ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1066 ตามใจจนเสียคนหมดแล้ว
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1066 ตามใจจนเสียคนหมดแล้ว
“……”
ในตอนกลางดึก ท่านประธานใหญ่ของหิรัญชากรุ๊ปทำงานยุ่งมาทั้งวันไม่ง่ายเลยกว่าจะได้ขึ้นมาพักผ่อนที่ห้องนอน ทั้งร่างล้าไม่หมดแล้ว
เขากลับถูกผู้หญิงคนหนึ่งหลอกเอาได้
“ใครเป็นคนทำ?”
“เท่าที่ฉันประมาณการ น่าจะเป็นโชกิ โดโมโตะ มิน่าล่ะวันนั้นตอนที่พี่สาวต้องทำการผ่าตัด ถึงได้หยุดลงอย่างกะทันหัน พูดว่าต้องเปลี่ยนเป็นตอนบ่าย หลังจากนั้นโชกิ โดโมโตะก็มาถึงแล้ว อย่างงั้นก็พูดได้ว่า เรื่องเรื่องนี้ เป็นไปได้ว่าคณาธิปเป็นคนวางแผน”
ในที่สุดหลังจากนั้นเส้นหมี่ก็เข้าใจแล้ว
โชกิ โดโมโตะ!
ไม่ผิดหรอก ก็คือหมอชาวญี่ปุ่นคนนั้น ความสามารถทางการแพทย์ของเขา นั้นไม่ธรรมดา
ตอนแรก เธอเส้นหมี่กระดูกแตกไปทั้งร่างขนาดนั้น หายใจรวยริน แต่สุดท้าย เขายังช่วยชีวิตเธอเอาไว้ได้
งั้นช่วยเด็กในท้องของแม่ที่บริจาคไขกระดูก จะยากอะไร?
เส้นหมี่ตั้งใจชงชาดอกไม้มาหนึ่งแก้วเพื่อทำให้สดชื่น ส่งมายังด้านหน้าของชายหนุ่มที่ใบหน้ากำลังอึมครึมคนนี้
“เอาน่า อย่าได้โกรธไปเลย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะปกปิดพวกเรา แต่ว่ายังก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง คุณคิดดูนะ ถ้าพี่สาวไม่อยากจะได้เด็กคนนี้จริงๆละก็ ต่อให้ความสามารถทางการแพทย์ของโชกิ โดโมโตะจะเก่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้”
“……”
หลังจากนิ่งเงียบไปหลายวินาที
ในที่สุด ผู้ชายคนนี้ก็รับชาดอกไม้แก้วนั้นไปแล้ว
“ผมไม่ได้โกรธเรื่องนี้ ผมก็แค่เป็นห่วงแม้จะเป็นอย่างนี้ พวกเขาก็ไม่ง่ายเลย”
“ทำไมเหรอ?”
คำพูดนี้มีแปลกประหลาดเล็กน้อย เส้นหมี่นั่งลงซบเข้าหาเขา ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองเขาแล้ว
แสนรักขมวดคิ้วเป็นปม วินาทีนี้ ก็พูดออกมา:“ผมรู้สึกมาตลอดว่าม็อกโกปฏิเสธผู้หญิงคนนี้อย่างเลือดเย็น ไม่ค่อยจะปกติ ต่อมาผมมาคิดให้ละเอียดอีกที มีจุดหนึ่งที่ผมพลาดไปแล้ว”
“อะไรเหรอ?”
“ในตอนที่แม่ของเขากระโดดตึก พูดกับเขาประโยคหนึ่ง”
ริมฝีปากบางของเขาขยับเบาๆ เป็นน้ำเสียงที่มีความกังวลอีกทั้งฟังดูไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่นัก นำเรื่องที่แอบซ่อนอยู่ในก้นบึ้งหัวใจมานานพูดออกมาแล้ว
เส้นหมี่นิ่งไปแล้ว
คำพูดก่อนตายของมินตรา?
ไม่ใช่สิ ในตอนนั้น เธอก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เหมือนกับว่าไม่เห็นว่าเธอพูดอะไรนะ?
เธอเองก็คิดย้อนกลับไปอย่างละเอียด
แต่ว่าในวินาทีนั้น เมื่อในสมองของเธอปรากฏภาพของผู้หญิงคนนั้นในตอนที่อยู่นอกรั้วกั้นของโรงพยาบาลแล้วโดดลงไป ทันใดนั้น สีหน้าท่าทางในตอนสุดท้ายของม็อกโกลูกชายของเธอ
พระเจ้า!
ในที่สุดสีหน้าของเธอก็ซีดขาวลงไปแล้ว
“งั้น……คุณคิดว่าเธอพูดว่าอะไรเหรอ?” เปิดปากออกมาอีกครั้ง แม้แต่น้ำเสียงของเธอยังสั่นแล้ว
แสนรักมองเธอ เป็นเวลานาน ฉลาดอย่างเขา ยังส่ายหน้าแล้ว
“ไม่รู้ แต่ว่าม็อกโกที่แต่ไหนแต่ไรเป็นคนที่ไม่แสดงออกอย่างชัดเจน ครั้งนั้น หลังจากที่พ่อแม่ของเขาตายไป ตอนที่อยู่ในพิธีศพ……เขาสูญเสียการควบคุมจนเกือบจะบีบคอผมตาย นั่นไม่ใช่สัญญาณที่ดี”
น้ำเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่ม ท่ามกลางความมืดที่เงียบสงัดค่อยๆพูดถึงความเป็นมาของเรื่องนี้
ผ่านไปเป็นเวลานานแล้ว
ภายในใจของเขายังคงรู้สึกหนักหน่วง
ไม่ใช่เพราะว่าเกือบจะถูกบีบคอตาย ทว่าเป็นเพราะว่าเขารู้จักคนคนนี้มาตั้งนาน นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเขาสูญเสียการควบคุมตัวเองถึงขนาดนั้น ยังแฝงไปด้วยความเกลียดชังหนักหนา
ดังนั้น นั่นคืออะไรกันแน่?
สองสามีภรรยานอนไม่ค่อยจะหลับกันทั้งคืน
จากนั้นวันต่อมาหลังจากตื่นขึ้นมา ทั้งสองยังเจรจากันสักพัก ให้เส้นหมี่ไปที่เมืองหลวงสักหน่อย อย่างแรกไปเยี่ยมแสงดาวสักหน่อยว่าอาการเป็นอย่างไร เป็นผู้หญิงด้วยกัน ค่อนข้างสะดวกกว่ามาก
อีกทั้งอย่างที่สองเพราะว่า แน่นอนว่าคือเรื่องระหว่างเธอกับม็อกโก
“พี่ชาย งั้นฉันไปแล้วนะ คุณอย่าลืมไปประชุมผู้ปกครองให้เด็กๆด้วยล่ะ”
“ประชุมผู้ปกครองอะไร?”
แสนรักกำลังจัดกระเป๋าให้เธอ ตั้งแต่เสื้อผ้าจนถึงเครื่องแต่งกาย จนมาถึงครีมบำรุงและของใช้ส่วนตัวของผู้หญิง
ผู้ชายคนนี้ ตั้งแต่ฟื้นกลับมาเป็นปกติ แม้แต่สิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ เหมือนกับว่าเขาได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนแล้ว เมื่อก่อนนั้นไม่เคยจะแตะต้องอะไรแบบนี้ แต่ว่าตอนนี้ ไม่ว่าเส้นหมี่จะไปไหน ต่างเป็นเขาที่เป็นคนจัดเก็บให้เธอ
ในทางกลับกันทำให้เส้นหมี่แทบจะทำเองไม่เป็นแล้ว
“ได้ยินพี่ภาบอกว่า นั่นเป็นการประชุมผู้ปกครองที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นสำหรับเด็กนักเรียนที่จะขึ้นชั้น ป.3โดยเฉพาะ จุดประสงค์เพื่อวางแผนการเรียนการสอนของเทอมต่อไป……”
“พวกเขายังต้องการสิ่งนี้?”
หนึ่งประโยคยังไม่ทันได้พูดจบ ผู้ชายคนนี้ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา แสดงท่าทีรังเกียจอย่างยิ่ง
เส้นหมี่ได้ยินแล้ว ชักจะโมโหขึ้นมาแล้ว
“คุณอย่าเป็นแบบนี้สิ ใช่ ลูกชายทั้งสองนั้นฉลาดมาก ทุกครั้งเนื้อหาของทางโรงเรียนต่างทำเป็นแล้ว แต่ว่า พวกเขายังต้องเรียนรู้อย่างอื่น คุณไม่ค้นพบเลยหรือว่าตั้งแต่ที่ไปที่โรงเรียนแห่งนี้ ชินจังเปลี่ยนไปมาก?”
เธอยืนขึ้นมาอย่างโมโห ดวงตาโตร้อนชื้นที่มองมานั้นแสดงออกว่าไม่พอใจอย่างมาก เหมือนกับอีกคนคนหนึ่งที่เป็นเธอในเวอร์ชันเจ้าตัวน้อยยังไงอย่างนั้น
แสนรักขมวดคิ้วทันใด
ชินจังเปลี่ยนไปหรือเปล่าเขาไม่สนใจ เพราะว่ายังไงเสียการเรียนของเด็กทั้งสองคนนั้น เขาได้เชิญอาจารย์มาสอนเองต่างหากแล้ว
แต่ว่าเจ้าเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นโง่เหมือนกับผู้หญิงคนนี้……
ในที่สุดแสนรักก็ตอบตกลงแล้ว
หลังจากนั้น เส้นหมี่ก็เดินทางไปที่เมืองหลวงแล้ว
ฤดูใบไม้ผลิที่มีดอกไม้แย้มบานในเมืองหลวง กว่าครึ่งปีมาแล้วที่เส้นหมี่ไม่ได้มาที่นี่เลย ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมาก ที่เห็นได้ชัดมากเมื่อเธอมาถึงที่เดอะวิวซี มองเห็นที่นี่เงียบเหงากว่าเมื่อก่อนมาก
งั้นทำไมแสงดาวไม่ไปพักอยู่ที่เรด พาวิเลี่ยนล่ะ?
ในตอนที่เส้นหมี่ถือกระเป๋าเดินทางเข้ามา ในสมองมองเห็นพระราชวังดอกไม้แห่งนี้ ทันใดก็มีประโยคหนึ่งพุ่งออกมาแล้ว
“โอ้ คุณนายน้อยกลับมาแล้วจริงๆ!”
“คุณนายน้อย——”
“……”
คนรับใช้ของเดอะวิวซีที่นี่ เมื่อเห็นเธอกลับมา ต่างออกมาต้อนรับอย่างดีอกดีใจในทันที
เส้นหมี่ยิ้มกว้างเป็นการทักทาย หลังจากนั้นก็ถามออกมาว่า:“พี่สาวของฉันล่ะ?”
น้าแจ๋ว:“คุณพูดถึงคุณแสงดาวเหรอ วันนี้เธอไปตรวจครรภ์ คุณชายม็อกโกไปเป็นเพื่อนเธอค่ะ”
“……”
นี่เหมือนกับว่าจะเป็นข่าวดี……