ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 88
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 88
ดวงตาของฮองเฮาเบิกกว้าง “ขนาดทำไปตามใจแต่ได้ผลงานคุณภาพสูงขนาดนี้ หากตั้งใจอีกสักหน่อย จะงดงามมากเพียงใด? ความสามารถของฟูเหริน หยวนซื่อเทียบไม่ติดเลยแม้แต่น้อย”
หลิงหลงฟูเหรินทัดปอยผมที่ร่วงหล่นลงมาตอนที่นางเดินสามเข่าและหน้าผากแตะพื้นเก้าครั้ง ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่ดูสงบเสงี่ยม “ฮองเฮาก็ชมเกินไปเพคะ หม่อมฉันเองก็ไม่ชอบเปรียบเทียบกับหยวนซื่อด้วย”
ฮองเฮาหัวเราะขึ้นมา “เมื่อพูดมาแบบนี้แล้ว ภาพภาพนี้ คงจะมาจากฝีมือของฟูเหรินจริง ๆ สินะ?”
หลิงหลงฟูเหรินตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ฮองเฮา จริงที่สุดเพคะ เพียงแต่ว่าตอนนี้หม่อมฉันได้ปฏิญาณตนต่อหน้าพระแล้วว่า หม่อมฉันจะไม่วาดภาพอีก”
พอฮองเฮาได้ฟังคำนี้ ก็ยกภาพที่ม้วนอยู่ขึ้นทันที และตะโกนเสียงแข็ง “ทหาร นำตัวกบฏที่คิดจะทำลายราชวงศ์โจวผู้ยิ่งใหญ่ของข้าออกไป!”
หลิงหลงฟูเหรินตกใจ มององค์รักษ์สองนายที่รีบวิ่งเข้ามาจากนอกตำหนักอย่างงุนงง โดยไม่รู้เรื่องเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่ยังพูดถึงเรื่องภาพอยู่ แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงลากเข้ามาเรื่องกบฏหรือคนทรยศอะไรนี่ได้
มหาเสนาบดีเซี่ยที่อยู่ห้องปีกตะวันตกอยากจะพุ่งออกไป แต่กลับถูกนางสนมเหมยที่ดูประตูทางเข้าอยู่ขวางเอาไว้ และนางสนมก็รีบส่ายหัวด้วยความรวดเร็ว “ออกไปไม่ได้”
มหาเสนาบดีเซี่ยก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลก ๆ จึงหยุดนิ่ง แล้วเฝ้าติดตามสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป
องค์รักษ์สองนายจับกุมตัวหลิงหลงฟูเหรินไว้ หลิงหลงฟูเหรินกล่าวเสียงแหลม “ฮองเฮานี่มันหมายความว่าอะไรเพคะ? ทำไมหม่อมฉันถึงกลายเป็นกบฏไปได้?”
ใบหน้าที่เยือกเย็นของฮองเฮา ออกคำสั่งให้คนกางภาพวาดออกอีกครั้ง แล้วชี้ไปที่ดอกไม้ตรงมุมขวาล่าง แล้วกล่าวเสียงเข้ม “ยังจะบอกว่าเจ้าไม่ใช่กบฏอีกหรือ? ภาพภาพนี้ ดอกแพร์ผลิบาน ดอกชบาจึงพ่ายไป ปกปิดความในใจที่กำลังวางแผนก่อกบฏอยู่ ดอกแพร์แสดงความนัยถึงหลี่ฮวา ตระกูลมู่หรงได้ยึดครองแคว้นนี้มาจากตระกูลหลี่ และในคำพูดของบรรพบุรุษที่มีตัวจิ่นอยู่ในนั้น ตอนนี้ที่เจ้าชี้ไปที่ดอกชบาพ่ายแก่ดอกหลีที่ผลิบาน ไม่ได้มีความหมายว่าจะล้มล้างราชวงศ์หรอกหรือ? หรือเจ้ากล้าบอกว่าเจ้าไม่ใช่กบฏ?”
หลิงหลงฟูเหรินตกใจจนวิญญาณหลุดหายไปแล้ว นางรีบสลัดมือขององค์รักษ์ออกและลงไปคุกเข่า ตัวสั่นสั่นสะท้าน “ฮองเฮาช่างหลักแหลมนัก แท้จริงแล้วหม่อมฉันได้ปิดบังความจริงเอาไว้ ว่าภาพภาพนี้ หม่อมฉันไม่ได้เป็นคนวาดเพคะ หยวนซื่อต่างหากที่วาด”
การล้มล้างราชวงศ์เป็นอาชญากรรมร้ายแรง ทำไมนางจะต้องยอมแบกรับภาระอันนี้เอาไว้ล่ะ?
หลังจากคำพูดนี้หลุดออกไป จื่ออานที่หลบอยู่หลังฉากกั้นก็ค่อย ๆ เผยรอยยิ้มออกมา เป็นอย่างนี้นี่เอง ภาพภาพนี้ เป็นภาพที่ท่านแม่วาดจริง ๆ เพียงแต่ในตอนนั้นหลิงหลงฟูเหรินเอาภาพนี่ไปได้อย่างไร? และท่านแม่จะไม่เคยเห็นภาพนี้ในมือนางเลยหรือ? แล้วอีกอย่างทำไมภาพภาพนี้ถึงได้ตกมาอยู่ในมือของฮองเฮาได้?
จื่ออานเข้าใจเจตนารมณ์ของฮองเฮาแล้ว เธอรู้ว่ามหาเสนาบดีเซี่ยเองต้องหลบอยู่ไม่ไกลจากแถวนี้ สิ่งที่เกิดตรงนี้ทั้งหมด เขาคงเห็นหมดแล้ว
การล้มล้างหลิงหลงฟูเหรินได้ฝังลงไปในจิตใจเขาแล้ว และความเกลียดชังก็จะค่อย ๆ เกิดขึ้นภายใต้จิตใจเขา แม้ว่าจะไม่สามารถเผยความชั่วร้ายออกมาได้ในเวลาอันสั้น แต่มันได้ฝังสาเหตุที่จะทำให้เกิดการปะทุออกมาลงไปแล้ว
ในระหว่างนี้ เธอและท่านแม่ก็จะสามารถแย่งโอกาสของการมีชีวิตในตำหนักนี้ได้ เพราะหลิงหลงฟูเหรินคงจะคิดหาวิธีที่จะซื้อใจมหาเสนาบดีเซี่ยคืนมา คงไม่มีแรงมากมายมาจัดการกับพวกเธอหรอก
ฮองเฮาเองก็คงไม่มาไกล่เกลี่ยปัญหานี้ให้เธอจนจบสิ้นหรอก เพราะฮองเฮาเพียงแค่ต้องการใช้เธอรักษาอาการของจักรพรรดิเหลียงเท่านั้น และสิ่งที่นางต้องการมีแค่รับประกันความปลอดภัยให้เธอแค่ชั่วครู่เท่านั้น เมื่อจักรพรรดิเหลียงหายดีแล้ว เธอจะเป็นหรือจะตาย ฮองเฮาคงไม่มาสนใจอะไรอีก
จื่ออานเข้าใจเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่งก็คือ หลังจากที่งานอภิเษกของเธอและผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิถูกกำหนดขึ้น แน่นอนว่าเป้าหมายของฮองเฮาได้เล็งมาที่เธอแล้ว เพราะฉะนั้น วันนี้เธอต้องเหลือที่ว่างให้หลิงหลงฟูเหรินสักเล็กน้อยแน่นอน เพื่อที่ว่าจะได้ยืมมือของหลิงหลงฟูเหรินมาขัดขวางตนเอง
ใบหน้าของมหาเสนาบดีเซี่ยมืดมนทั่วทั้งใบหน้า ราวกับว่าเขาไม่สามารถเชื่อสิ่งที่ตนได้ยิน เขาปฏิเสธความจริงนี้อย่างไม่มีสติ หรือหากหันหลังกลับไปได้เขาก็จะไปอย่างไม่คิดเลย
สำหรับเขาแล้วเรื่องนี้ยังทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าการที่เซี่ยจื่ออานได้อภิเษกกับผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิเสียอีก ความภาคภูมิใจมาเกือบยี่สิบปีของเขาก็เปลี่ยนเป็นความบ้าคลั่งในทันที เขาคิดว่า หญิงสาวที่มีความสามารถที่สุดในภพนี้ พร้อมใจที่จะมาเป็นนางสนมให้กับเขา
ก่อนหน้านี้เขาคิดมาโดยตลอดว่าหยวนซื่อนั้นเย่อหยิ่งและอวดดีจนเกินไป ผู้คนมากมายก็เอาแต่โอ้อวด อันที่จริงแล้วคือมีชื่อเสียงเกียรติยศมากกว่าความสามารถ ในตอนนั้นเขาคิดถึงขนาดว่า เขาจะไล่ตามจีบหยวนซื่ออย่างบ้าคลั่ง จนภายนอกจะต้องสั่นสะท้าน
จนเมื่อเขาได้มาพบกับภาพที่เฉินหลิงหลงวาด เขาจึงรู้ว่า หญิงที่มีความสามรถจริง ๆ จะไม่พูดมากและหนักแน่น แต่ไม่ใช่แบบหยวนซื่อ ที่จมลึกลงไปในวังวนของชื่อเสียงและเกียรติยศ