ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 89
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 89
เมื่อฮองเฮาได้ฟังคำกล่าวนี้แล้ว ก็ปัดมือให้องค์รักษ์ออกไป และจ้องเขม็งไปยังหลิงหลงฟูเหรินพลางถาม “เจ้าว่าอะไรนะ? เป็นภาพที่หยวนซื่อวาดงั้นหรอ? หากหยวนซื่อเป็นคนวาดแล้วเหตุใดจึงมาเป็นของของเจ้าได้? แล้วไหนจะยังกลายมาเป็นของขวัญที่เจ้ามอบให้มหาเสนาบดีเซี่ยอีก?”
“ฮองเฮาเพคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนะเพคะ ภาพภาพนี้เป็นภาพที่หยวนซื่อวาดจริง ๆ เดิมทีนั้นหยวนซื่อได้มอบภาพภาพนี้ให้กับองค์ชายอาน วันนั้นข้ารับใช้ที่ดูแลหยวนซื่อถูกหม่อมฉันซื้อตัวมา ภาพนี้จึงตกมาอยู่ที่หม่อมฉันเพคะ” หลิงหลงฟูเหรินได้แต่ภาวนาให้ฮองเฮาเชื่อคำพูดของนาง จะอะไรก็ไม่สนแล้วทั้งนั้น
ฮองเฮาโกรธจัด “เหลวไหล ภาพนี้จะมอบให้องค์ชายอานได้อย่างไร? หยวนซื่อแต่งงานกับมหาเสนาบดีไปแล้ว ที่เจ้าบอกว่านางมอบภาพนี้ให้แก่องค์ชายอาน จะหาว่านางเป็นหญิงแพศยาอย่างนั้นหรอ? เจ้านี่มันดื้อดึงไม่เปลี่ยน จนทุกวันนี้ก็ยังคิดแต่จะใส่ร้ายหยวนซื่อ”
“ไม่นะเพคะ ไม่ใช่” หลิงหลงฟูเหรินเห็นว่าฮองเฮายังโมโหอยู่ ก็รีบอธิบายต่อทันที “ภาพนี้ไม่ใช่ของแทนใจเพคะ หม่อมฉันฟังที่ข้ารับใช้ข้างกายหยวนซื่อว่า ที่หยวนซื่อมอบภาพภาพนี้ให้องค์ชายอาน เพื่อสื่อความหมายกับองค์ชายอานว่า นางได้พบคนดี ๆ แล้ว ไม่จำเป็นที่จะให้องค์ชายอานรอนางอีกต่อไป”
หลิงหลงฟูเหรินกลัวว่าฮองเฮาจะไม่เชื่อ จึงคลานเข้าไปแล้วชี้ที่นกกระเต็นบนภาพ “หากพระองค์ไม่ทรงเชื่อหม่อมฉัน โปรดทอดพระเนตรตรงนี้เพคะ นกกระเต็นตัวนี้คือหยวนซื่อ ชื่อก่อนแต่งงานของหยวนซื่อคือหยวนฉุ่ยยวี่ และนกกระเต็นที่โฉบลงบนต้นฮวายฉู้หมายถึง เสนาบดีเซี่ยฮวายจิน ส่วนที่เหลือที่เป็นดอกไม้ใบหญ้า จะหลี่ฮวาหรือจะดอกชบาอะไรนั่น จะมีการก่อกบฏล้มล้างราชวงศ์หรือไม่นั้น หม่อมฉันไม่รู้เรื่องด้วยจริง ๆ นะเพคะ”
ฮองเฮากล่าวอย่างเยือกเย็น “เชิญเจ้าเล่นลิ้นต่อไปได้เลย หากตอนนี้เจ้าสามารถหาว่าหยวนซื่อเป็นคนทำได้ และในวังหวงไท่โฮ่วเมื่อสักครู่นี้ เจ้ายังบอกอยู่เลยว่าไม่ชอบนาง แล้วเรื่องที่เซี่ยจื่ออานล้มงานอภิเษก เจ้าก็ยังใส่ร้ายนาง เจ้าคิดว่าข้าโง่? เรื่องนี้เจ้าคงเถียงไม่ได้ง่าย ๆหรอก ข้าจะจัดการกับเจ้าก่อน จากนั้นก็ส่งต่อให้ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิจัดการกับเจ้าในข้อหาก่อกบฏ”
หลิงหลงฟูเหรินแทบจะตกใจกลัว วันนี้ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิได้ออกปากเป็นเชิงว่าเกลียดนางแล้วถึงสองครั้ง หากส่งนางต่อให้องค์ชาย นางต้องตายแน่ ๆ นางคลานเข้าไปข้างหน้าแล้วกดหน้าผากลง พลางอธิบายด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทาว่า “กราบทูลฮองเฮา หม่อมฉันไม่ได้คิดร้ายต่อหยวนซื่อจริง ๆ เพคะ หยวนซื่อเป็นคนทำแน่นอนไม่ผิดแน่ ส่วนเรื่องที่เซื่ยจื่ออานล้มงานอภิเษกนั้นเกี่ยวข้องกับหม่อมฉันเพคะ ไม่ใช่ว่าหม่อมฉันไม่อยากให้หว่านเอ๋อร์อภิเษกกับองค์จักรพรรดิเหลียง แต่เพราะองค์รัชทายาทชอบพอกับหว่านเอ๋อร์อยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว หม่อมฉันเองก็ไม่มีทางเลือกเพคะ”
ฮองเฮาได้ยินดังนั้น ดวงตาฉายแววโกรธขึ้นมาทันที จึงออกคำสั่งเสียงแข็งว่า “เจ้ายังจะกล้าเล่นลิ้นอีกรึ? มานี่สิ มาให้ข้าตบปาก!”
แม่นมหยางเข้ามาในตำหนักอย่างนรวดเร็ว ราวกับว่าได้เตรียมตัวไว้ก่อนหน้าแล้ว นางหยิบแผ่นไม้แบน ๆ ออกมาจากแขนเสื้อ แผ่นไม้แผ่นนี้ ใช้สำหรับลงโทษนางข้าหลวงและขันทีที่ทำผิดโดยเฉพาะ โดนไม้กระดานเข้าไปสักหน่อย ปากคงจะบวมพอสมควร
แม่นมหยางชังหลิงหลงฟูเหรินที่ไร้มารยาทกับนางยามที่อยู่ที่จวน พอได้รับคำสั่งจากฮองเฮา นางคว้าเข้าที่คอเสื้อของหลิงหลงฟูเหรินแล้วดึงขึ้นมา มือขวาถือแผ่นกระดานเอาไว้ แล้วตบเข้าไปที่แก้มของหลิงหลงฟูเหริน
เสียงโหยหวนราวกับหมูถูกเฉือดนั้น ทำให้มหาเสนาบดีเซี่ยที่ดูอยู่ทางห้องปีกตะวันตกนั้นรู้สึกขายหน้า ในใจเกิดความรู้สึกเหมือนถูกฉีกหน้า คิดแต่เพียงว่าหญิงนางนี้ช่างโง่เขลานัก แม้แต่แผนล่อลวงของฮองเฮาก็มองไม่ออก
นางเพิ่งจะยอมรับไปว่านางมีส่วนเกี่ยวกับเรื่องที่ล้มงานอภิเษก และยังบอกไปตรง ๆ อีกว่าองค์รัชทายาทชอบพอหว่านเอ๋อร์ ภายใต้สถาณการณ์แบบนี้พูดแบบเรื่องนั้นไป ฮองเฮาจะไม่มีท่าทีโมโหได้อย่างไร?
มหาเสนาบดีเซี่ยยังเข้าใจด้วยว่า หวงไท่โฮ่วอยากที่จะยุติความขัดแย้งนี้ แต่ฮองเฮากลับไม่คิดเช่นนั้น
รู้กันแต่ไหนแต่ไรแล้วว่าฮองเฮาทรงใจแคบ มีแค้นก็ต้องชำระ แต่ที่น่าตลกก็คือ เมื่อครู่เขายังคิดอยู่เลยว่าเหตุการณ์นี้ก็ให้มันผ่านไปแบบนี้แหละ
ตั้งแต่ที่ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิจงใจสั่งคนให้กระจายข่าวออกไป จนมาถึงเรื่องที่พวกเขาเข้าวังมาเพื่อขอประทานอภัยโทษอย่างหวาดกลัว แผนพวกนี้ทั้งหมด ล้วนอยู่ในความคาดหมายของผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิทั้งหมด เขาทำเพื่อที่จะช่วยเหลือนางผู้หญิงแพศยาคนนั้น
ความเกลียดชังที่มหาเสนาบดีเซี่ยมีให้เซี่ยจื่ออานนั้น ก็ยิ่งเพิ่มทวีคูณขึ้นไปอีก
แผ่นกระดานฝาดลงไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จนหลิงหลงฟูเหรินมึนหัวและแทบจะเป็นลมล้มฟุบลงไปกับพื้นแล้ว
พอแม่นมหยางปล่อยตัวนาง ตัวนางจึงลงไปกองอยู่กับพื้น แก้มบวมเป่ง ริมฝีปากพอง มีเลือดสดไหลออกมาจากขอบปาก และมีเส้นผมบนมวยผมที่ยุ่งเหยิงติดออกมา มันทั้งน่าอับอายและน่าสังเวชอย่างสุดจะพรรณนา
จื่ออานที่มองอยู่ด้านหลัง ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ
ไม่ใช่ว่าเธอวางมือ แต่เธอไม่ได้รู้สึกว่าได้คลายความแค้นลงด้วยซ้ำ
กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งอยู่ในตำหนักทำให้เธอหวนนึกถึงวันแรกที่เธอได้ข้ามภพมาในเวลานั้น ในหัวมีแต่เสียงร้องโหยหวนและความสิ้นหวังของเจ้าของร่างเดิมดังกึกก้อง ชีวิตที่สดใสและร่าเริงชีวิตนั้น ได้ตกไปอยู่ในกำมือของหลิงหลงฟูเหรินและองค์รัชทายาทมู่หรงเฉียวเช่นนี้แหละ