ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1134
ร้องไห้เสียงดังน้ำมูกโป่งออกมา ทำให้คนรู้สึกหัวใจสลาย
ดวงตาสวยงามของชินจังหดตัวลง
เขาจ้องมองไปที่นิ้วก้อยอ้วนท้วนของน้องสาว พบว่ามีบาดแผลที่มีสีแดงสดอยู่บนนั้นจริงๆ ใบหน้าเย็นชาของเขาน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม
“ใครทำ?”
เขาดึงโบว์ที่อยู่บนคอออกมาห่อบาดแผลของน้องสาว จากนั้นถามเสียงเข้ม
หนูรินจัง: “…”
เธอไม่เคยเห็นพี่ชายเป็นแบบนี้มาก่อน จู่ๆ เธอรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย
“พี่ชาย…”
“ใช่สองคนที่สีไวโอลินนั่นไหม? นี่คือแผลบาดเจ็บจากสายไวโอลินใช่ไหม?”
ชินจังเป็นคนฉลาดขนาดไหน น้องสาวไม่ตอบ เขาเพียงแค่ดูจากบาดแผลก็สามารถดูออกได้
ดังนั้นในไม่ช้า เด็กผู้หญิงสองคนนั้นที่เดิมทีจะนำเรื่องนี้ไปอวดกับแม่ของพวกเธอฟัง แต่จู่ๆ อากาศโดยรอบลดต่ำลง
พวกเธอหยุดลง ก็เห็นเด็กผู้หญิงที่เพิ่งตกใจหนีไป
กลับถูกเด็กผู้ชายที่อายุเท่าๆ กับเธอ แต่หน้าตากลับสวยงามและเท่เป็นอย่างมากลากกลับมา
“เมื่อกี้เป็นพวกเธอสองคนที่ทำร้ายน้องสาวฉัน?”
ชินจังไม่พูดพร่ำเพรื่อกับสองคนนี้ หลังจากที่มาถึงตรงนี้ ประโยคแรกที่เล็ดลอดจากไรฟันก็คือประโยคนี้
เด็กผู้หญิงสองคนได้ยินว่าถามเรื่องนี้ พวกเธอหัวเราะขึ้นมาอีกทันที
“ใช่ ที่แท้เธอบาดเจ็บแล้วถึงได้วิ่งหนีเร็วขนาดนี้ ถึงว่าทำไมไม่เล่นต่อแล้ว”
“…”
เพียงประโยคเดียว ก็ทำให้หนูรินจังที่ยังน้ำตาไหลตกใจจนหลบไปด้านหลังพี่ชายอีก
ความอ่อนโยนสุดท้ายในดวงตาของชินจังหายไปหมดเกลี้ยง
“เล่นต่ออะไร?”
“อ๋อ ไม่มีอะไร ก็แค่เมื่อครู่ตอนที่เธอจะมาเล่นกับพวกเรา พวกเราพูดว่าถ้าหากเธอสามารถสีไวโอลินของเราออกมาสองสามตัวโน้ต งั้นพวกเราก็จะเล่นกับเธอ”
“ผลปรากฏว่า เธอไม่เป็นอะไรสักอย่าง สุดท้ายโอ้อวดฝีมือ แถมยังบาดมือของตัวเองอีก ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”
ประโยคสุดท้าย เด็กผู้หญิงสองคนนี้ ยังหัวเราะเสียงดังขึ้นมาอีก
หนูรินจังน้ำตาที่โดนดูถูกไหลติ๋งติ๋งออกมาอีก
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ไม่อย่างงั้นพวกเรามาแข่งกันหน่อย ฉันเล่นเพลงหนึ่ง ถ้าหากพวกเธอเล่นเป็น ฉันให้สิ่งนี้กับพวกเธอดีไหม?”
เสียงเด็กน้อยที่เย็นชาดังขึ้น
ชินจัง หยิบนาฬิกาโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งออกมาจากบนตัว
“ว้าว นั่นมันนาฬิกาเบบี๋ Q ไม่ใช่เหรอ? นี่คือแบรนด์ดังระดับประเทศ พวกเราที่นี่มีเพียงไม่กี่คนที่ได้ซื้อ”
“ใช่ใช่ใช่!!”
เด็กผู้หญิงสองคนนี้เห็นแล้ว ทันใดนั้นดวงตาเผยให้เห็นถึงความโลภมาก
นาฬิกานี้ ราคาไม่ธรรมดาจริงๆ
พวกเธอตอบตกลงในทันที: “ได้สิได้สิ นายจะเล่นอะไร?”
ชินจังมองพวกเธออย่างเย็นชา: “พวกเธอไม่ต้องสน เพียงแค่เล่นออกมาได้ก็พอ แต่ว่าฉันก็มีเงื่อนไข ถ้าหากเล่นออกมาไม่ได้ งั้นพวกเธอก็ต้องรับการลงโทษที่เหมาะสม!”
“ลงโทษอะไร?”
“เธอบาดเจ็บยังไง พวกเธอก็เช่นเดียวกัน!”
ชินจังพูดออกมาโดยไร้ความรู้สึกใดๆ
เขาเป็นคนซื่อบื้อเหรอ?
หลังจากที่เด็กผู้หญิงสองคนได้ยิน รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฟังคำพูดของคนปัญญาอ่อน
เพราะว่าแผลของหนูรินจัง เป็นเพราะตอนที่พวกเธอกลั่นแกล้งเธอ เธอยืนกรานที่จะใช้นิ้วมือกดสายไวโอลินซ้ำๆ ถึงได้บาดเจ็บ
แต่ว่า พวกเธอสองคนเป็นนักไวโอลินขั้นสูงแล้ว เขากลับอยากจะลงโทษพวกเธอแบบนั้น? เด็กผู้ชายคนนี้มีความสามารถแบบนั้นเหรอ?
เขาเล่นเป็นไหม?
ทั้งสองคนไม่ใส่ใจกับคำพูดนี้ด้วยซ้ำ
ชินจังเห็นแล้ว จึงรับไวโอลินที่พวกเธอส่งมา แล้ววางลงบนไหล่อย่างเชี่ยวชาญ จากนั้นเขาก็เริ่มเสียดสีสายไวโอลิน
“เร มี ซอล มี เร มี ซอง—“
นั่นคือโน้ตตัวแรกในตอนเริ่มต้น เป็นเพลงที่เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนช็อก
เขาเริ่มต้นด้วยโน้ตที่สนุกสนานและเสียงสูง เหมือนกับคำพูดที่สวยงาม หลังจากจังหวะเร็วผ่านไป มือน้อยๆ ก็สีต่อไปอีก โน้ตยังคงบรรเลงออกมาจากใต้สายไวโอลิน มันไพเราะราวกับเสียงนกร้อง ทันใดนั้นคนที่อยู่ในสวนทั้งหมดถูกดึงดูดมา รวมทั้งเด็กผู้หญิงสองคนนี้
แม่เจ้า เขาเล่นไวโอลินเป็นจริงๆ ด้วย!
แถมยังเล่นได้ดีขนาดนี้!!
เด็กผู้หญิงสองคนนี้อึ้งไปหมด ชินจังที่เล่นไวโอลินจ้องมองพวกเธออย่างเย็นชา บรรเลงระดับความยากที่สูงขึ้นออกมา อีกทั้งเทคนิคของโน้ตที่ยากกว่าเดิม
น่ากลัวมากๆ!
ความสามารถแบบนี้ เกรงว่าอาจารย์ของพวกเธอ ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีความสามารถแบบนี้
สีหน้าของเด็กผู้หญิงสองคนนี้ขาวซีดไปหมด
สองนาทีต่อมา ในที่สุดชินจังก็บรรเลงเพลงจบแล้ว เขาวางไวโอลินลง แล้วจ้องไปทางสองคนนี้อย่างกับซาตาน
“เล่น!”
“…”
ไม่มีกำลังรับคำท้าด้วยซ้ำ
หลังจากที่เด็กผู้หญิงสองคนตัวสั่นเล็กน้อย แล้วจะหันหลังเดินออกไป
ชินจัง: “…”
“อย่ารีบร้อนสิ จะไปไหนล่ะ? ที่แพ้พนันยังไม่เอาออกมาเลย” ร่างเล็กอีกคนมาพร้อมกับสายลม
เพียงแต่ ประกอบกับเสียงหัวเราะแบบนี้ เด็กผู้หญิงสองคนหยุดลงแล้วตกใจเมื่อเห็น ตรงหน้าพวกเธอมีคนที่หน้าตาเหมือนกันกับเด็กผู้ชายขวางกั้นพวกเธอไว้
“พี่อิคคิว—”
หนูรินจังมองเห็นจากด้านหลังชินจัง เธอดีใจจนปรบมือตะโกนเสียงดังขึ้น
คิวคิวยิ้มตาหยีให้กับน้องสาว: “อย่าโมโหนะ พี่แก้แค้นให้เธอ”
หนูรินจัง: “ค่ะ!”
เสียงเด็กคมชัดจบลง พี่อิคคิวของเธอจับมือของเด็กผู้หญิงทั้งสองคนขึ้นมาคนละข้าง จากนั้น ในตอนที่พวกเธอสองคนยังไม่รู้สึกตัว
“แกร๊ง—”
คราวนี้สายไวโอลินส่งเสียงแสบหูที่ไม่ไพเราะออกมา
หลังจากที่เสียงนี้ดังขึ้นมา เสียงกรีดร้องของเด็กผู้หญิงทั้งสองคนก็ดังขึ้นพร้อมกัน