ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 133 ความลับของเธอ
เหอะ!
คุณชาย ช่างเจ๋งจริงๆ!
สุดท้าย แน่นอนว่าหนูรินจังก็ถูกพาไปที่โรงเรียนอนุบาลด้วยกัน
สำหรับสิ่งนี้ เส้นหมี่ที่นอนหลับจนสะลึมสะลือ จนกระทั่งลูกชายทั้งสองคนพาคนขึ้นมาแล้วถึงตื่น ก็ยังงงอยู่
จนกระทั่งลูกสาวลูกชายถูกพาไปแล้ว เธอจึงเห็นห้องที่ว่างเปล่า จากนั้นตบไปที่หัว:“ไม่สิ ค่าเทอมยังไม่รวบรวมได้เลยไม่ใช่เหรอ?ทำไมจู่ๆก็ไปได้อีกล่ะ?”
เธอไม่เข้าใจเลย
แต่ว่า ในเมื่อไปแล้ว งั้นเวลาที่เหลือของเธอ ก็คิดดีกว่าว่าจะรวบรวมเงินอย่างไร
เส้นหมี่เปิดคอม เตรียมจะเข้าเน็ตเพื่อดูว่า ที่นี่ต้องการรับหมอไหม?
แต่ตอนนี้เอง สายของคณาธิปก็โทรมาพอดี
“สวยใส เมื่อวาน……คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร”
เส้นหมี่ตอบกลับนิ่งๆในสาย
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าควรจะรักษาระยะห่างกับชายคนนี้ เพราะว่าเมื่อวาน เขาได้ทำลายฟางเชือกสุดท้ายระหว่างพวกเขาลงแล้ว
แต่ ชัดเจนว่าคณาธิปไม่ยอมเป็นเช่นนี้ เขาเห็นเธอไม่อยากรับสายเขาแล้ว ก็ร้อนใจมาก
“งั้นก็ดี งั้นวันนี้คุณจะไปสัมภาษณ์ไหม?ผมคุยกับเพื่อนคนนั้นของผมแล้ว คุณไปทำงานเลยได้”
“ไม่ต้องแล้ว ฉันหางานได้แล้ว เป็นโรงพยาบาลในเมือง”
เส้นหมี่เปิดหน้าเว็บหนึ่ง เพื่อไม่ให้รบกวนอีกต่อไป เห็นโรงพยาบาลแห่งหนึ่งกำลังรับพยาบาลพอดี เธอไม่คิดอะไรทั้งนั้น ก็กดเข้าไปส่งประวัติของตัวเอง
โรงพยาบาลในเมือง?
คณาธิปผิดหวังทันที
จากความสามารถและคุณสมบัติของเธอ ไปโรงพยาบาลแบบนี้ เป็นเรื่องง่ายมากๆ
คณาธิปจำต้องวางสาย
ทำไมเธอไม่เชื่อฟังแบบนี้เสมอ?อยู่ข้างเขาอย่างดีๆไม่ได้เลยหรือไง?
——
ประวัตินั้นที่เส้นหมี่ส่งไป ที่จริงแล้วก็แค่ส่งไปงั้นๆ
เธอไม่เคยคิดจะทำงานที่นี่ เธอยังต้องกลับไปเมืองเคลียร์
เธอตัดสินใจว่าก่อนกลับไป จะหางานเสริมทำก่อน ให้พอกับค่าเทอมของรินจัง จากนั้นเธอก็จะทำการค้นหาอย่างละเอียดที่บ้าน
“แปลกจัง ของของฉันล่ะ?มันจะไปไหนได้?”
เธอหาจนเหงื่อท่วมหน้า จนแทบจะค้นตู้เสื้อผ้าสองห้องมาหมดแล้ว
แต่ว่า ก็ยังหาไม่เจอ
หมดหนทาง สุดท้ายเธอได้แต่โทรหาลุง
“ลุง ฉันหมี่นะ ฉันมีอะไรอยากจะถามหน่อย ตอนที่คุณชายคิวกับรินจังส่งมานี่ ลุงเห็นกระเป๋าคอมใบเล็กๆของฉันไหม?”
“กระเป๋าคอม?กระเป๋าคอมอะไร?”
ลุงที่ได้ยินอยู่ในสาย ก็งงเล็กน้อย
เส้นหมี่ได้แต่พูดให้เขาฟังอย่างละเอียด:“ก็กระเป๋าคอมใบเล็กๆ เมื่อก่อนฉันใส่สมุดโน้ตไว้ ในนั้นยังใส่แฟลชไดร์ฟของฉันอีกหลายอันด้วย ล้วนแต่เป็นหนังสือที่เมื่อก่อนฉันเขียนไว้ ฉันอยากเอามาเล่มหนึ่งไปเซ็นสัญญา”
“อ๋า?ในที่สุดเธอจะขายหนังสือของเธอแล้ว?”
ธนาตย์ได้ยิน ก็ตกใจเป็นอย่างมาก!
จะโทษเขาไม่ได้ เพราะว่า ตอนนั้นหลานสาวของเขาคนนี้เป็นคนมีชื่อเสียงมากในโลกวรรณกรรม แต่หนังสือหลายเล่มถูกสำนักพิมพ์แย่งกันมาเซ็นสัญญาและขายลิขสิทธิ์ เธอก็ไม่ขาย
เขายังจำได้ว่า เธอมีเล่มหนึ่งชื่อว่าเข็มใจ ตอนนั้นมีบริษัทละครเรื่องหนึ่งสนใจด้วย
น่าเสียดาย ที่เด็กคนนี้ไม่ขายอะไรเลย เก็บเอาไว้อย่างมีค่า!