ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1120 ความภาคภูมิใจที่ร่วงโรยเป็นละอองฝุ่นในวันนั้น
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1120 ความภาคภูมิใจที่ร่วงโรยเป็นละอองฝุ่นในวันนั้น
หรือว่า พิมเจ้านี้ จะเป็นคนรักเก่าของไวท์รอนที่เล่ากันมา?
ที่เล่ากันมานั้น ไวท์รอนยังมีลูกนอกสมรสคนหนึ่งด้วย หรือว่า ลูกชายที่เธอคลอด ก็คือคนนั้น?!
เส้นหมี่เกือบตกใจกับการคาดเดาของตัวเอง แต่ว่า เธอไม่ได้ถามอีก แต่อยากพูด ไว้รอแสนรักกลับมา ค่อยคุยกับเขาเรื่องนี้ ก็จะดีขึ้น
เส้นหมี่ฝังเข็มให้ชายชราเสร็จ ก็ขึ้นไปดูแลลูกๆ
ส่วนแสนรักตอนนี้ ก็เริ่มเข้าไปใจกลางรัฐสภาอย่างเป็นทางการแล้ว ที่ไวท์ พาเลซ
พูดถึงเรื่องนี้แล้ว สถานที่นี้ เขาเคยมาก่อน แต่ว่าตอนนั้น เขามาสร้างปัญหา ไม่ใช่แค่วันนั้นที่ก่อความวุ่นวายที่นี่เท่านั้น เขายังทำให้ทุกคนเห็นถึงความบ้าคลั่งของเขา
แสนรักเข้าไปอย่างไม่สนใจไยดี
“รัก รอก่อนสิ พวกเราเข้าไปด้วยกันเถอะ”
กำลังเดินไป ด้านหลัง จู่ๆ ก็มีเสียงที่พยายามตีสนิทดังเข้ามา เสียงที่เรียกว่า“รัก”ทำให้แสนรักรู้สึกอึดอัดจนคลื่นไส้
วิบูลย์อีกแล้ว ครั้งนี้แสนรักมาไวท์ พาเลซ เขาจึงแสดงความกระตือรือร้นเป็นพิเศษแก่เขา
“เป็นไงบ้าง?งานเลี้ยงเมื่อกี้ คุณกับคนของสภาผู้แทนราษฎร คุยกันสนิทดีใช่ไหม?พวกเขาไม่ได้ทำให้คุณลำบากใจใช่ไหม?”
วิบูลย์เข้ามา เห็นว่าลูกชายของตระกูลเทวเทพที่เหลือเพียงคนเดียวกำลังรอเขาอยู่ที่เดิม เขาก็ดูพอใจเป็นอย่างมาก จากนั้นจึงถามอย่างใส่ใจ
สภาผู้แทนราษฎร เป็นอีกสถาบันหนึ่งของรัฐสภา
และสถาบันนี้ มีนายพลเป็นส่วนมาก ไม่เหมือนวุฒิสภาของคนตรงหน้านี้ ที่มีแต่ขุนนางฝ่ายพลเรือน
แสนรักตอบกลับนิ่งๆ:“ไม่ได้พูดกันเท่าไหร่”
“อ๋า?คนพวกนี้จริงๆ เลย!”
พูดแบบนี้ออกมา วิบูลย์ก็ทำเป็นไม่พอใจต่อหน้าแสนรักทันที
“พวกเขาก็ไร้เหตุผลมากไป ถึงคุณจะมาเป็นครั้งแรก แต่ปู่คุณและก็พี่ชายคุณ ล้วนแต่เป็นคนสำคัญในสภาผู้แทนราษฎร ทำไมพอคุณมา ถึงได้เมินใส่แบบนี้?”
“ไม่เป็นไร อาจจะเพิ่งมาเลยไม่ชิน”
แสนรักตอบกลับไปอย่างง่ายๆ อีกครั้ง
งานเลี้ยงเมื่อครู่ เขารู้สึกถึงความเมินเฉยที่คนพวกนั้นมีต่อเขาจริงๆ ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนตระกูลเทวเทพ แต่เมื่อกี๊ คนพวกนั้นไม่ให้เกียรติเขาเลย กระทั่งว่า เห็นเขาเป็นอากาศด้วยซ้ำ
แต่พอเปรียบเทียบแบบนี้ คนตรงหน้านี้ ดูเหมือนจะกระตือรือร้นเกินไปหน่อย
ไม่ใช่เหรอ?
ริมฝีปากบางของแสนรักเม้มจนเป็นมุม แล้วเข้าไปโดยตรง หาที่นั่งของเขาแล้วก็นั่งไขว่ห้างลงไป
คนที่เข้ามานั่งแล้วพอเห็นเข้า ก็เริ่มถกเถียง
“ดูเขาสิ เป็นแบบนี้อีกแล้ว เขาเห็นตัวเองวิเศษสุดตลอดเวลาเลยเหรอ? ทำไมไปไหนก็นั่งท่านี้และมีท่าทางแบบนี้ตลอด?”
“คงจะใช่ ก็ว่ากันว่าเมื่อก่อนเขาเป็นเถ้าแก่ของบริษัทข้ามชาติไม่ใช่เหรอ?”
“เถ้าแก่แล้วไงล่ะ?เขารู้ไหมว่าที่นี่ที่ไหน?นี่เป็นถึงไวท์ พาเลซ เป็นรัฐสภา ถ้าไม่ได้มีสกุลเทวเทพอยู่ ชาตินี้เขาก็อย่าฝันว่าจะได้เข้ามาที่นี่เลย!”
“ชู่ว!เลิกพูดได้แล้ว ลืมแล้วเหรอว่าเมื่อก่อนเขาบ้าระห่ำที่นี่อย่างไร?อย่าไปยุ่งกับเขาอีก”
“……”
แค่ไม่กี่คำสั้นๆ และในทุกๆ คำของคนพวกนี้ ไม่ได้มองว่าคนอื่นเป็นมนุษย์เลย แต่กลับไร้จิตใจและชั่วร้าย แทบไม่ต่างอะไรกับพวกนักเลงในตลาดเลย
แสนรักไม่ได้ยิน
เขานั่งค่อนข้างไกล
แต่วิบูลย์ที่นั่งอยู่ข้างหลังได้ยิน
หลังจากเขามองคนเหล่านั้น ทั้งๆ ที่เขาเพิ่งจะใส่ใจและดูกระตือรือร้นต่อแสนรัก แต่ตอนนี้ เขากลับทำเหมือนกำลังดูฉากเด็ดอยู่
ไม่มีการแสดงออกอย่างอื่น
ไม่กี่นาทีถัดมา ในที่สุดทุกคนก็มาถึง รวมทั้งผู้นำระดับสูงที่สุดคนใหม่
“ทุกท่าน วันนี้เป็นวันที่ผมเตชินทร์มาประชุมครั้งแรกหลังจากได้รับตำแหน่ง ขอบคุณทุกท่านมากที่มาเช้าขนาดนี้ งั้นพวกเรามาเริ่มประชุมกันเลยดีกว่าครับ”
ผู้นำคนใหม่นี้ ดันไม่มีความวิตกกังวลและตื่นกลัวที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเลย แต่พอนั่งลงแล้ว ก็ทักทายทุกคนในนั้นด้วยรอยยิ้ม
จากนั้น เขาก็เริ่มประชุม
แสนรักหรี่ตาลง
เตชินทร์นี้ เขาขึ้นมาจากตำแหน่งไหนอีก?
“รัก?”
ตอนนี้เอง ด้านหลังก็มีเสียงวิบูลย์เรียกเขา
สายตาแสนรักเยือกเย็นลงทันที!
“คุณจะมานั่งตรงนี้กับผมไหม?คุณยังลงคะแนนไม่เป็นใช่ไหม?ผมสอนคุณเอง”วิบูลย์ลดเสียงลงแล้วตะโกนจากด้านหลัง จะให้แสนรักนั่งกับเขา
ด้วยสถานะปัจจุบันของเขาในไวท์ พาเลซ สามารถขอปรับตำแหน่งให้ได้
แต่แสนรักกลับไม่สนใจเขาเลย
ตอนที่กำลังจะกรอกชื่อและหย่อนบัตรทั้งสามใบในมือเข้าไป ตอนนี้ ด้านหน้าเขา จู่ๆ ก็มีมาอีกคน
“วสุ วันนี้เป็นครั้งแรกที่คุณมาประชุมแบบนี้ที่ไวท์ พาเลซ รู้สึกไม่ชินตรงไหนไหม?”
“?”
แสนรักเงยหน้าขึ้น มองผู้นำที่สูงสุดที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา ไม่เข้าใจเล็กน้อยว่าเขาหมายถึงอะไรกันแน่?
เป็นห่วงเขาด้วย?
งั้นก็รู้สึกซาบซึ้งจริงๆ!
แสนรักละสายตากลับไปเบาๆ:“ไม่ครับ”
“งั้นก็ดี ถ้าคุณมีอะไรไม่เข้าใจ บอกเลขาธิการผมได้ บัตรของสภาผู้แทนราษฎร คุณไม่ต้องลงแล้ว ตำแหน่งนั้น เป็นของตระกูลเทวเทพของพวกคุณอยู่แล้ว เดี๋ยวผมคุยกับคุณท่านของตระกูลคุณเอง ให้เขาส่งคุณไปที่ค่ายทหาร ถึงตอนนั้นก็รับตำแหน่งแทนพี่ชายคุณ แล้วก็มาไวท์ พาเลซรัฐสภาได้โดยตรงแล้ว”