ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1044 ความหวัง
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1044 ความหวัง
ม็อกโกไม่ขยับเลยอยู่เป็นเวลานานมาก
เขาเหมือนกับโง่ไปแล้ว มองดูเบื้องหลังที่เธอเดินจากไปอย่างมึนงง นานมากที่เขายังคงยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียว ราวกับว่าเหลือไว้เพียงเปลือกนอกที่ข้างในว่างเปล่า
เขาไม่เคยเห็นเธอใช้คำพูดรุนแรงแบบนี้กับตัวเองเลย
เขายิ่งไม่เคยเห็น สีหน้าท่าทางที่เธอจ้องมองตัวเองจะแสดงออกให้เห็นว่าเจ็บปวดและรู้สึกผิดมากขนาดนั้น
ดังนั้น ในท้ายที่สุดเขาก็ทำเธอหลุดมือไปแล้วใช่หรือไม่?
ทั้งตัวของม็อกโกดูราวกับว่าว่างเปล่าไปแล้ว……..
——
วันต่อมา
ในโรงแรม ตอนที่เส้นหมี่กับแสนรักทั้งสองคนตื่นขึ้นมา พวกเขาถึงได้รู้ข่าวว่าแสงดาวก็มาที่นี่ด้วย
“เธอบ้าไปแล้วเหรอ? ไหนบอกว่าเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ ห้ามลุกลงจากเตียง? ทำไมยังมาถึงที่นี่ได้?”
เส้นหมี่ได้ยินเรื่องนี้ วินาทีแรกก็รีบวิ่งออกไป รีบไปที่โรงพยาบาลเพื่อเจอผู้หญิงคนนั้น
สีหน้าแสนรักเองก็ดูแย่เล็กน้อย
แต่ในตอนที่ผู้หญิงคนนี้รีบร้อนวิ่งออกไปโดยที่ไม่ได้สวมเสื้อคลุมด้วยซ้ำ เขาจึงยื่นมือดึงตัวเธอกลับเข้ามา
“คุณรีบอะไร ในเมื่อเธอมาแล้ว งั้นคุณก็ไม่สามารถไปส่งเธอกลับไปได้ ใส่เสื้อผ้าให้ดีก่อน แล้วลงไปทานอาหารเช้า จากนั้นค่อยออกไป”
“แต่…………”
เส้นหมี่กระทืบเท้าด้วยความร้อนใจ เพราะถูกการจัดการแบบใจเย็นของเขา
แต่สุดท้ายผลคือก็ยังคงถูกผู้ชายคนนี้จับห่อตัวด้วยเสื้อโค้ตตัวใหญ่ จากนั้นมือใหญ่ข้างหนึ่งที่เหมือนกับอุ้มลูกสาวหนูรินจัง อุ้มเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมกอดแล้ว
ทั้งสองคนก็ลงไปทายอาหารเช้าที่ห้องอาหารชั้นล่าง
ในเมื่อแสงดาวก็มาแล้ว
อันที่จริงเรื่องนี้ก็ไม่เห็นต้องรีบร้อนอะไรแล้ว
ไม่แน่ว่า ตัวผู้หญิงคนนี้เองก็กำลังนั่งทานอาหารเช้าอยู่ในห้องอาหารหรูราคาแพงนั้นแล้วก็ได้
ทางที่ดีที่สุดของเส้นหมี่คือเชื่อฟังผู้ชายคนนี้กินอาหารให้อิ่มท้อง จากนั้น ทั้งสองคนก็ไปที่โรงพยาบาล
“ใช่แล้ว เธอมาแล้ว ไม่รู้ว่าม็อกโกทางนั้นเจอเธอแล้วหรือยัง? พวกเขาจะเป็นยังไงกันบ้าง?”
ตอนที่เดินทางไป เส้นหมี่อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความเป็นห่วง
แสนรักที่กำลังก้มหน้าดูอีเมลในโทรศัพท์ อ่านดูว่าเมืองหลวงทางนั้นมีส่งข่าวอะไรมาบ้างไหม ได้ยินประโยคนี้แล้ว เขายิ้มเยาะเย้ยหมุมปากโดยที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา
“จะเป็นไงได้ล่ะ? คุณยังหวังให้พวกเขาคืนดีกันเหรอ?”
“……”
สำลัก
ถึงแม้ว่าจุดนี้เธอเองก็คิดไว้แล้ว
แต่เมื่อเธอได้ยินเองกับหู ในใจยังคงมีความเสียใจอยู่เป็นระยะ
สิบกว่านาทีต่อมา ในที่สุด คู่สามีภรรยาก็มาถึงชั้นสามของโรงพยาบาลแล้ว
จริงๆ ด้วย หลังจากที่พวกเขามาถึงแล้ว แว๊บแรกที่เห็นคือหญิงสาวที่ใส่เสื้อแจ็กเกตสีดำกางเกงยีน ผูกผมหางม้าสูงกำลังคุยอยู่กับคุณหมอใส่เสื้อกาวน์สีขาวอยู่ที่ด้านนอกของห้องไอซียู
และด้านหลังของเธอ ก็เป็นร่างผู้ชายสูงใหญ่ที่พวกเขานั้นคุ้นเคย
เป็นครั้งแรกที่เห็นเขาไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้เธอในระยะสิบก้าว สีหน้าท่าทางก็ดูหม่นหมองและระมัดระวัง
นี่มันคือเหตุการณ์พลิกผันสำหรับเธอสินะ
เส้นหมี่ปล่อยมือที่จับอยู่กับผู้ชายของเธอทันที แล้ววิ่งมาหา
“พี่สาว พี่มาได้ยังไง? ร่างกายพี่ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“จะเป็นอะไรได้ล่ะ?”
แสงดาวสะบัดมือทั้งคู่ของผู้หญิงคนนี้ที่วิ่งมาจับไว้ ใบหน้าที่แต่งหน้ามาสวยงาม ดูท่าไม่พอใจมาก
เส้นหมี่ :”……..”
ไม่สิ พี่สาว พี่กำลังตั้งครรภ์อยู่?
อีกทั้งเป็นแบบที่ต้องนอนติดเตียง ไม่เป็นอะไรแน่นะ?
สายตาเธอสาดมองไปที่ท้องของเธอ จึงพบว่าเธอสวมกางเกงยีนและรองเท้ากีฬาส้นเรียบอยู่ สีหน้าท่าทางของเธอก็ยิ่งดูกังวลมากยิ่งขึ้นแล้ว
“พี่สาว……….”
“พอแล้ว หมอคนนี้บอกว่าเมื่อวานพวกเธอดูดไขกระดูกของเขาส่งไปในประเทศแล้ว? งั้นตอนนี้ได้ผลมาหรือยัง? เป็นยังไงบ้าง?”
แสงดาวตัดบทเธอแบบหมดความอดทน จากนั้นก็ถามเรื่องของคณาธิปมาตรงๆ
เส้นหมี่กัดริมฝีปากมองดูเธอ สุดท้ายก็หันหน้ากลับไปมองยังผู้ชายที่กำลังเดินเข้ามาด้านหลัง
“พี่ชาย ด็อกเตอร์ไพบูลย์ทางนั้นได้ผลแล้วหรือยัง?”
“ได้”
แสนรักนิ่งสงบมาก
หลังจากที่เขาให้คำตอบยืนยันที่ดูกระชับแล้ว เดินเข้ามาสายตาเรียบเฉยก็ตกอยู่บนตัวของคุณหมอคนนั้น โดยที่ไม่เหลียวมองพี่สาวคนนี้เลย
“หมอ ไปคุยที่ห้องทำงานของคุณหน่อยได้ไหม?”
“ได้ครับ คุณแสนรัก”
คุณหมอคนนี้พยักหน้าตอบรับอย่างกระตือรือร้นทันที จากนั้นก็เชิญไปยังห้องทำงานของเขาด้วยกัน
เส้นหมี่กับคนอื่นเห็นแล้วก็รีบตามไปด้วย
แน่นอนว่ายังมีม็อกโกด้วย
นี่คือช่วงเวลาที่ทำให้คนตื่นเต้นมาก ไม่ว่าจะเป็นเส้นหมี่ที่เป็นห่วงเป็นใยคณาธิปมาตั้งแต่แรกเริ่ม ยังตามมาด้วยแสงดาวกับแสนรัก หรือแม้กระทั่งม็อกโก
พวกเขาต่างรอฟังคำตอบนี้อยู่
โดยเฉพาะม็อกโก
ในขณะนี้ ในใจของเขาเหมือนถูกเชือกเส้นหนึ่งมัดไว้อย่างเหนียวแน่น เขาเดินตามมาข้างหลัง มองดูคุณหมอคนนี้ แม้แต่เสียงหายใจก็ไม่กล้าหายใจแรงๆ
ชีวิตของคณาธิป ตอนนี้เท่ากับชีวิตของเขา!
กลับเห็นว่าหลังจากที่ทุกคนเข้ามาด้วยกันหมดแล้ว แสนรักนั่งลงแล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองยื่นให้คุณหมอคนนี้
คุณหมอเห็นแล้วก็หยิบมาดูอย่างละเอียด
“ผลลัพธ์นี้……ดูแล้วยังพอมีหวังอยู่บ้าง” หลังจากที่เขาดูอยู่สักพัก ในที่สุดก็พูดประโยคนี้ต่อหน้าทุกคน
ทันใดนั้น ทุกคนก็หายใจด้วยความโล่งอก
“จริงเหรอคะ? คุณหมอ แล้วมันหมายความว่ายังไงคะ? คือยาสามารถถอนพิษนี้ได้เหรอคะ?”