CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง - ตอนที่ 368 ฝ่าบาทจะเป็นยอดบุรุษ

  1. Home
  2. ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง
  3. ตอนที่ 368 ฝ่าบาทจะเป็นยอดบุรุษ
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

วิญญาณทมิฬส่ายศีรษะ รู้สึกว่าสตรีผู้นี้ช่างหมดทางเยียวยาแล้ว

 

 

ช่างกลิ้งกลอกดีนัก!

 

 

ยามที่คนเขาอยู่ด้วย ก็ทำตัวห่างเหินผลักออกไปไกลกันพันลี้ พอคนไม่อยู่เท่านั้นล่ะ ก็ชักจะรู้สึกว่าคนเขาดีขึ้นมาเชียวหรือ?

 

 

ดังนั้นสตรีถึงได้เป็นสิ่งประหลาดที่แท้จริง คาดเดาความคิดไม่ถูกเลย

 

 

มันเองก็ขี้เกียจจะไปถกเถียงกับนางแล้ว มันยื่นมือสั้นๆ ไปซ้อนหลังท้ายทอย เริ่มกลับไปคิดถึงวันคืนในโลกเดิมที่จากมา

 

 

………………

 

 

เมืองหลวงแคว้นต้าเหยียน จิงหวาเฉิง

 

 

จวนอวี้สื่อฟู่

 

 

ค่ำคืนนี้ขุนนางอวี้สื่อเมืองจิงหวาจัดงานเลี้ยงรับรองฮ่องเต้ต้าโจวเป็นพิเศษ

 

 

นับตั้งแต่ที่ต้าโจวเริ่มเปิดสงครามโจมตีต้าเหยียนก็ได้รับชัยชนะมาโดยตลอด เพียงระยะเวลาสั้นแค่สองเดือนกว่าๆ ต้าเหยียนก็ต้องสูญเสียเมืองใหญ่น้อยไปมากมาย

 

 

เมืองจิงหวาเป็นเมืองใหญ่อันดับสามของต้าเหยียน มีประชากรอาศัยอยู่จำนวนมาก การค้าคึกคัก

 

 

อวี้สื่อผู้นี้เป็นคนฉลาด รู้ว่าแข็งข้อไปก็ไร้ประโยชน์ จึงได้ตัดสินใจเป็น ‘คนทรยศชาติ’ อย่างรวบรัดชัดเจนไปเลย

 

 

เขาไม่เพียงเชื้อเชิญจีเฉวียนเข้าเมืองมา ทั้งยังจัดสรรสตรีโฉมงามเอาไว้ข้างๆ

 

 

ใต้หล้านี้ใครๆ ต่างก็รู้ว่า ขอเพียงแค่เป็นบุรุษ ก็ไม่มีผู้ใดไม่ชอบหญิงงาม

 

 

อย่าว่าแต่สตรีที่เขาตระเตรียมเอาไว้ยังเป็นสตรีชั้นหนึ่งในหมู่หญิงงาม แต่ไหนเลยจะรู้ว่า ในงานเลี้ยงฮ่องเต้กลับมิได้ทรงเหลียวแลสตรีผู้นั้นเลยสักแวบเดียว

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นทันทีที่ผู้ติดตามของพระองค์นำจดหมายมาถวาย ก็ทรงยกเลิกงานเลี้ยงไปในทันที

 

 

นี่เป็นครั้งที่เจ็ดที่ฝ่าบาททรงได้รับจดหมายตอบจากตู๋กูซิงหลัน

 

 

กระดาษจดหมายเป็นกระดาษซวนเฉิงจื่อ [1] ที่เลื่องชื่อของต้าโจว พอเปิดออกมาก็ได้เห็นภาพวาดกระยึกกระยืออยู่บนนั้น

 

 

ตู๋กูจุนยืนอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าสับสน ว่ากันตามจริงแล้ว นอกจากคำว่า ‘กราบทูลฮ่องเต้’ สี่คำแล้ว ที่เหลือก็เป็นภาพหยักๆ โค้งๆ ทั้งหมด เขาดูไม่ออกจริงๆ ว่าน้องเล็กกำลังเขียนอะไรอยู่

 

 

แต่กลับได้เห็นจีเฉวียนมีสีพระพักตร์ที่อ่อนโยนทั้งยังแย้มสรวลออกมา

 

 

“นางบอกว่าเนื้อหมูดำอร่อยมาก ถึงกับต้องกินข้าวสามชาม หิมะในเมืองหลวงหยุดแล้ว ขนาดต้นไม้ยังแทงยอดใหม่ นางสุขสบายดีทุกอย่าง”

 

 

ตู๋กูจุน “???”

 

 

เขาอดไม่ได้ที่จะยื่นศีรษะเข้าไปมองดูภาพที่เลอะเทอะไปด้วยหมึกสีดำจนลายตาเหล่านั้น

 

 

เอ่อ มีรูปคนตัวเล็กๆ ที่หัวเหมือนไม้ขีดไฟ ถืออะไรกลมๆ สามอัน ข้างๆ มีรูปหัวหมู

 

 

จากนั้นก็มีรูปต้นไม้ บนกิ่งของต้นไม้เขียนอักษรคำว่ายอดเอาไว้

 

 

สุดท้ายเป็นรูปใบหน้ายิ้มกลมๆ

 

 

หากมองตามนี้ จากคำอธิบายของฮ่องเต้ก็ดูจะไม่มีอะไรผิดพลาด?

 

 

หากว่าเขาจดจำได้ไม่ผิดไปละก็ ก่อนหน้านี้น้องเล็กคือคนที่เขียนอักษรได้วิจิตรบรรจงอย่างที่สุดผู้หนึ่ง นางวาดรูปดอกมู่ตานขาวดำด้วยหมึกได้อย่างงดงามชนิดที่เหล่าอาจารย์ยังต้องเทิดทูน นี่คือผลสืบเนื่องจากการฆ่าตัวตายในครั้งนั้น ทำให้สูญเสียความทรงจำจนแม้แต่วิธีการเขียนอักษรและวาดรูปก็ยังเปลี่ยนไป?

 

 

ตู๋กูจุนเกิดความสงสัยขึ้นมา เขาสงสัยว่านี่จะต้องไม่ใช่น้องเล็กเขียนอย่างแน่นอน

 

 

เกรงว่าน้องเล็กคงขี้เกียจจะสนใจฮ่องเต้ ถึงได้มอบหมายให้เชียนเชียนเขียนแทน

 

 

ฮ่องเต้กลับทรงคิดต่างไปจากเขาอย่างสิ้นเชิง พระองค์แย้มสรวลตรัสว่า “ในใต้หล้านี้กลับมีสาวน้อยที่น่ารักอย่างซิงซิงอยู่ด้วยหรือ?

 

 

ตู๋กูจุน “น้องสาวของกระหม่อมย่อมไม่มีผู้ใดเทียบได้”

 

 

ที่ฮ่องเต้ตรัสนั้นเขาย่อมยินดีฟังอยู่แล้ว น้องเล็กเหมือนดั่งน้ำตาลก้อน หวานล้ำฉ่ำถึงหัวใจดั่งผลไม้เชื่อม

 

 

หลังจากนั้นฮ่องเต้ก็ทรงเก็บจดหมายเอาไว้ในสาบเสื้อฉลองพระองค์ พลางตบพระอุระเบาๆ “นางยังบอกด้วยว่าคิดถึงเรามากๆ”

 

 

ตู๋กูจุน “ข้อนั้นกระหม่อมมองไม่ออกเลย”

 

 

เขารู้สึกว่าน้องเล็กย่อมต้องคิดถึงเขาที่เป็นพี่ใหญ่มากกว่าเป็นแน่

 

 

“นางเขียนจดหมายให้เรา ก็ต้องเพราะคิดถึงเราอยู่แล้ว ไม่งั้นทำไมถึงไม่เห็นนางเขียนจดหมายให้เจ้าบ้าง?” ฮ่องเต้ทรงหันไปทำพระพักตร์ดูถูก จึงได้ทอดพระเนตรเห็นว่าตู๋กูจุนสีหน้าดำคล้ำจนจะเป็นก้นหม้อไหม้อยู่แล้ว

 

 

ฝ่าบาททรงตรัสอย่างประหลาดพระทัยว่า “ท่านแม่ทัพผู้พิชิตเป็นอะไรไปแล้ว? กำลังฝึกฝนวิชาใหม่วิชาหน้าดำขับไล่ศัตรูหรือ?”

 

 

ตู๋กูจุน “…..”

 

 

“ฝ่าบาท นี่เป็นของฝากที่น้องสาวส่งมาให้กระหม่อม แผ่นบำรุงผิวและความงาม”

 

 

ก่อนหน้านี้น้องเล็กเห็นว่าผิวของเขาหยาบกระด้าง จึงมอบสิ่งนี้มาให้เขามากมายหลายห่อ ตอนแรกเขายังรู้สึกเขินอายไม่กล้าใช้ แต่ว่าตอนนี้คุ้นเคยมากแล้ว

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นพอใช้แล้วก็รู้สึกติดจนหยุดไม่ได้ หลังจากไปฆ่าคนมาเป็นต้องหยิบมาใช้แผ่นหนึ่ง ใช้แล้วก็รู้สึกว่าผิวหน้าสดชื่นเบาสบายไปหมด

 

 

ฮ่องเต้เหล่พระเนตรมองเขาอย่างลับๆ มิน่าเล่า….ก่อนหน้านี้ถึงได้รู้สึกว่าตู๋กูจุนมีอะไรแปลกๆ ไป

 

 

ออกศึกรบพุ่งอยู่ในสนามรบอยู่ทุกๆ วัน แต่ผิวพรรณก็ยังคงดีอยู่เลย ที่แท้ล้วนเป็นเพราะสิ่งที่ซิงซิงเหนื่อยยากลำบากทำขึ้นมา

 

 

“ฝ่าบาท น้องเล็กได้ส่งของมาถวายพระองค์บ้างหรือไม่พะยะค่ะ?” ตู๋กูจุนเสียบมีดลงไปโดยไม่ห่วงว่าใครจะเจ็บปวด สีพระพักตร์ที่เปลี่ยนเป็นดำคล้ำในทันควันนั้นได้บ่งบอกออกมาจนหมดแล้ว แววพระเนตรยังสื่อความว่าสมควรตายอีกด้วย

 

 

จีเฉวียน “เรารูปโฉมงดงามมาแต่กำเนิด ต่อให้เผชิญลมฝนก็ไม่มีผลแม้แต่น้อย ซิงซิงรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว จึงไม่ได้ส่งมาให้เรา”

 

 

ว่าแล้ว ฮ่องเต้ก็แทงดาบสวนกลับไปอีกครั้ง “ดูท่าแล้วในสายตาของนาง มีแต่คนที่น่าเกลียดถึงสมควรได้ใช้ เจ้าว่าใช่หรือไม่?”

 

 

ตู๋กูจุน “….” ดาบใหญ่ของเขาชักจะกระหายเลือดขึ้นมาแล้ว ให้ตายเถอะ

 

 

“ท่านแม่ทัพผู้พิชิต เจ้าอายุปูนนี้แล้วยังไม่มีศรีภรรยา นี่ยิ่งเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า เรื่องของใบหน้านั้น เจ้ามันใช้ไม่ได้”

 

 

ฮ่องเต้ทรงตบไหล่ของเขาเบาๆ “แต่ก็ไม่ต้องรีบร้อน ลองดูสิว่าในต้าเหยียนนี้มีสตรีที่น่าพึงพอใจหรือไม่ เราจะประทานให้เจ้าไปเป็นศรีภรรยา”

 

 

ตู๋กูจุนตั้งใจว่า พอกลับไปบ้านแล้วจะต้องให้น้องสาวอยู่ห่างฮ่องเต้สุนัขให้มากๆ!

 

 

ไอ้คนไม่ใช่คน!

 

 

โสดแล้วผิดตรงไหน? หลายปีมานี้เขาก็แค่ไม่อาจตัดใจจากจีฉุนได้ ก็เลยทำให้ไม่เปิดใจรับหญิงอื่นเท่านั้น

 

 

มิเช่นนั้นแล้ว ด้วยรูปโฉมและศักดิ์ฐานะของเขานั้น ป่านนี้คงจะมีหญิงสาวมากมายพากันไล่ตามมาแล้ว

 

 

กลางดึกคืนนั้น ในกระโจมแม่ทัพของตู๋กูจุนมีขโมยบุกเข้ามา

 

 

ของที่หายไปมิใช่แก้วแหวนเงินทองล้ำค่าอะไร ทั้งยังไม่ใช่อาวุธหรือแผนที่ทางทหาร แต่ว่ายาบำรุงผิวห่อใหญ่ที่น้องเล็กส่งมาให้เขากลับหายไปแล้ว?

 

 

แถมเขายังไม่อาจจับตัวเจ้าหัวขโมยนั้นได้ด้วย

 

 

ถึงแม้จะรู้ว่าเก้าในสิบจะต้องเป็นฮ่องเต้ทรงส่งคนมาขโมยอย่างแน่นอน แต่เพราะว่าไร้หลักฐาน จึงไม่อาจจะทำอย่างไรกับพระองค์ได้

 

 

ดังนั้นตลอดหลายวันหลังจากนั้น ท่านแม่ทัพผู้พิชิตจึงคอยจับตาดูฮ่องเต้อย่างเอาเป็นเอาตาย

 

 

ยามออกรบก็คอยจับตาดูอยู่ตลอด ยามพักผ่อนก็ไม่ว่างเว้น แม้แต่เวลาไปปลดทุกข์ก็คอยเฝ้าไว้

 

 

เขาจะดูสิว่า หากเฝ้าจับตาดูอยู่ตลอดเวลา พระองค์จะไปพอกหน้าได้อย่างไรกัน?

 

 

ขโมยมาได้แล้วอย่างไรกัน ก็ใช้ไม่ได้! ไง? เคืองไหมเล่า?

 

 

ฮ่องเต้กลับทรงรักษาความสงบนิ่งอยู่ตลอด ทำเสมือนว่าไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้นทั้งนั้น

 

 

จนกระทั่งตู๋กูจุนชักจะเริ่มเกิดความสงสัยว่าตนเองคาดเดาอะไรผิดไปหรือไม่ …..ในที่สุดเขาก็ผ่อนคลายการจับสังเกตในตัวพระองค์ไปในที่สุด

 

 

ในยามดึกของคืนที่สายลมพัดแรงคืนหนึ่ง ฝ่าบาททรงพอกพระพักตร์ที่งดงามเป็นหนึ่งไม่มีสองด้วยโคลนดำจนเต็มใบหน้าอยู่ในกระโจมของพระองค์

 

 

ใบหน้าเย็นสบาย ได้กลิ่นของยาสมุนไพร ให้ความรู้สึกที่ชุ่มชื้นอย่างยิ่ง

 

 

ฮ่องเต้ทรงทอดพระเนตรมองดูพระองค์เองในบานกระจกทองแดง เหลียวซ้ายแลขวา ตรงลำคอก็ดูแดงๆ อยู่บ้าง ทั้งยังหยาบเล็กน้อย

 

 

บุรุษที่ต้องออกมาทำศึกในสนามรบ จะอย่างไรเสียก็ต้องหยาบกร้าน

 

 

ยากนักที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องผิวไปได้ อย่างเช่นพระองค์ที่ช่วงนี้มักจะต้องอดหลับอดนอนข้ามคืนเพื่อทำศึก ทั้งยังต้องตากแดดอาบฝนอยู่เสมอ จนใบหน้าเกิดสิวเสี้ยนแล้ว

 

 

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าซิงซิง จะอย่างไรก็ไม่อาจให้พระพักตร์นี้ของพระองค์มีข้อตำหนิได้อย่างเด็จขาด

 

 

เมื่อเป็นเช่นนี้ฝ่าบาทจึงทรงเข้าบรรทมไปพร้อมๆ กับการพอกยาบำรุงผิว ทรงคิดว่าพอตื่นมาในวันที่สอง สิ่งวิเศษที่แปลกประหลาดนี้จะต้องทำให้พระองค์ฟื้นฟูผิวพรรณจนถึงขั้นเปล่งปลั่งอย่างที่สุดแน่นอน

 

 

เพราะว่าเจ้าสิ่งแปลกประหลาดนี้สามารถทำให้ตู๋กูจุนที่มีใบหน้าหยาบและสากราวกระดาษทรายเปลี่ยนเป็นเรียบเนียนขึ้นมาได้ สิวหลายเม็ดบนใบหน้าของเขา แค่คืนเดียวก็ควรกลับเป็นเรียบเนียนแล้ว

 

 

วันรุ่งขึ้น……

 

 

เมื่อเหล่าแม่ทัพทั้งหลายได้เห็นฝ่าบาทนั้น ต่างก็ต้องตาค้างไปตามๆ กัน

 

 

ตู๋กูจุนนั้นยิ่งถึงขั้นพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว

 

 

 

 

——

 

 

ไรท์ : ผลลัพธ์ของมันทำเอาไรท์ถึงขั้นคิดชื่อตอนเป็นภาษาไทยไม่ออกเลยทีเดียว ขอติดเอาไว้ก่อนแล้วกัน

 

 

กระดาษซวนเฉิงจื่อ: ไอเท็มสำคัญที่ปรากฏอยู่ในนิยายจีนหลายเรื่อง กระดาษชนิดนี้ได้ชื่อมาจากเมืองที่เป็นต้นกำเนิดในการผลิต (เมืองซวนเฉิง มณฑลอันฮุย) ถือเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกของเมืองซวนเฉิงมาแต่โบราณ ด้วยคุณสมบัติที่มีผิวละเอียด เนื้อกระดาษขาว อ่อนนุ่ม ไม่ขาดง่าย ไม่เปลี่ยนสี ดูดซึมหมึกได้ดี ไม่มีแมลงกัดแทะ (อยากจะร้องว่า ‘เพอร์เฟคโต้’ ด้วยสำเนียงอิตาลี) จึงเหมาะสมอย่างที่สุดที่จะใช้เขียนอักษรและวาดภาพ จนได้ชื่อว่าสี่สิ่งล้ำค่าในห้องหนังสือ (文房四宝)

 

 

——

 

 

[1] 宣城纸

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 368 ฝ่าบาทจะเป็นยอดบุรุษ"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์