ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล - ตอนที่ 310 เจตนาร้ายที่ซ่อนเร้น (5) / ตอนที่ 311 ฉันไม่ต้องการให้เธอมาสงสาร (1)
- Home
- ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล
- ตอนที่ 310 เจตนาร้ายที่ซ่อนเร้น (5) / ตอนที่ 311 ฉันไม่ต้องการให้เธอมาสงสาร (1)
ตอนที่ 310 เจตนาร้ายที่ซ่อนเร้น (5)
เจี่ยนซินเอ๋อร์ลงไปกองกับพื้น ขณะที่เธอหายใจเอาอากาศ เธอทำให้นึกถึงปลาที่กำลังขาดน้ำ ใบหน้าของเธอซีดเซียวและนัยน์ตาของเธอก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
พระเจ้าช่วย…ตลอดเวลามานี้ เธอคิดว่าเซิ่งอี่เจ๋อเป็นไอดอลที่เหมือนหลุดมาจากในจินตนาการเช่นเดียวกันกับไอดอลอีกหลายๆ คน แต่จากการกระทำของเขาเมื่อสักครู่นี้ เขาเป็นปีศาจโดยแท้!
ปีศาจเลือดเย็น!
เขาอาจจะ…คิดจะฆ่าเธอจริงๆ ก็ได้…
เจี่ยนซินเอ๋อร์หลบเข้าไปอยู่ใต้โต๊ะด้วยความกลัว
ในทางกลับกัน เซิ่งอี่เจ๋อปัดมือของเขาเพื่อทำความสะอาดและกลับไปหาอันซย่าซย่า รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาอ่อนโยนและใจเย็น “เป็นอะไรเหรอ”
อันซย่าซย่าดูเหมือนจะหวาดผวากับสิ่งที่เขาเพิ่งทำลงไปและต้องการเวลาเพื่อรวบรวมสติ จากนั้นเธอตะโกนใส่เขา “เซิ่งอี่เจ๋อ! คิดว่าตัวเองเป็นแบทแมนหรือไง! หมากัดแล้วต้องกัดตอบเหรอ ฆ่าเธออาจจะทำให้รู้สึกดี แต่นายจะกลายเป็นอาชญากรนะ! นาย นาย… นายมันโง่!”
เธอรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีเพื่อต่อว่าเซิ่งอี่เจ๋อ อย่างไรก็ตาม เธอถอยห่างจากเขาด้วยความกลัวว่าเธอจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไปเพราะอารมณ์อันดุร้ายของเขาตอนนี้
เซิ่งอี่เจ๋อเศร้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ฉันใจร้อนไป…เธอว่าฉันควรทำยังไงดี”
เนื่องจากอันซย่าซย่าไม่ชอบวิธีการจัดการปัญหาของเขา เขาจะทำตามที่เธอต้องการ เขาไม่อยากให้เธอต้องเป็นกังวล
อันซย่าซย่าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนขมวดคิ้ว “โทรแจ้งตำรวจเป็นไง พวกเขาจะได้ตัดสินใจว่าจะทำยังไงกับเธอ”
“ได้สิ” เซิ่งอี่เจ๋อพยักหน้า ก่อนเอ่ย “ฉันจะไปสูดอากาศข้างนอกนะ”
“โอเค!”
เซิ่งอี่เจ๋อเดินออกไปและสูดหายใจลึกๆ ฉีเหยียนซีซึ่งยืนอยู่ใกล้กับอันซย่าซย่ามากที่สุดเบ้ปากและล้อเขา “ไอ้แก่ ขยับนิดเดียวก็หอบซะแล้ว…”
“…”
อันซย่าซย่าหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาและกดเบอร์ “110” อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะติดต่อเบอร์นั้นได้ ซูเสี่ยวมั่วกรีดร้อง “ซย่าซย่า ฉีเหยียนซี ระวัง!”
อันซย่าซย่าเงยหน้าขึ้นมาและเห็นว่าเจี่ยนซินเอ๋อร์ที่เมื่อสักครู่กำลังอ่อนแรง ตอนนี้กลายเป็นป๊อบอายที่ได้กินผักโขมไปเสียแล้ว! เธอหยิบตะแกรงบาร์บีคิวออกมาจากโต๊ะและฟาดไปที่อันซย่าซย่า!
ความเกลียดชังในดวงตาของเธอแทบจะสัมผัสเป็นรูปเป็นร่างได้!
ทำไมอันซย่าซย่าถึงสามารถชนะใจเซิ่งอี่เจ๋อได้
ทำไมอันซย่าซย่าทำให้เซิ่งอี่เจ๋อไล่เธอออกจากโรงเรียนฉีซย่าได้
เธอควรจะได้รับทุกคำชื่นชมและความสนใจสิ เป็นเพราะอันซย่าซย่า เธอเลยไม่ได้สิ่งพวกนั้น!
เธอไม่อาจยอมรับโชคชะตาได้! ข้ามศพเธอไปก่อนเถอะ!
ถ้าเธอไม่ได้สิ่งที่เธอต้องการ ก็ต้องไม่มีใครได้!
ใบหน้าของเซิ่งอี่เจ๋อปรากฏหลากสี เขารีบวิ่งไปหาอันซย่าซย่า แต่ทว่าไม่ทันเวลา
ในเวลานั้นเอง ฉีเหยียนซีคว้าอันซย่าซย่าไว้และดึงเธอไปหลบข้างหลังเขา จากนั้นเขารับแรงกระแทกทั้งหมดของตะแกรงไว้
ตะแกรงกระแทกกับหลังของเขาเสียงดัง เขาร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดและตัวเซ เขาเกือบสูญเสียการทรงตัว
ทั้งอันซย่าซย่าและซูเสี่ยวมั่วร้องออกมา เซิ่งอี่เจ๋อพุ่งเข้ามาและถามด้วยคิ้วขมวด “นายเป็นอะไรไหม”
ฉีเหยียนซีกัดฟัน “ไอ้บ้าเอ๊ย…ขนาดจะช่วยแฟนตัวเองยังต้องพึ่งฉันเลย”
อันซย่าซย่าตกใจ “ฉีเหยียนซี นายเป็นอะไรไหม ให้ฉันดูแผลหน่อยนะ…”
ฉีเหยียนซีหลบ ก่อนที่มือของเธอจะเอื้อมถึงเขา เขามองไปรอบๆ ด้วยแววตาอาฆาตและด่าทอเจี่ยนซินเอ๋อร์ “ทำไมดูเหมือนเธอจะยังมีแรงอยู่บ้างนะ เธอเพิ่งตีฉันด้วยไอ้นั่นเหรอ”
เจี่ยนซินเอ๋อร์หน้าซีดเซียวราวกับกระดาษและเธอลงไปกองกับพื้น ฉีเหยียนซีเข้าไปใกล้เธอพร้อมหน้าตาชั่วร้าย “บ้าจริง ฉันไม่เคยบอกเธอเหรอ ทำร้ายผู้หญิงน่ะไม่เกินขอบเขตของฉันหรอก!”
ตอนที่ 311 ฉันไม่ต้องการให้เธอมาสงสาร (1)
“ไม่…อย่า…ฉัน…ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย” ข้อแก้ตัวอันไร้ประโยชน์ของเจี่ยนซินเอ๋อร์เปรียบเหมือนเรื่องตลกสำหรับคนอื่นๆ
ฉีเหยียนซีจับคอเสื้อของเธอและพูดอย่างไร้เมตตา “เธอทำผิดพลาดไปและเธอจะต้องชดใช้! วันนี้ฉันอารมณ์ดี ฉันเลยจะสั่งสอนเธอด้วยตัวของฉันเอง!”
เจี่ยนซินเอ๋อร์ขัดขืนอย่างรุนแรง “นายไม่มีทางกำจัดฉันได้หรอก ฉันจะตามล่าอันซย่าซย่าไปตลอด…” เธอพูดราวกับเธอได้ร่ายคำสาปไว้ด้วยความประสงค์ร้ายทั้งหมดที่เธอมี
ฉีเหยียนซียิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาเตะเธอไปสองสามทีโดยไม่ยั้งแรงและยกเก้าอี้ขึ้นมาตามนิสัย เขากำลังจะฟาดลงไปบนหัวของเธอ แต่ทว่าเขาได้ยินเสียงใครบางคนสูดลมหายใจเบาๆ เขาจึงหยุดสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำ
เขาบอกได้เลยว่านั่นเป็นเสียงของอันซย่าซย่า
ฉีเหยียนซีไม่เคยคิดว่าเขาเป็นคนดีเลย อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุที่อันซย่าซย่ากำลังมองอยู่ เขาฟาดเก้าอี้ลงไปไม่ได้จริงๆ
เพราะเขาไม่อยากให้เธอต้องเห็นด้านที่โหดร้ายของเขา
เขาทำหน้าบึ้งและสบถในลำคอ เขาโยนเก้าอี้ทิ้งไป จากนั้นจิกผมของเจี่ยนซินเอ๋อร์และลากเธอไปที่ประตู
เขาเดินผ่านอันซย่าซย่าผู้กำลังอ้ำอึ้ง ก่อนพ่นลมหายใจ “อย่ามัวยืนเซ่อ แจ้งตำรวจสิ”
“โอ้…” อันซย่าซย่ากลับมาได้สติและเธอแจ้งตำรวจทันที
เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงหลังจากนั้นไม่นานและรวบตัวเจี่ยนซินเอ๋อร์ไป เหตุการณ์นั้นเป็นข้อพิพาททางแพ่งที่จะทำให้เธอถูกคุมขังอย่างน้อยสิบห้า
หลังจากเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่เธอได้ทำลงไป เธอสมควรได้รับบทลงโทษแล้ว
–
เมื่อเจี่ยนซินเอ๋อร์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการ อันซย่าซย่าถามเซิ่งอี่เจ๋อ “นายสองคนมาที่นี่ได้ยังไง”
เซิ่งอี่เจ๋ออธิบายคร่าวๆ ว่าอันซย่าซย่าส่งข้อความไปบอกเขาว่าเธอมารับประทานอาหารที่นี่ เมื่อเห็นว่าเป็นเวลานานแล้วที่เธอยังไม่กลับมา เซิ่งอี่เจ๋อและฉีเหยียนซีจึงไปตามเธอ
พวกเขาก็ไม่คาดคิดเลยจะต้องเจอเรื่องแบบนี้
ถ้าพวกเขามาไม่ทันเวลา ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอันซย่าซย่าและซูเสี่ยวมั่ว…
เซิ่งอี่เจ๋อบีบมือของเธอเมื่อเขาคิดเรื่องนั้นและสั่งด้วยเสียงทุ้มต่ำ “อันซย่าซย่า ตั้งแต่นี้ไปเธอจะออกมาแบบนี้ไม่ได้นะ อยู่ในที่ที่ฉันเห็นเธอได้!”
อันซย่าซย่าตอบอย่างหดหู่ “ก็ได้…”
เซิ่งอี่เจ๋อเพียงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
–
ซูเสี่ยวมั่วกลับบ้านก่อน ในขณะที่เซิ่งอี่เจ๋อและฉีเหยียนซีเดินไปส่งอันซย่าซย่าที่บ้านพร้อมกัน
ฉีเหยียนซีทำท่าทีไม่ใส่ใจทุกครั้งที่อันซย่าซย่าถามเรื่องอาการบาดเจ็บของเขา เขาเพียงโบกมือให้เธอราวกับว่าเขาไม่เป็นอะไร
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่พวกเขาถึงบ้านครอบครัวอัน ขาของเขาหมดแรงและเขาก็ร่วงลงไปกับพื้น
“ฉีเหยียนซี!” ทุกคนตื่นตกใจ ป่าป๊าอันปัดมือของเขาให้สะอาดและเดินเข้ามาเพื่อดูบาดแผล
มีรอยถลอกทั่วแผ่นหลังของเขา ผิวหนังบางส่วนโดนบาดและมีเลือดสีแดงเข้มไหลออกมา พวกเขาทนดูภาพที่เห็นไม่ได้และไม่รู้ว่าเขาทนกับความเจ็บปวดได้ยังไง
ป่าป๊าอันขมวดคิ้ว “ซย่าซย่าไปเอาชุดปฐมพยาบาลของป๊ามา ป๊าจะทำแผลให้เขาก่อน”
“ได้ค่ะ!” อันซย่าซย่าก็ตกใจไม่แพ้กันและรีบบึ่งไปเอาชุดปฐมพยาบาล
ทันใดนั้นเอง มีคู่รักคู่หนึ่งเดินเข้ามาภายในร้าน
“ขอโทษด้วยครับ แต่ตอนนี้ร้านของเราปิดแล้ว” ป่าป๊าอันช่วยฉีเหยียนซีลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้และยิ้มให้คู่รักคู่นั้นเป็นการขอโทษ
“เห…” ผู้หญิงที่แต่งตัวดีหัวเราะคิกคักและหันไปบ่นกับชายวัยกลางคนในชุดสูทข้างๆ เธอ “เห็นไหม ฉันบอกคุณว่ายังไง เหยียนซีน่ะห่ามมากเลย…”
“หา?” ป่าป๊าอันงุนงง ฉีเหยียนซีพูดอย่างฉุนเฉียว “มาทำอะไรกันที่นี่”
“ไอ้เวร!” ชายคนนั้นกระแทกไม้เท้าช่วยเดินลงกับพื้นและต่อว่า “รู้บ้างไหมว่าฉันเป็นพ่อแกนะ”