ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1319 แสงดาวขวางตาที่สุด
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1319 แสงดาวขวางตาที่สุด
สองชั่วโมงต่อมา เขาใช้บาตรตักศพเล็กๆขึ้นมาแล้วห่อด้วยผ้ากาสาวพัสตร์สีเหลือง ท่ามกลางเสียงสวดของพระชราในห้องโถงใหญ่ของวัด
เขาส่งให้แสนรักอย่างตั้งใจ
“เขาเป็นเด็กจิตใจดี อาตมาไม่รู้ว่าเขายังมีภารกิจแบบนี้ โยมพาเขาไปเถอะ”
ประโยคเดียวทำเอาทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเกือบทำลายการป้องกัน
แสนรักถือบาตรขนาดเล็กด้วยสายตาเคร่งขรึม จากนั้นเขาก็ออกจากวัด
ไชยันต์ “…”
ขณะที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง จู่ๆหลานชายตัวน้อยที่เดินผ่านเขากลับกระซิบข้างหูของเขาว่า “ใจเย็นๆ เขาขาดกระดูกซี่โครงไปสองซี่”
“…”
เพียงแค่ประโยคเดียว คำพูดของชายชราที่มาถึงคอก็ไม่ออกมาอีก
หลังจากรอประมาณครึ่งชั่วโมง ชายชราออกมาอีกครั้ง แสนรักก็ขับรถ ทั้งสองลงจากภูเขาด้วยกัน
“วันนี้แกจะกลับญี่ปุ่นแล้วใช่ไหม?”
“อืม โดโมโตะกำลังรออยู่”
แสนรักที่อยู่ในรถตอบเรียบๆ
ไชยันต์ไม่พูดอะไร แต่สามารถเห็นร่องรอยของความกังวลได้จากระหว่างคิ้วของเขา
ตอนนี้สถานการณ์คงที่แล้ว สิ่งที่ตระกูลเทวเทพเป็นห่วงก็คือสิ่งนี้ ถ้าหากทารกนี้สามารถใช้รักษาและฟื้นตัวได้ เขาหวังว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นในเร็ววันมากกว่าใคร
ไชยันต์ส่งหลานชายไปสนามบินด้วยตัวเอง
“จริงสิ เด็กทั้งสามคนอยู่ที่เมืองA พวกเราไม่ได้อยู่ด้วย ถ้าหากคุณทำงานเสร็จแล้วก็ไปเยี่ยมได้”
ตอนที่กำลังจะขึ้นเครื่อง แสนรักหยุดชะงักแล้วหันมาคุยกับชายชรา
ดวงตาของชายชราเป็นประกายขึ้นทันที
“ได้ๆ พรุ่งนี้หลังจบการเลือกตั้งฉันจะไปที่นั่น” ชั่วพริบตาชายชราก็ยิ้มอีกครั้ง
แสนรักถึงจะขึ้นเครื่องบิน…
—
วันต่อมา
เมืองA
เดิมทีแสงดาวอยากจะไปดูว่าเชียนหยวนล๋ายเย่ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง แต่จู่ๆพี่ภาเตือนเธอว่าวันนี้หนูดาราต้องไปฉีดวัคซีน
“อา วันนี้ถึงเวลาแล้วเหรอ?
หญิงสาวตระกูลเทวเทพรีบลงไปชั้นล่างเพื่อหยิบสมุดวัคซีนของลูก
เมื่อเปิดดู จริงด้วย
งั้นต้องไปโรงพยาบาลก่อนแล้ว
แสงดาวออกไปที่สวนดอกไม้ไปจับลูกสาวที่กำลังคลานไปทั่วอยู่กับพี่สาวหนูรินจังกลับมา ตอนนี้สาวน้อยคนนี้เดินได้แล้วก็ยิ่งซนสุดๆ
พอเช้ามาก็ไม่มีใครหาเจอ เธอมักจะติดหนูรินจัง
หนูรินจังล่ะ?
ถึงแม้อายุจะสิบขวบแล้ว แต่เธอที่น่ารักตั้งแต่เกิดก็ยังอยู่ในวัยที่ติดเล่น
ดังนั้นหลังจากที่น้องสาวตัวน้อยมา เธอก็พาน้องเล่นไปทั่ว ขุดพงหญ้า เล่นโคลน บางครั้งก็ตักปลาจากบ่อปลาออกมาแล้วก็เล่นกันสองพี่น้อง
“โอ้แม่เจ้า นี่ลูกไปขุดมาจากไหนเนี่ย?”
แสงดาวมองก้อนแป้งน้อยที่จับมาได้ เนื้อตัวไม่มีส่วนไหนที่จะไปเจอใครได้ เส้นเลือดก็กระตุก
แต่เมื่อหนูดาราเห็นหม่ามี๊เธอก็หัวเราะ “555” อย่างสนุกสนาน
“ดอ ดอ…ดอ…”
เธอพูดยังไม่ชัด ในมือถือกลีบดอกไม้หลากสียื่นออกมา
แสงดาว “…”
ยังจะมาดอกไม้อีก?
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่นานดอกไม้ทั้งสวนคงจะถูกยัยเด็กน้อยทั้งสองคนนี้เด็ดจนหมดสวนเป็นแน่
แสงดาวจำต้องหิ้วเธอไปอาบน้ำ
อาบน้ำเสร็จจึงค่อยพามา เธอถึงจะไปเอารถของตัวเองออกมา
“ว้าว…รก รก…”
“ดารา หนูไม่ต้องเดินไปเรื่อยแล้ว นั่งตรงนี้ดีๆ หม่ามี๊จะขับรถแล้วนะคะ”
ในรถเฟอร์รารี่สีแดงหนูดาราที่เพิ่งจะหนึ่งขวบสามารถเดินได้ปีนป่ายได้ เมื่อเธอเห็นรถสีแดงของหม่ามี๊และด้วยความเป็นเด็กที่ชอบสีสันสดใสก็รีบปีนป่ายอย่างตื่นเต้นทันที
แสงดาวจึงจำต้องไปไล่จับเธอกลับมา
แต่ว่าทุกครั้งที่จับเด็กน้อยกลับมาได้ก็หัวเราะชอบใจ พอหม่ามี๊กำลังจัดคาร์ซีทเด็ก เธอก็ปีนออกไปอีก
แสงดาว “!!!!”
ยังดีที่พี่ภาเป็นห่วงจึงตามออกมาด้วย เมื่อเห็นภาพสองแม่ลูกในรถก็ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี
“คุณหนูคะ จัดคาร์ซีทให้เสร็จก่อนแล้วค่อยอุ้มลูกเข้ามา”
“อ้อ…”
แสงดาวที่ถึงกับเหงื่อตก พอได้ยินเช่นนั้นก็แบมือ
สุดท้ายด้วยความช่วยเหลือจากพี่ภา ในที่สุดเด็กน้อยแสนซนก็ถูกยึดติดไว้กับคาร์ซีทแล้ว
พี่ภา “คุณหนูคะ ให้พี่ไปด้วยไหม? คุณหนูไปคนเดียวจะเอาหนูดาราอยู่เหรอคะ?”
“เอาอยู่ๆ ไม่เป็นไร ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย”
แสงดาวโบกมือ ไม่นานเธอก็พาหนูดาราออกไป
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับเธอจริงๆ
แต่เธอคิดไม่ถึงว่าวันนี้จะเกิดเรื่องขึ้น
“คุณหมอคะ ลูกฉันล่ะ?”
“หา?”
หมอที่กำลังฉีดวัคซีนให้เด็กอยู่ตรงหน้าต่างเงยหน้ามองหญิงสาวที่ถามเธออย่างตื่นตระหนก
“ลูกของเธอ เธอไม่ได้พาไปด้วยเหรอ ทำไมถึงมาถามฉันล่ะ?”
“ไม่ใช่ค่ะ เมื่อกี้ฉันพาเธอมาฉีดวัคซีน คุณบอกว่าจับตัวเธอดูแล้วเหมือนอุณหภูมิจะสูงนิดหน่อย ให้ฉันเข้าไปเอาที่วัดไข้กับคุณหมอข้างในมาวัดดู”
แสงดาวที่ในมือยังถือที่วัดไข้ เสียงสูงดังด้วยความตื่นตระหนกไม่รู้กี่เท่า