ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1189 แยกออก
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1189 แยกออก
ผู้หญิงคนนี้ได้เห็นแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
แต่ว่า ในเวลานี้ ลูกกระสุนลูกหนึ่งก็ยิงมาจากชั้นบนอย่างเงียบเชียบแล้ว
“ปัง——”
เลือดกระเซ็นไปทั่ว ลูกกระสุนอันนั้นในขณะที่ชายวัยกลางคนคนนั้นกำลังจะเหนี่ยวไก ก็ทะลุผ่านข้อมือของเขาไปแล้ว ทำให้ปืนที่อยู่ในมือของเขา หล่นลงไปในทันที
“อ๊า!”
เสียงร้องโอดครวญอย่างกับหมูถูกฆ่า ในที่สุดก็ดังก้องออกไปจากวิลล่าแห่งนี้แล้ว
ผู้หญิงคนนี้หวาดหวั่นเล็กน้อย
ในขณะที่เธอจัดการสองคนที่เหลืออย่างรวดเร็วนั้น เธอพบว่า ผู้ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง ได้เดินลงมาจากชั้นสองท่ามกลางความมืดแล้ว
นี่เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน
หน้าตาของเขาหล่อเหลา รูปร่างสูงใหญ่ แต่ว่า บนร่างกายของเขาสะท้อนความน่าเกรงขามออกมา มองดูแล้วเหมือนกับว่าไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปยังไงอย่างงั้น
ผู้หญิงคนนี้จึงส่งเสียงออกมาเป็นสัญญาณเตือน:“คุณเป็นใคร?”
ม็อกโกที่เดินลงมามองสำรวจไปบนใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยหยดเลือดไม่หลงเหลือความงดงามที่มีแล้ว ภายในใจซับซ้อนเล็กน้อย
“ภาสดร ลูกชายของวิบูลย์”
“ใคร?”
คำพูดนี้พูดออกมา ทันใดนั้น ผู้หญิงคนนี้ก็เบิกตากว้างขึ้นมา ใบหน้าของเธอซีดขาวอย่างรวดเร็ว แล้วก็ถอยออกไปหลายก้าว เหมือนกับว่าคนที่อยู่เบื้องหน้าคนนี้ เป็นเหมือนสัตว์เดรัจฉานที่น่าเกลียดน่ากลัวยังไงอย่างนั้น
ความจริงแล้ว คนตระกูลตระกูลจรัลพฤกษ์สำหรับเธอแล้ว ก็คือศัตรู
ม็อกโกเห็นว่าเธอกำลังเตรียมพร้อมแบบนี้ รีบร้อนปลอบใจเธอนิดหน่อย:“อย่าได้ตื่นกล้ว ผมกับเขาไม่ใช่พวกเดียวกัน ที่ผมมา คืออยากจะถามว่า พ่อแม่บุญธรรมของวาริช คุณเป็นคนช่วยชีวิตใช่ไหม?”
“แล้วยังไงเหรอ? ไม่งั้น ฉันจะตามมาฆ่าถึงที่นี่ทำไมล่ะ?”
ผู้หญิงคนนี้ยอมรับอย่างไม่ลังเล
อีกทั้ง ในตอนที่เธอพูดว่าตามมาฆ่าถึงที่นี่ ดวงตาทั้งสงอข้างแดงฉานขึ้นมาแล้ว เป็นแรงอาฆาตที่รุนแรง เหมือนกับว่า วินาทีต่อมาถ้าม็อกโกพูดอะไรออกละก็
เธอก็จะลงมือกับเขาทันที!
ม็อกโกเงียบไปแล้ว
เขาไม่รู้ว่าคนคนนี้ผ่านอะไรมา ถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ แต่ว่า ในความทรงจำของเขา เขายังจำป้าสะใภ้คนเล็กของตระกูลเทวเทพที่ลำธารณีณด้านโน้นได้
ป้าสะใภ้คนเล็กคนนั้น เป็นคนอ่อนโยนใจดี เธอชอบยิ้มแย้ม มาที่เดอะวิวซี เมื่อพบเจอผู้คน เธอก็จะทักทายทุกคนอย่างมีมารยาทและใจกว้าง รวมทั้งเจอเขาด้วย ทุกครั้งก็เรียกเขาอย่างสนิทสนม:“ม็อกโก……”
แต่ตอนนี้……
นิ้วของม็อกโกที่ถือมือปืนอยู่จิกเอาไว้ วินาทีนี้ แววตาของเขาเบนออกไปจากใบหน้าอันโหดเหี้ยมอันนี้แล้ว
“เป็นเขาที่ฆ่าพ่อแม่บุญธรรมของเขา?”
“ใช่!”
“คุณเป็นใครในตระกูลโชคสกุล? ทำไมต้องแก้แค้นแทนเขา? วาริชนั้นเป็นผู้นำของโรงน้ำชา ต้องการฆ่าเขา ก็คือคนที่อยู่เบื้องหลังเขา คุณทำแบบนี้ ไม่กลัวว่าจะถูกพวกเขาฆ่าเอาเหรอ?”
ม็อกโกไม่ได้อ้อมค้อมอะไร ถามออกไปตรงๆว่าเธอเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลโชคสกุล
คำพูดนี้พูดออกมา ใบหน้าของผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก!
เขายังรู้สถานะของวาริชด้วย?!!
แต่ว่าไม่นาน เมื่อเธอนึกถึงคนคนนี้บอกถึงชาติตระกูลของตัวเอง เธอก็ไม่ได้ประหลาดใจอะไรมากแล้ว เพราะว่าวิบูลย์ก็เป็นพวกเดียวกับเธอ งั้นลูกชายของเขารู้เรื่องพวกนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแล้ว
“แล้วคุณล่ะ? ตอนนี้คุณมาปรากฏตัวที่นี่ ยิงปืนใส่คนคนนี้ คุณไม่กลัว?”
“ผมไม่กลัวหรอก ยังไงซะพ่อของผมก็ถูกพวกเขาฆ่าตายไปแล้ว สิ่งที่ผมกำลังตามหาก็คือพวกเขา!”
ม็อกโกไปตามน้ำ นำเอาวิบูลย์ยกขึ้นมาแล้ว
ปรากฏว่า คำพูดนี้พูดจบลง การปกป้องกันตัวของตัวหญิงคนนี้ได้ลดลงบ้างแล้ว แม้แต่สีหน้า ก็เปลี่ยนเป็นปล่อยวางลงมากแล้ว
“ที่แท้พ่อของคุณก็ถูกพวกเขาจัดการไปแล้วนี่เอง งั้นคุณเตรียมที่จะแก้แค้นพวกเขางั้นเหรอ?”
“ใช่!”
“ฮึฮึ งั้นก็คงไม่ง่าย? คุณก็เห็นแล้ว หลานชายของฉันเป็นถึงมือซ้ายมือขวาพวกเขา แต่สุดท้าย พวกเขาพูดว่าจัดการทิ้งก็ถูกจัดการทิ้งไปแล้วล่ะ?”
ผู้หญิงคนนี้พูดออกมาอย่างเคียดแค้น
หลานชาย?
ในที่สุดม็อกโกก็หลอกล่อเอาสิ่งที่ต้องการออกมาได้ ทันใดนั้น เขาอยู่ที่นั่นมองไปยังผู้หญิงคนนี้ถอนหายใจออกมา
หลานชาย งั้นก็น่าจะเป็นในตอนบ่ายที่เขาโทรศัพท์ไปหาแสนรัก ในตอนนั้นคนที่เขาพูดถึง “ครีพัตรา”แล้ว ที่แท้ วาริชไม่ใช่ลูกของเธอ ทว่าเป็นลูกของครีพัตราพี่สาวของเธอ
“เอ่อ คุณหาหลานชายของคุณเจอได้อย่างไร? ถ้าผมจำไม่ผิดละก็ เดิมทีคุณก็เป็นเงาของโรงน้ำชา”
“ใช่ ฉันก็เพื่อจะตามหาเขา ฉันถึงได้ไปในสถานที่เลวร้ายแบบนั้น”ทันใดนั้น ในขณะที่ผู้หญิงคนนี้ได้พูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของเธอทั้งโกรธทั้งโศกเศร้าอย่างมาก
เธอบีบมีดผ่าตัดเล็กๆที่อยู่ในมือเอาไว้เอาไว้แน่น เพราะว่านึกถึงเรื่องที่น่าเศร้าอีกทั้งทุกข์ระทมที่ผ่านมาในช่วงนั้น วินาทีนี้ เธอเคียดแค้นจนแม้แต่แขนต่างยังสั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อย
“ในปีนั้น พี่สาวของฉันถูกไอ้เดรัจฉานคนนั้นหลอก พูดว่าเมื่อถึงเมืองหลวงแล้ว เขาจะแต่งงานกับพี่สาวของฉันทันที แต่ว่า เขาเข้ารับราชการแล้ว กลับไม่ได้มีข่าวคราวอะไรอีกเลย พี่สาวของฉันเป็นหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงาน ได้ตั้งท้องขึ้นมาแล้ว จึงไม่กล้าอาศัยอยู่ที่บ้านอีกต่อไป จากนั้นจึงแอบออกไปคนเดียวพาลูกที่อยู่ในท้องไปตามหาผู้ชายใจร้ายคนนั้นที่เมืองหลวงแล้ว”
“……”
ผู้ชายใจร้ายคนนี้ น่าจะเป็นประพิศน่ะ?
ม็อกโกใบหน้าอึมครึมขึ้นมาแล้ว:“หลังจากนั้นล่ะ?”
ผู้หญิงคนนี้น้ำตาคลอเบ้า:“ต่อมา หลังจากพี่สาวของฉันมาถึงเมืองหลวงแล้ว เดิมทีรับปากว่าจะเขียนจดหมายหาฉัน แต่ว่า ฉันได้รับจดหมายเพียงสามฉบับ หลังจากนั้นก็ไม่มีอีกแล้ว”