ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1206 ฉันเคยให้โอกาสแกแล้ว
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1206 ฉันเคยให้โอกาสแกแล้ว
“คุณ…..”
แสนรักหน้าตาซีดเซียว!
แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เพราะไม่นานจอของกล้องฉายแสงก็ตัดไปอีกทางนึง
“นี่ก็ครึ่งเดือนแล้วนะ เมื่อไหร่หน้าของคุณถึงจะดึงผ้าก๊อตออกได้ ฉันอยากดูหน่อยได้มั้ยว่ามันคืนสู่สภาพเดิมยัง”
“ได้ คุณไม่ต้องกังวลนะ นี่เป็นแมงมุมพันหน้าที่น้องชายของคุณจัดแจงด้วยมือของเขาเอง ฝีมือของเขาดีมาก คงไม่มีพลาด คุณวางใจเถอะนะ”
ในห้องผู้ป่วยที่ขาวสะอาด ผู้ชายที่ใบหน้าพันผ้าก๊อตนั้นกำลังปลอบผู้หญิงที่กำลังอุ้มลูกอยู่
และในเวลานี้นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและมีความสุข
แสนรักนัยน์ตาสั่น
หัวของเขาเริ่มค่อยๆปวดขึ้น เหมือนใกล้จะระเบิดออกมา
“เป็นยังไง ยังอยากดูอีกมั้ย แกวางใจ ถ้ายังอยากดูอีกก็ยังมีอีกเยอะ มีหิรัญชากรุ๊ปของเมืองA ตระกูลวชิรนันท์แล้วก็ดราก้อน แชนท์ของแก ตระกูลเทวเทพของที่นี่ ฉันสามารถเอาให้แกดูทั้งหมดได้นะ”
เหมือนกับปีศาจร้ายก็ไม่ปาน ไอเจ้าแก่นี่เอาพวกคนที่เกี่ยวข้องกับเขาลิสต์ออกมา
ขนาดวิไลการที่เขาไม่เคยได้ติดต่อก็ไม่เว้น
ตาของแสนรักยิ่งแดงกล่ำมากขึ้นเรื่อยๆ ในหัวสมองมีเสียงร้องตะโกนว่า “ฆ่าเขาสิ นายไม่ใช่วสุ นายคือแสนรัก นายฆ่าเขาเร็ว ใช้ตัวตนที่สองฆ่าเข้าซะ”
“ฆ่าเขาแล้ว เขาก็ไม่เหลืออะไรแล้วสิ!”
“อุ้บ……”
“วสุ ฉันต้องขอบคุณแกจริงๆ เพราะแกเป็นชายหนุ่มที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ฉันเคยเจอมาในหลายปีนี้ ฉันใช้แรงกายแรงใจสร้างมาตั้งหลายปี แต่แทบมาพังทลายอยู่ในน้ำมือแก”
“แต่วสุ ฉันชนะธิตรุกล้ำมาหลายปีอย่างนี้ ไม่ใช่แกอยากจะกำจัดก็กำจัดได้ อำนาจของฉันมันมากกว่าที่แกคิด ฉันเคยให้โอกาสแกแล้ว”
เขาพูดจบก็ให้คนยกปืนที่อยู่ในปืนขึ้น
“อย่านะ……”
ช่วงที่อันตรายขีดสุด ผู้หญิงคนนึงถลันเข้ามาอย่างโซซัดโซเซ เธอเห็นฉากนี้เข้าก็ร้องด้วยความตกใจกลัว เธอเลยเข้ามาขวางหน้าปืนพวกนี้ไว้
“หมี่ คุณกลับมาทำไม ห๊ะ คุณกลับมาทำไม?”
ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงบันไดได้สติขึ้นมา
เขาเงยหน้ามองผู้หญิงที่เข้ามายืนขวางหน้าเขา แค่ชั่ววินาทีสั้นๆ เสียงร้องเรียกที่อยู่ในหัวก็หายไป เขารีบวิ่งลงมาจากบันไดทันที
เส้นหมี่กลับมา
พอได้เห็นเขาแวบเดียว เธออยากที่จะตบหน้าเขาแรงๆสักฉาก!
แต่สุดท้ายแล้ว เธอทำแค่อ้าแขนรับแล้วกอดเขา “พี่น่ะมันบ้า ตกลงว่าพี่จะทำอะไรกันแน่ ทำไมพี่ชอบทำอะไรโดยไม่บอกฉัน ห๊ะ?”
เธอร้องไห้ขึ้นมา
โดยไม่สนใจปลายกระบอกปืนที่จ่ออยู่
แสนรักกอดเธอไว้แน่น ตอนนี้เขาก็ไม่ได้สนใจอย่างอื่นเหมือนกัน
ถ้าวันนี้พวกเขาถูกกำหนดให้ตายที่นี่ ก็ตายที่นี่เลยแล้วกัน
จริงๆแล้วฉากนี้เคยเกิดขึ้นตอนที่เขาถูกวุฒิพลฆ่าที่บนทางด้วย แต่โชคดีมีชีวิตอยู่ได้มาอีกสามปี
“อามิตาพุธ”
ช่วงนาทีสำคัญก็มีพระสูงวัยมาปรากฏ สวมใส่ชุดสีเทา บนคอนั้นแขวนลูกประคำเส้นนึง เดินเข้ามาพลางเอามือเลื่อนลูกประคำ
คนที่อยู่ตรงนั้นต่างมองไปที่เขา
รวมไปถึงแสนรักและเส้นหมี่ที่กำลังกอดกันอยู่
“โยม พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ”
กลับเห็นว่าหลังจากที่พระสูงวัยองค์นี้เดินเข้ามา ก็ไม่ได้ไปทางอื่น แต่มุ่งตรงมายังที่ด้านของพวกเส้นหมี่
เส้นหมี่เห็นเลยเช็ดน้ำตา หลังจากนั้นก็รีบปล่อยผู้ชายที่อยู่ข้างกาย
“หลวงพ่อ หลวงพ่อ….มาได้ยังไงค่ะ? ที่นี่อันตราย รีบหนีไปค่ะ” เธอยังพูดโน้มน้าวพระสูงวัยให้เขาไปจากสถานที่แห่งนี้
แต่พระได้เห็นดังนั้นกลับยิ้ม
“โยม อาตมาจะมาพาพวกโยมไปต่างหาก”
“คะ?”
เส้นหมี่ชะงัก
พาพวกเขาไป?
เขาสมองเลอะเลือน หรือ….
เธอกลายตามองไปรอบๆ แสนรักที่อยู่ด้านข้างสีหน้าก็ไม่ค่อยดี เพราะเขาคิดว่าพระองค์นี้เป็นคนบ้า จนขนาดตัวเขาจะตายแล้วยังไม่ไปอีก
ยังจะมาขวางอีก
แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือเมื่อพระสูงวัยองค์นี้พูดจบ สายตาก็มองไปชนะธิต
“โยมผู้นี้ อาตมาขอเอาโยมสองคนนี้ไปด้วยได้มั้ย?”
“……”
ไม่มีใครบรรยายสีหน้าของชนะธิตในตอนนี้ได้
เพราะหลังจากที่พระรูปนี้เดินเข้ามา ท่าทางทะนงและความคิดที่ว่าตัวเองแน่ก็เปลี่ยนเป็นความรู้สึกแข้งทื่อ ใบหน้าเหี่ยวย่นนั้นเต็มไปด้วยความแค้นใจ
“ท่านรู้มั้ยว่าพวกเขาเป็นใคร?”
“รู้สิ โยมสบายใจได้ ช่วงนี้ที่วัดของพวกเรามีกุฏิที่ทำความสะอาดไว้แล้วสองห้อง อาตมาคิดว่าพวกเขาจะอยู่ที่นั่นอย่างมีความสุข”
พระผู้เฒ่าพูดยิ้มๆขึ้นมาอีก
ชนะธิตแสดงน้ำเสียงไม่พอใจ
ชั่วประเดี๋ยวเดียว เส้นหมี่และแสนรักต่างก็มองเขาอย่างประหลาดใจ เมื่อเขาโบกมือ ปืนที่เดิมทีเคยจ่อมายังพวกเขาก็วางลง
“ได้ งั้นจำคำของท่านไว้ ถ้าพวกมันออกจากวัดวรสานส์เมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นวัดของท่านจะถูกเผาก็อย่ามาโทษผมก็แล้วกัน!”
สุดท้ายเขาได้พูดทิ้งท้ายกับพระผู้เฒ่า
หลังจากนั้นเขาก็พาคน พาม้าเดินออกไป
เส้นหมี่ “……”
แสนรัก “…….”
ก็ไม่รู้ว่าใช่ภาพลวงตาหรือเปล่า ชั่วขณะที่เขาออกไปนั้น พวกเขาก็ได้รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าพระผู้เฒ่านี้หายไป สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือนัยน์ตาที่พร่ามัวนั้นมีความเกลียดชังและเฉียบขาด!