกับฟูเหริน”
นางสนมประหลาดใจเล็กน้อย วังจิ้งหนิงเป็นที่ที่นางมาบ่อย และรู้ด้วยว่าจากห้องปีกจะวันตกสามารถมองเห็นทุกอย่างภายในตำหนักผ่านม่านลูกปัด
แท้จริงแล้วฮองเฮากำลังเล่นตลกอะไรอยู่กันแน่?
นางสบตากับมหาเสนาบดีเซี่ยครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตามแม่นมหยางไปที่ห้องปีกตะวันตก
อันที่จริงแล้วห้องปีกตะวันตกและตำหนัก กั้นกันเพียงม่านลูกปัดชั้นเดียว แต่ข้างหลังลูกปัดมีม่านสีดำผืนหนาอยู่ เพราะฉะนั้น คนในตำหนักก็จะมองไม่เห็นคนที่อยู่ทางห้องปีกตะวันตก
หลังจากที่แม่นมหยางพาทั้งสองเข้าไปนางก็ออกมา นางสนมเหมยจึงรีบไปเปิดม่านหนาออก แล้วมองผ่านม่านลูกปัดไป
ทุกสิ่งในตำหนัก สามารมองเห็นได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่บทสนทนาเองก็ไหลเข้าหูได้อย่างชัดเจน
ฮองเฮาเข้าไปพยุงหลิงหลงฟูเหรินขึ้นมาด้วยตนเอง ยิ้มพลางกล่าวว่า “ฟูเหริน ที่ข้าบุ่มบ่ามเชิญท่านมา เพราะอยากจะขอร้องท่านเรื่องหนึ่ง”
หลิงหลงฟูเหรินเกิดไม่แน่ใจในเจนตนาที่แท้จริงของฮองเฮาเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยากมีปัญหา จึงกล่าวไปว่า “ฮองเฮามีอะไรก็รับสั่งมาได้ตลอดเลยเพคะ”
ฮองเฮากวักมือเรียกให้คนนำภาพที่ม้วนอยู่ออกมา แล้วกางออกมาตรงหน้าหลิงหลงฟูเหรินช้า ๆ
หลิงหลงฟูเหรินตกใจเล็กน้อย มหาเสนาบดีเซี่ยเองก็ถูกภาพภาพนี้สะกดเอาไว้ ทำให้ทั้งสองนั้นเดินเคียงคู่กันมา
นี่เป็นภาพทิวเขาและลำน้ำ มันไม่ใช่ภาพร่าง ทั้งหมดแต่งแต้มด้วยสีสัน โทนสีที่ใช้ก็ดีมาก และอีกอย่าง โทนสีลักษณะนี้ ปัจจุบันนี้ห้องภาพที่อยู่ในวังก็ทำออกมาแบบนี้ไม่ได้แล้ว
วัสดุที่ใช้ระบายนี้ เป็บแบบพิเศษ
มหาเสนาบดีเซี่ยพอเห็นภาพนี้แล้ว ก็ระลึกถึงอดีตกับหลิงหลงฟูเหริน ร่องรอยของความเกลียดชังที่มีมาก่อนหน้านี้ถูกชะล้างด้วยความหอมหวานของอดีต จนทุกวันนี้มองภาพนี้แล้ว ก็ยังรู้สึกอัศจรรย์อยู่เช่นเคย
เรื่องวาดดีไม่ต้องพูดถึงเลย แต่ทว่าสีที่ใช้งดงามไม่มีที่ติ เมื่อภาพนี้กางออก ราวกับทำให้คนเอาตนเองเข้าไปอยู่ในนั้น ทิวเขาสีเขียวขจีกับลำน้ำสีฟ้า นกน้อยกำลังโบยบิน ดอกไม้เบ่งบานและร่วงหล่นอย่างมีชีวิตชีวา ในตอนนั้นเป็นภาพนี้เอง ที่แม้เพียงชั่วครู่ก็สามารถดึงดูดเขาได้ถึงเพียงนี้
เพียงแต่ว่า ภาพภาพนี้ ถูกเก็บไว้ในคลังเก็บของมาโดยตลอด ทำไมถึงได้มาอยู่ในมือของฮองเฮาได้?
มหาเสนาบดีเซี่ยไม่รู้เรื่องนี้ เซี่ยหว่านเอ๋อร์เป็นคนขโมยภาพนี้ออกมาจากคลังเก็บของเพื่อมอบให้องค์รัชทายาท แต่องค์รัชทายาทไม่ได้ชอบงานจำพวกศิลปะลายมือและภาพวาด จึงส่งต่อให้ฮองเฮา ฮองเฮาจึงมีรับสั่งให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับมาประเมิน ว่าภาพภาพนี้ เป็นภาพที่หยวนซื่อหญิงสาวผู้มีความสามารถวาดเอง
“ข้าได้ยินมาว่า ในปีนั้นเจ้าส่งมอบภาพนี้แก่เซียงแหย” ในน้ำเสียงของฮองเฮาไม่มีแววชื่นชมอยู่เลย “จิตรกรในวังหลวง ล้วนเทียบฝีมือไม่ติดกันเลยทีเดียว”
หลิงหลงฟูเหรินแสดงออกว่าพอใจเล็กน้อย “ไม่ขนาดนั้นหรอกเพคะฮองเฮา ภาพนี้เป็นเพียงภาพที่หม่อมฉันวาดขึ้นมาตามความชอบเท่านั้น ไม่นับว่าป็นผลงานที่งดงามอะไรหรอกเพคะ”