ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1156 ประมาท
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1156 ประมาท
ตำแหน่งของไชยันต์ในตอนนั้น จริงๆแล้วแย่งมาจากมือของคนอื่นเขา
และบุคคลนี้ก็มีชื่อว่าสุชาตินั่นเอง!
ยังจำได้ว่าตอนนั้นพวกเขาทั้งสองคนล้วนแต่เป็นคนนำทหารเข้าสู่การสู้รบ คนหนึ่งรับผิดชอบเวทซ์นอร์ธ อีกคนหนึ่งรับผิดชอบภาคใต้ เดิมทีความยอดเยี่ยมของลักษณะภูมิประเทศ เวทซ์นอร์ธยิ่งควรเอาชนะได้อย่างสวยงามด้วยถึงจะถูก
แต่สุดท้าย สุชาติที่รับผิดชอบเวทซ์นอร์ธก็พ่ายแพ้
ส่วนไชยันต์ของเวทซ์นอร์ธกลับกวาดชัยชนะมาตลอด สุดท้ายสถานการณ์สงครามภายในประเทศก็สงบลง
และตั้งแต่นั้นมา ไชยันต์ก็กลายเป็นผู้นำสามเหล่าทัพ
ไชยันต์จ้องมองไปยังคนที่อยู่ในวีดิโอ และก็เป็นใบหน้าแก่ๆที่ร้ายกาจเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน เนื่องจากตั้งแต่ที่เขานั่งบัญชาการสามเหล่าทัพเองแล้ว บุคคลนี้ หลายๆคนไม่ได้เห็นปรากฏตัวขึ้นมาที่ไวท์ พาเลซแล้ว
และในเวลานี้ จู่ๆเขาก็มาปรากฏตัวขึ้นในงานที่สำคัญแบบนี้ หมายความว่าอะไรกัน?
“อย่าเพิ่งขยับ ลองดุว่าเขาวางแผนอะไรกันแน่? วันนี้เป็นงานเลี้ยงสถาปนาไวท์ พาเลซ เขาไม่กล้าก่อเรื่องวุ่นวายหรอก”สุดท้ายแล้วไชยันต์ก็ยังคิดที่จะคอยดูไปก่อน
รองผู้นำเดชาได้ยินแล้ว ก็ทำได้เพียงรออยู่ตรงนั้น
งานเลี้ยงสถาปนาไวท์ พาเลซ ความจริงแล้วถึงแม้เป็นคนที่เข้ามาที่นี่ แต่ละคนล้วนแต่เป็นพวกคดโกงทั้งนั้น
แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ยังไม่มีคนที่จะโง่จนถึงขั้นก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นได้จริงๆ
แต่สามารถจัดการแบบนี้ได้ ก็ต้องสงสัยความตั้งใจที่อยู่เบื้องหลังของเขา คนที่สามารถทำงานเลี้ยงนี้ได้แล้ว
“ผู้อำนวยการรัก ขอแนะนำกับคุณหน่อย ท่านนี้ก็คือนายพลบัญชร ตอนนั้นเคยทำสงครามรบกันกับคุณปู่ของคุณ”
ในงานเลี้ยง สุชาติคนนี้ ก็ถูกเข็นมาตรงหน้าของแสนรัก
เวลานี้แสนรักกำลังนั่งอยู่ตรงโต๊ะสภาผู้แทนราษฎร
แต่ทั้งโต๊ะนั้น ตอนนี้นอกจากเขาเพียงคนเดียว คนอื่นๆก็ไม่อยู่แล้ว
หรือพวกเขามีเจตนา หรือจะมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมจริงๆ โดยรวมแล้ว งานเลี้ยงสถาปนา เขาผู้อำนวยการที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งก็ถูกทิ้งไว้ตรงนี้ มองไปแล้วก็ดูอ้างว้างอยู่มากเช่นกัน
จอมพล?
แสนรักได้ยินเสียงเรียกแล้ว นั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้แล้วมองมาอย่างเหนื่อยล้า
“ไม่เคยได้ยินครับ”
“……”
คนที่กำลังเข็นสุชาติอยู่นั้น กระดูนิ้วบีบหากันจนมีเสียง
รู้ว่าเขาอวดดี
แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาถึงขั้นนี้ เขารู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือใครหรือเปล่า? นั่นต่อให้เป็นถึงไชยันต์คุณปู่ของเขามา ก็ยังไม่กล้าไม่ให้ความสำคัญเชียวนะ
คนๆนี้เตรียมตัวที่จะพูดถึงคุณูปการของสุชาติ สั่งสอนเขา
แต่สุชาติกลับโบกมือขึ้น ให้สัญญาณว่าเขาสามารถลงไปได้แล้ว
“นิสัยนี้ของผู้อำนวยการรัก เหมือนกับพ่อของคุณมากจริงๆ นึกถึงตอนนั้น ตอนที่ผมนำพ่อของคุณ เขาก็มีท่าทางแบบคุณนี่แหล่ะ มีท่าทางโอหังอวดดีมาก”
“เหรอครับ?”
แสนรักยังคงแสดงอาการออกมาอย่างเย็นชา
แม้กระทั่ง หลังจากที่เขาฟังจบแล้ว ก็ยังเอ่ยพูดประโยคที่ยิ่งดูเสียสติขึ้นไปอีก : “ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่รู้แล้วล่ะครับ ผมเองก็ไม่เคยเจอเขาเหมือนกัน”
“……..”
ในที่สุดบรรยากาศก็ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์ต่อได้อีก!
และสุชาติคนนี้เองก็ไม่สามารถควบคุมได้อีกแล้ว ใบหน้าสูงวัยนั้นเผยให้เห็นความโมโหออกมา
แต่เวลานี้ไม่นานนัก เจ้าของงานเลี้ยงนี้ ก็คือผู้นำสูงสุดของพวกเขาเตชินทร์ ที่จู่ๆก็เดินถือแก้วเหล้าเข้ามา
“นายพลบัญชร คุณอยู่ที่นี่เอง ผมยังว่าจะเน้นพาคุณให้มาพบกับผู้อำนวยการของสภาผู้แทนราษฎรที่พวกเราเลือกตั้งกันใหม่ครั้งนี้ บุคคลทางการทหารของพวกคุณ นี่ท่านจอมพล จะต้องรู้จักกันเอาไว้เสียหน่อยนะ”
เขามาอยู่ตรงหน้าทั้งสองคนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และมีความกระตือรือร้นที่จะแนะนำทั้งสองคนให้รู้จัก
แสนรักยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
แต่สุชาตินั้นหลังจากที่เขาเห็นผู้นำคนใหม่มา ก็ยังไว้หน้าอยู่บ้าง
“รู้จักแล้วล่ะ สมกับที่เป็นลูกหลานของตระกูลเทวเทพ มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวมาก”
“ใช่ไหมครับ” เมื่อเตชินทร์ได้ยิน รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งชัดมากขึ้น
“ถ้าหากเป็นแบบนี้ นายพลบัญชรจะอยู่ที่สภาพผู้แทนราษฎรอีกซักระยะหนึ่งไหมครับ? ท่านจอมพลไชยันต์ตอนนี้นอนป่วยติดเตียงอยู่ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย วสุก็เพิ่งจะรับช่วงจากสภาผู้แทนราษฎร ยังมีหลายๆเรื่องที่ยังไม่ชัดเจนนัก ผมกำลังเป็นกังวลอยู่ว่าจะไม่มีใครเป็นคนนำเขา”
คิดไม่ถึง ว่าผู้นำคนใหม่คนนี้ จะพูดประโยคสุดท้ายออกมาแบบนี้
ดังนั้น ความหมายของเขาก็คือ คืนนี้ที่หาสุชาติคนนี้มา ความจริงแล้วก็คือจะให้เขาเข้าสภาผู้แทนราษฎรเหมือนกันอย่างนั้นหรือ? และยังมากดอยู่ที่แสนรักอีก?
หาเรื่องใช่ไหม?
แสนรักหมุนแก้วเหล้าที่อยู่ในมือ และในที่สุดก็หัวเราะเยาะขึ้นมา
“จะทำให้มันยุ่งยากขนาดนั้นไปทำไมล่ะครับ? ผมคิดว่าให้นายพลบัญชรมานั่งอยู่ในตำแหน่งนี้เลยดีกว่า ตอนแรกผมก็บอกแล้ว ว่าผมไม่ได้มีประสบการณ์อะไร ทำตำแหน่งนี้ไม่ได้หรอก”
“วสุ คุณ – -”
เตชินทร์ถูกดักเสียจนหน้าแดงขึ้นมาทันที
และบริเวณรอบๆนั้นก็ดึงดูดคนที่เข้ามากันแล้ว หลังจากที่ได้ยินประโยคนี้ ก็ล้วนแต่พากันตกใจมากเช่นกัน
วสุคนนี้ ช่างกล้าพูดจริงๆ!
เขารู้หรือเปล่าว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นผู้นำระดับสูงสุดที่เลือกตั้งขึ้นมาใหม่? ที่นี่คือไวท์ พาเลซ เขาได้ใจแบบนี้ ไม่กลัวว่าต่อไปจะทิ้งความหายนะเอาไว้อย่างนั้นหรือ?
หลังจากที่ทุกคนเห็นฉาก ก็ล้วนแต่คิดเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย ตระกูลเทวเทพจะขัดใจกันกับไวท์ พาเลซแล้ว
และตรงจุดนี้ พวกเขาล้วนแต่ค่อนข้างดีใจ
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เตชินทร์สุดท้ายแล้วก็จากไปด้วยความโกรธแค้น ส่วนสุชาติเห็นคนวัยรุ่นที่ยังไม่มีการพิจารณาตัวเองแม้แต่นิดเดียวนั้น ก็ส่ายหน้าออกมาเช่นกัน
“วสุ นิสัยนี้ของคุณ จะต้องแก้ไขนะ”
“แก้อะไรหรือครับ?”
แสนรักย้อนถามกลับอย่างไร้ความรู้สึก