ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล - ตอนที่ 286 ซย่าซย่า เป็นเด็กดีหน่อยสิ / ตอนที่ 287 งานกาล่าวันปีใหม่ (1)
- Home
- ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล
- ตอนที่ 286 ซย่าซย่า เป็นเด็กดีหน่อยสิ / ตอนที่ 287 งานกาล่าวันปีใหม่ (1)
ตอนที่ 286 ซย่าซย่า เป็นเด็กดีหน่อยสิ
อันซย่าซย่าเดินกลับมาถึงตึกของอาจารย์ตอนที่เธอเห็นร่างสูงตรงดิ่งมาหาเธอ
แสงอาทิตย์หน้าหนาวช่างอบอุ่นสบายๆ เวลากลางวัน ชายหนุ่มเดินหันหน้าเข้าหาแสง ริมฝีปากคลี่เป็นเส้นบางๆ ใบหน้าหล่อเหลาและรูปร่างดังสร้างสรรค์ขึ้นมาทำให้เขาเป็นไอดอลที่ทำให้เด็กสาวนับหมื่นๆ คนหลงใหลได้โดยไม่ยาก
อันซย่าซย่าจ้องคนตรงหน้า รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นกระตุกของตัวเอง
เด็กหนุ่มหรี่ตาเพื่อมองอันซย่าซย่าก่อนจะสาวเท้ามาถึงตัวเธอในไม่กี่ก้าว เขาจับข้อมือของเธอก่อนเอ่ยถาม “ฉีเหยียนซีพาเธอไปที่ไหนมา”
อันซย่าซย่าค่อยๆ ชี้ไปยังห้องเปียโนที่อยู่ไม่ไกลมากนัก
นัยน์ตาของเซิ่งอี่เจ๋อหดลง เขาจับแขนพร้อมพาหญิงสาวกลับไปยังห้องเรียน พลันสายตาเหลือบไปมองที่กระดูกไหปลาร้าของอันซย่าซย่า
มีรอยสีชมพูจางๆ ประทับอยู่บนกระดูกไหปลาร้าที่แสนบอบบาง ซึ่งมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว…
ด้วยชุดหลายๆ ชั้นของหญิงสาวแล้วทำให้ไม่มีทางที่จะเห็นได้เลย แต่หลังจากที่อันซย่าซย่าพยายามดิ้นนั้น เสื้อกันหนาวของเธอก็ลู่ลงด้านข้าง เผยให้เห็นรอยสีชมพูจางนั้น
จากสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นไปได้หรือที่นั่นจะไม่ใช่รอยรักที่ฉีเหยียนซีฝากเอาไว้
ดวงตาของเซิ่งอี่เจ๋อหม่นลง เขาเริ่มยิ้มด้วยสีหน้าไร้อารมณ์อีกครั้ง
อันซย่าซย่าตื่นตระหนก รู้ว่านั่นเป็นจุดเริ่มต้นอารมณ์เกรี้ยวกราดของชายหนุ่ม หญิงสาวรีบโบกมือขณะพยายามจะอธิบาย “เซิ่งอี่เจ๋อ นี่ไม่ใช่รอยรักนะ เมื่อคืนฉันโดนแมลงกัดแล้วฉันก็เกาน่ะ…”
เมื่อคืนหญิงสาวโดนกัดจริงๆ … แล้วเธอก็เป็นคนเการอยประหลาดๆ นี่จริงๆ ด้วย…
เซิ่งอี่เจ๋อจ้องเธออย่างใจเย็น หญิงสาวบอกไม่ถูกว่าคนตรงหน้านั้นเชื่อเธอหรือว่าไม่แค่ฟังคำอธิบายของเธอเลยแม้แต่น้อย
อันซย่าซย่าใจหายวาบ
เซิ่งอี่เจ๋อไม่เชื่อเธอ คำอธิบายเป็นเพียงข้ออ้างไม่เข้าหูเท่านั้น…
เสียงคณบดีและคุณครูใหญ่ดังมาจากชั้นบน อันซย่าซย่ากัดริมฝีปากตัวเอง กลัวว่าทั้งเธอและเซิ่งอี่เจ๋อจะถูกจับได้ว่าหนีเรียน หญิงสาวกระตุกแขนเสื้อของเซิ่งอี่เจ๋อ “กลับไปห้องเรียนกันก่อนเถอะ”
แต่ทันใดนั้นมือที่จับข้อมืออยู่ก็ลากเธอไปยังช่องบันได!
หญิงสาวถูกเซิ่งอี่เจ๋อดันตัวติดกำแพง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรักและแววตาชวนมองของเขาจับจ้องมาที่ใบหน้าของเธอ มองความสับสนที่ปรากฏออกมา
“มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด…” อันซย่าซย่าขยำชายเสื้อของตัวเอง แต่เซิ่งอี่เจ๋อแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด เขาประทับจูบลงบนุมปากของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว
แก้มของอันซย่าซย่าขึ้นสีทันที! เธอยืนตะลึงอยู่อย่างนั้น ตัวแข็งทื่ออย่างกับหิน
เซิ่งอี่เจ๋อไม่พอใจกับปฏิกิริยาของเธอนัก เขาเลยจูบหญิงสาวเสียเลย ลิ้นเข้ามาหยอกล้อกับฟันของเธอก่อนที่เขาจะกดจูบลึกกว่าเดิม…
อันซย่าซย่าอยากจะครางออกมาแต่นึกขึ้นได้ว่าคุณครูใหญ่อยู่ชั้นบน… เธอรีบกลั้น ไม่กล้าส่งเสียงออกมา
เซิ่งอี่เจ๋อเหมือนจะเดาออก เขายิ่งจูบเธอแรงกว่าเดิม อีกทั้งยังจงใจยืดเยื้อจูบนั้นอีก
อันซย่าซย่าที่ไม่รู้วิธีหายใจระหว่างจูบรู้สึกแย่มาก สีแดงเริ่มแผ่ซ่านใบยังแก้มของเธอขณะที่กำเสื้อของชายหนุ่มตรงหน้าไว้ หญิงสาวรู้สึกทรมานมากเสียจนน้ำตาเริ่มคลอ
เซิ่งอี่เจ๋อปล่อยถอนจูบออกตอนที่คุณครูใหญ่กับคณบดีเดินจากไปแล้ว อันซย่าซย่ารีบสูดอากาศเข้าไปทันที
“ซย่าซย่า เป็นเด็กดีหน่อยสิ” เขาเอ่ยเรียบๆ อันซย่าซย่ายังคงกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดเรื่องของเธอและเรื่องที่เธอยังคงขยำปลายเสื้อของเขาเอาไว้ “มันไม่ใช่รอยรักนะ! ฉันเกามันเองจริงๆ! ฉันทำให้เพิ่มให้ได้นะถ้านายยังไม่เชื่อฉันน่ะ!”
ฮือ… ดูซิว่าเธอกล้าทำขนาดไหนเพื่อจะพิสูจน์ตัวเอง!
เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มแหย่ “ฉันนึกออกแล้ว”
ขณะที่อันซย่าซย่ามองเขาด้วยความคาดหวัง เขาก็ก้มลงจูบที่กระดูกไหปลาร้าของเธอ!
สักพักเขาก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมลงความเห็น “ฮึ่ม ดูไม่เหมือนรอยรักจริง ด้วยแฮะ”
ไปลงนรกซะ! เขาตั้งใจทำแบบนี้นี่นา!
ตอนที่ 287 งานกาล่าวันปีใหม่ (1)
อันซย่าซย่ามองชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ “นายรู้อยู่แล้วใช่ไหม”
ฉลาดแบบนี้ เขาจะแยกไม่ออกจริงๆ นี่หรือว่าอันไหนเป็นรอยรักอันไหนเป็นรอยเกา
ใบหน้าหล่อเหลาของเซิ่งอี่เจ๋อกำลังเยาะเย้ยเธอ “แล้วถ้าฉันรู้ล่ะ”
ฮึ่ม เด็กโง่นี่ เธอยังจะโดนหลอกอีกไหมถ้าเขาไม่ประกาศอาณาเขตของตัวเองเร็วๆ น่ะ
อันซย่าซย่าโมโห “ไอ้เวร!”
เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มร้าย แต่รอยยิ้มของเขาไม่เคยสดใสเท่านี้มาก่อน เขากวักนิ้วเรียกหญิงสาว “ก็มาเอาคืนสิ”
จากนั้นเขาก็รีบวิ่งขึ้นบันไดด้วยขายาวๆ ของตัวเอง อันซย่าซย่าบกกำปั้นของตัวเองพร้อมวิ่งไล่ชายหนุ่มด้วยขาสั้นๆ ของเธอ
อ้าาา! เซิ่งอี่เจ๋อช่างทำตัวเป็นเด็กเก่งเสียจริง! สาบานว่าหญิงสาวจะหัวใจวายอยู่แล้ว!
คนหนึ่งวิ่งหนีส่วนอีกคนวิ่งไล่ ทั้งสองตกอยู่ในห้วงความมีชีวิตชีวา
มีชั่วขณะหนึ่งที่รอยยิ้มของเซิ่งอี่เจ๋อทำให้อันซย่าซย่านึกขึ้นได้ว่าผู้ชายมักเป็นเด็กอยู่เสมอ
เธอต้องการจะเห็นด้านนี้ของเซิ่งอี่เจ๋อมากกว่านี้…
ชายหนุ่มดูเป็นคนจริงๆ ไม่ใช่ขั้วแตกต่างที่ห่างเหิน แต่เป็นบุคคลที่อยู่ข้างๆ เธอ คนที่บางครั้งอาจจะขี้หึง ทำตัวเป็นเด็ก และพูดว่า “ก็มาเอาคืนสิ” ด้วยน้ำเสียงสุดเจ้าเล่ห์
หญิงสาวเผลอยิ้มกับตัวเองในขณะที่ยังคงวิ่งตามอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น
–
งานกาล่าวันปีใหม่จัดขึ้นตามตาราง
เหล่านักเรียนนั่งในหอประชุมตามห้องของหัวเอง อันซย่าซย่าและซูเสี่ยวมั่วซื้อขนมจากร้านสะดวกซื้อมาจำนวนมาก ทั้งสองวางแผนจะกินระหว่างชมการแสดง
คังเจี้ยนนั่งขมขื่นอยู่ข้างๆ ราวกับเห็ดแห่งความเศร้าไปงอกอยู่บนหัว
“ฉันว่าการแสดงของฉันไร้ที่ติเลยนะ… แบบ สมบูรณ์แบบ อะไรอย่างนี้ เฮ้อ… น่าเศร้าจัง เศร้าแบบน้ำตาจะไหลแล้ว…” เขาพึมพำกระท่อนกระแท่น ซึ่งทำให้อันซย่าซย่ากับซูเสี่ยวมั่วรำคาญเป็นอย่างมาก
พอแสงไฟบนเวทีเปิดขึ้น ทั้งหอประชุมก็ตกสู่ความเงียบ พิธีกรชายหญิงทั้งสี่เดินขึ้นเวทีมาในชุดราตรี ดึงดูดความสนใจทุกคน
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบสักพักก่อนที่เสียงฮือฮาในวงผู้ชมจะดังขึ้น
“ว้าว ผู้หญิงชุดสีขาวมาจากห้องไหนน่ะ เธอเหมือนเทพธิดาเลย!”
“ใช่ๆ เธอสวยมาก! คุณพระ เธอเอาหัวใจฉันไปได้เลย!”
“ถึงฉันจะเป็นแฟนของเทพธิดาฝานซิงนะ… แต่ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นน่าจะเหมาะกับฉายา ‘ดาวมหาลัย’ มากกว่าอีก!”
“…”
ทุกคนต่างพากันพูดถึงผู้หญิงในชุดสีขาวกัน!
ส่วนนักเรียนห้องซีถึงกับตะลึงกันยกห้อง
อันซย่าซย่าจับมือซูเสี่ยวมั่ว สีหน้าทั้งสองคนแทบจะแสดงอารมณ์สับสนเหมือนกัน
“นั่น… มูหลีเหรอ”
“ใช่… ก็ว่าทำไมช่วงนี้ถึงชอบหายไปไหนบ่อยๆ ที่แท้ก็มาซ้อมมเป็นพิธีกรงานกาล่านี่เอง…”
พออยู่บนเวที มู่หลีไม่ใช่หนอนหนังสือผู้ไร้ตัวตนอีกต่อไป ผมของหญิงสาวรวบไปด้านหลัง เผยให้เห็นคางได้รูป แว่นตาขอบหนาทรงใหญ่หายไปเหลือเพียงดวงตาดวงโตที่เปล่งประกาย เธอแต่งหน้าเพียงเล็กน้อยแต่พออยู่ในชุดเดรสสีขาวแล้ว หญิงสาวช่างงดงามราวกับดอกบัว
“มีความงามอยู่ในแดนเหนือ หญิงสาวยืนเด่นสูงสง่ามิมีผู้ใดเทียบได้ เพียงคราแรกที่หญิงสาวชำเลืองมอง เหล่าทหารสูญเสียบ้านเกิดเมืองนอน ยามชำเลืองคราที่สอง กษัตริย์จักเสียบัลลังก์ของตน… การแสดงชุดต่อไปเป็นการแสดงเปิดพิธีโดยชมรมเต้น การแสดงชุดหายนะแห่งความงามค่ะ” น้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำและไพเราะของมู่หลีดังก้องทั่วทั้งหอประชุม สะกดผู้ชมทุกคน
แม้จะยังอายๆ อยู่ แต่หญิงสาวช่างเจิดจ้าราวกับไข่มุกที่เพิ่งล้างเศษดินออกเลย!