ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1084 หมี่ ฉันไม่อยากอยู่ที่เดอะวิวซีแล้ว
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1084 หมี่ ฉันไม่อยากอยู่ที่เดอะวิวซีแล้ว
อะไรนะ?
ม็อกโกที่กำลังเดินไปข้างหน้าสีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว ทันใด เขาหยุดลงแล้ว
“ไม่มีเรื่องอะไร ผมจะไม่ดีใจได้อย่างไร?”
“คุณไม่ต้องปฏิเสธหรอก ผมไม่ใช่เธอ ไม่ได้โกหกได้ง่ายๆ”คณาธิปโผลงออกไปอย่างไม่เกรงใจ สายตาอันนั้น ก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างมาก
ม็อกโก:“……”
ยืนตระหง่านอยู่ตรงทางเดินมองดูเขาสักพัก ในที่สุด เขาก็เปิดปากออกมาแล้ว:“ผมคงต้องกลับไปสักหน่อย”
คณาธิป:“เป็นเพราะว่าเรื่องของตระกูลเทวเทพของพวกคุณ?”
ทันใดนั้นม็อกโกประหลาดใจอย่างมาก:“คุณต่างรู้แล้ว?”
สีหน้าของคณาธิปยังคงสงบ:“เปล่าหรอก เพียงแค่เห็นว่าหลายวันมานี้คุณใจไม่อยู่กับร่องกับรอย ก็แค่เดา”
เขาไม่ได้พูดเรื่องที่ตัวเองได้ส่งคนไปที่เมืองหลวง ทว่าบอกกับเขาไปอย่างนั้น เพียงแค่สังเกตอาการของเขาถึงได้รู้
แต่ความจริงแล้ว ช่วงนี้เขาส่งคนออกไป ก็ไม่ได้รับข่าวคราวอะไรที่เป็นสาระสำคัญสักนิด สิ่งที่ได้รับมามีเพียง ก็คือช่วงก่อนหน้านี้ตระกูลเทวเทพต่างไม่ค่อยจะสงบสุข
มีคนตายถึงสองคนแล้ว
“อืม มีเรื่องนิดหน่อย ดังนั้นผมอยากจะกลับไปสักหน่อย แต่ว่าพี่สาวของคุณด้านโน้น……”
“คุณต้องกลับไปนานเท่าไหร่?”
คณาธิปตัดบทของเขา ถามออกมาหนึ่งประโยค
แววตาของม็อกโกเปล่งประกายขึ้นมาทันใด:“คงไปไม่นาน น่าจะสามวัน ผมจะกลับมาอย่างแน่นอน”
สองสามวัน?
งั้นก็ไม่ได้นานมาก
คณาธิปวางใจลงได้แล้ว:“ได้ งั้นคุณกลับไปเถอะ เธอที่นั่นผมจะดูแลเอง คุณไม่ต้องเป็นห่วง”
เขาสนับสนุนให้เขากลับแบบนี้แล้ว อีกทั้งยังไม่มีเงื่อนไขอะไร
ในที่สุดม็อกโกก็ขมวดคิ้วแน่นมองมาอย่างกลัดกลุ้ม แม้แต่ในดวงตายังเป็นกังวล ในขณะที่ผู้ชายคนนี้ออกปากแบกรับเอาไว้ จึงตัดสินใจได้แล้ว
ใช่แล้ว มีผู้ชายคนนี้อยู่ดูแลพี่สาวของเขา เขาจะไม่วางใจอะไรล่ะ?
วันนี้ม็อกโกจึงออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว
แน่นอน เขาไม่ได้บอกความจริงกับคณาธิป เขาไม่ได้กลับเมืองหลวง ทว่าใช้ความเร็วเท่าที่จะเร็วที่สุดได้ระดมเฮลิคอปเตอร์มาลำหนึ่งจากญี่ปุ่น หลังจากนั้นไปที่ประเทศZด้วยความรวดเร็ว
——
เมืองA ภายในประเทศ
หลายวันมานี้แสนรักก็กำลังคิดพิจารณาปัญหานี้
เพราะว่า หลังจากที่เดือนใจตาย ดลธีบอกกับเขาว่า คนที่ต่อสู้กับเขา ฝีมือไม่ด้อยไปกว่าเขาเลย ต่อหน้าของเขา ฆ่าเดือนใจไปอย่างง่ายดาย
ทันใดนั้น เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่าง หมากกระดานนี้ เป็นไปได้ว่ารุนแรงกว่าที่เขาคิดเอาไว้!
ดลธีเป็นใคร?
นั่นเขาเป็นถึงคนของหน่วยรบพิเศษสากลที่เขาเลือกมาเองกับมือว่าเป็นคนที่มีความสามารถที่สุดแล้ว
แต่ว่า คนคนนี้ กลับยังสามารถฆ่าเดือนใจที่อยู่ในมือของเขาได้
“ท่านประธาน ขอโทษด้วย ต้องโทษผมที่ไม่มีความสามารถ ถ้าวินยังอยู่ก็คงจะดี” ดลธียืนอยู่ที่ด้านหน้าของเขาอย่างรู้สึกผิด พูดถึงคนคนนี้ขั้นมาอย่างกะทันหัน
กาวิน?
คำพูดนี้พูดออกมา แสนรักที่นั่งอยู่ที่นั่น จึงรู้สึกเพียงว่าบางตำแหน่งในหัวใจถูกแทงเข้ามาอย่างรุนแรง
เจ็บปวดเป็นเวลานาน นิ้วมือของเขากำแน่นจนเส้นเอ็นแทบจะระเบิดออกมา!
ชื่อชื่อนี้เป็นชื่อที่เขาต้องละอายไปตลอดชีวิต
“ช่างเถอะ คุณนำเรื่องนี้เปลี่ยนวิธีการเป็นการให้เงินรางวัล แพร่ออกไปในสังคมมืด สามารถใช้มีดผ่าตัดฆ่าคนได้อย่างเฉียบขาดขนาดนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน คุณทุ่มเงินสักหน่อย บรรพบุรุษสิบแปดชั้น พวกคนที่เคยเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลเพื่อเอาตัวรอดยังสามารถขุดขึ้นมาให้คุณได้เลย”
“……”
ถ้าเขาไม่ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งของผู้บริหารบริษัทที่ยิ่งใหญ่
ดลธีคงคิดว่าเขาเคยอยู่ในวงการพวกนี้
ดลธีออกไปจากที่นี่โดยเร็วแล้ว
วันนี้ตอนเที่ยงเส้นหมี่เองก็กำลังจัดการเรื่องของตระกูลเทวเทพ แต่ว่า เธอไม่ได้ยุ่งเรื่องอื่นใดเลย ทว่ากำลังปลอบใจคนคนหนึ่งผ่านทางโทรศัพท์
【พิมเจ้า:หมี่ ฉันทำไม่ได้แล้วจริงๆ เรื่องนี้ ฉันทำต่อไปไม่ได้แล้ว ฉันจะเป็นบ้าแล้ว】
【เส้นหมี่:……】
อยู่ที่บ้านกำลังทานอาหารเช้าไป ดูโทรศัพท์ไปด้วย
ทันใดนั้นก็ได้เห็นข้อความอันนี้ของพิมเจ้า เส้นหมี่ยังมีเกี๊ยวที่ยังไม่ทันได้กลืนลงไป เกือบจะสำลักออกมาแล้ว
ไม่ทำแล้ว?
ก็คือจะไม่ดูแลจัดการเดอะวิวซีแทนเธอแล้ว?
นั่นจะได้อย่างไร? ถ้าเธอไม่จัดการดูแล งั้นเดอะวิวซีจะมอบให้ใคร? หรือจะเอากลับคืนไปให้คุณท่านอีก?
เส้นหมี่กลืนเกี๊ยวอันนั้นลงไปแล้ว ทำได้เพียงปลอบใจอย่างใจเย็น
【เส้นหมี่:ป้าสะใภ้ คุณอย่าพึ่งรีบร้อน คุณทำไมถึงไม่ทำแล้วล่ะ? คุณพูดกับฉันให้ละเอียดดูสักหน่อย】
【พิมเจ้า:ก็เรื่องป้าสะใภ้ของคุณนั่นแหละ คุณไม่รู้หรอกว่า หลายวันมานี้ฉันฝันร้ายมาแล้วกี่วัน ตอนกลางดึกตกใจตื่นขึ้นมาบ่อยๆ】
พิมเจ้าเริ่มร้องไห้คร่ำครวญขึ้นมาแล้ว
เส้นหมี่ขมวดคิดเป็นปม
การตายของเดือนใจ วันนั้นตอนเช้าเธอได้ยินเข้าแล้วจริงๆ ยังจำได้วันนั้นตอนตื่นขึ้นมา ได้ยินว่าผู้หญิงคนนี้โดนฆ่าตายแล้ว ตอนนั้น เธอนิ่งไปเป็นเวลานานกว่าจะมีสติขึ้นมา
กะทันหันเกินไปแล้ว
ดังนั้น ผู้หญิงคนนี้พูดว่าหวาดกลัว ก็เป็นเรื่องที่ให้อภัยได้
【เส้นหมี่:ป้าสะใภ้ เรื่องนี้คุณไม่เกี่ยวกับคุณ คุณไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก】
【พิมเจ้า:ไม่ใช่อย่างนั้น คุณไม่รู้อะไร วันนั้นคนของสมรมณ์วัลย์พูดว่า เห็นเธอวิ่งออกไปอย่างกระวนกระวาย หลังจากนั้นก็ไม่กลับมาอีกเลย ต่อมาวันนี้ตอนเช้าวัฒน์ได้พาคนออกไปตามหา พบว่าศพของเธอขึ้นอืดอยู่ที่ท่าเรือแล้ว】
【เส้นหมี่:……】
【พิมเจ้า:หลังจากนั้นฉันก็พาน้าแจ๋วไปด้วยตัวเอง ปรากฏว่า ภาพภาพนั้น……จริงๆเลย หมี่ คุณต้องเข้าใจฉัน ฉันรับไม่ไหวแล้วจริงๆ】
ข้อความสุดท้ายอันนั้น ต่างเต็มไปด้วยสติกเกอร์การร้องไห้อย่างหนัก
เส้นหมี่ได้เห็นแล้ว เป็นเวลานาน เธอจ้องมองที่ข้อความอันนี้ ไม่รู้ว่าจะปลอบใจอย่างไรดีแล้ว