ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1349 หนุ่มน้อยเกิดเรื่องแล้ว
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1349 หนุ่มน้อยเกิดเรื่องแล้ว
ส่วนแสนรัก
เขาพูดก็ยิ่งน้อยคำเเล้ว ไม่ปรากฏตัว ไม่จำเป็นต้องพูดสิ่งที่แสงดาวพูดล้วนคือเรื่องไร้สาระทั้งนั้น!
แสงดาวคลุ้มคลั่งมาก
แต่ที่นี่ ในกลุ่มนี้ จู่ๆก็มีคนโผล่ออกมา
[คณาธิป : พูดง่ายๆนะ ผมก็แค่ต้องการผู้คน พ่อแม่ ญาติเพื่อนพี่น้อง และยังต้องมาฝั่งญี่ปุ่นนี้ด้วย คนยิ่งมากยิ่งดี]
[……]
ส่วนร่วมอยู่ในความเงียบสงบกันหมด
ก็ไม่รู้ว่าจู่ๆคนๆนี้ก็ปรากฏตัว จึงทำให้ทุกๆคนต่างตกใจกันหมดหรือปล่าว?
หรือเป็นเพราะว่าเงื่อนไขพวกนี้ที่เขาเสนอ ไม่สามารถทำให้ทุกคนพึงพอใจไปชั่วขณะหนึ่งหรือปล่าว?
คณาธิปจ้องมองโทรศัพท์ไปสักพัก เห็นว่าไม่มีความเคลื่อนไหว จู่ๆ นิ้วมือเขาขาววอกเล็กน้อยสักพักนึง กำลังจะโยนโทรศัพท์ทิ้ง หลังจากนั้นก็ขับรถออกไป
เขาเอ่ยคำพูดนี้ ที่จริงก็เพิ่มพลังความกล้าหาญที่ยิ่งใหญ่แล้ว
เขาคนนี้ สภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตในวัยเด็ก ทำให้เขาปลูกฝังความอคติไม่เต็มใจที่จะพึ่งพาคนอื่น และก็ไม่เต็มใจที่ยอมรับทานจากผู้อื่น ดังนั้น คำพูดนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อกี้นี้เขาใช้พละกำลังไปเท่าไร่จริงๆ
[อาจารย์ดิลก : ตกใจหมดเลย ก็นึกว่าเรื่องอะไร? นั่นก็แค่เหมือนกับงานแต่งงานของชนชั้นสูงในระบบศักดินาประเทศเราอย่างไรล่ะ เรื่องนี้จัดการได้ง่ายมากเลยนะ ธิป อาไปด้วย อาเลี้ยงดูนายมาสิบปีแล้ว ก็ถือว่าเป็นพ่อครึ่งหนึ่งของหลานใช่ไหม?]
[เส้นหมี่ : ……ตกใจหมดเลยๆ เมื่อกี้นี้น้องคิดว่าพี่ธิปโดนคนแฮ็กแล้ว จริงด้วยสิ เรื่องนี้มีปัญหาอะไรหรือปล่าว? ต้องการคน พวกเราก็ไปด้วยกันสิค่ะ]
[ม็อกโก : ต้องการให้ฉันพากองกำลังทหารหนึ่งกองไปด้วยไหม?]
[ท่านไช : เจ้าเด็กบ้า พากองกำลังทหารอะไรกัน? ไม่ใช่จะสู้รบกันอีกสักหน่อย ฉันพาหลายๆคนไปก็พอ คนญี่ปุ่นตัวเล็กๆพวกนี้ นึกไม่ถึงว่ายังจะพูดถึงศักดิ์ศรีพวกนี้อยู่อีก งั้นก็ให้เขามาใหญ่สักครั้งสิ แฮะๆ……]
นายท่านคนนี้ พูดจนถึงสุดท้าย ยังจะหัวเราะขึ้นมาอีก
คนในกลุ่มต่างกลัวเกรงกันหมดในชั่วพริบตา
เพราะว่า หากแม้แต่นายท่านคนนี้ก็ออกปฏิบัติการด้วย จริงๆละก็ ไม่ต้องพูดถึงตระกูลเชียนหยวนอะไรนั่นเลย ต่อให้เป็นงานแต่งงานของราชวงศ์ญี่ปุ่นพวกเขา เขาก็มีสิทธิ์พอที่จะเข้าร่วมด้วย
ความโศกเศร้าเมื่อกี้นี้ในกลุ่มได้ถูกกวาดไปจนหมดเกลี้ยงในที่สุด
ส่วนคณาธิป หลังจากที่เห็นฉากนี้แล้ว ยิ่งดูเหมือนว่ามีของอะไรพุ่งอย่างแรงเข้ามาในหัวใจ ปิดกั้นเขาอยู่เป็นเวลานานจนไร้คำที่จะเอ่ยออกมา
หลังจากนั้นไม่นาน ผ่านไปไม่นานแสนรักก็ปรากฏตัวแล้ว
[แสนรัก : สำหรับของขวัญสู่ขอ นายก็ไม่ต้องเตรียมอย่างอื่นหรอก แค่มอบเหมืองเพทายเหมืองนึงให้เขาก็พอ]
[คณาธิป : พร้อมแล้ว]
[เส้นหมี่ : ……]
[แสงดาว : ……]
[ม็อกโก : ……]
[ดิลก : ……]
ส่วนร่วมคุกเข่าให้สองคนนี้เถอะ……
—
เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ
เพราะว่าอีกสามวันต่อมา ก็ไปรับตัวเจ้าสาวที่ญี่ปุ่นแล้ว ดังนั้น ภายในสามวันนี้ หลังจากคณาธิปและแสงดาวกลับมา คนในครอบครัวต่างก็เตรียมงานแต่งงานนี้ให้พวกเขาแล้ว
“วิลล่าชุดนั้นที่อยู่ครึ่งทางขึ้นเขาเป็นยังไงบ้าง?”
ตอนบ่ายนี้ เเสงดาวจองบริษัทจัดงานแต่งงานและโรงเเรมดีๆจากข้างนอก หลังจากกลับมา พอนึกถึงคำถามนี้ เธอจึงวิ่งขึ้นมาถามใหม่อีกครั้ง
แต่คณาธิปกลับยังคงนั่งอยู่ในห้องสำนักงานเหมือนเดิมยุ่งอยู่กับงานอย่างไม่สนใจใยดี เมื่อได้ยินคำถาม ก็แค่ตอบกลับอย่างเย็นชานั้นว่า “แล้วแต่ยังไงก็ได้”
แสงดาว : “……”
เหลืออดเหลือทน ในที่สุด เธอเดินไปหน้าโต๊ะทำงานแล้ว
“นายหมายความว่ายังไง? ทำไมฉันรู้สึกว่าไม่ใช่นายที่กำลังจะแต่งงาน ดูเหมือนว่าที่แต่งงานเป็นฉันซะเองล่ะ?”
“……”
นิ้วที่กำลังเคาะอยู่หยุดอยู่บนสมุดบันทึก คณาธิปไม่เงยหน้ามองไปทางผู้หญิงที่โมโหคนนี้ก็คงไม่ได้
“ฉันไม่เข้าใจอีกแล้วนะ”
“……”
เพียงประโยคเดียว ทำให้แสงดาวที่อยู่ในนั้นถึงกับหมดคำที่จะพูด
ช่างเถอะ คนเลวทรามแบบนี้ ไม่คาดหวังอะไรแล้ว
แสงดาวเบือนหน้าหนีเดินจากไป
กลับเป็นในเวลานี้ ผู้ชายที่อยู่ด้านใน จู่ๆก็มองภาพหลังของเธอ ถามไปหนึ่งประโยคแล้วว่า “พี่วางใจได้ รอตอนที่พี่กับม็อกโกจัดงานแต่งงานกัน ผมก็จะจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ให้พี่เช่นกัน ให้พี่ออกเรือนไปจากตระกูลหิรัญชาอย่างมีหน้ามีตา”
ฝีเท้าของเเสงดาวหยุดอย่างฉับพลัน
ไอ้สารเลวคนนี้ ความหมายของเขานี้ คือตอนนี้เธอดำเนินการแทนเขา ต่อไป เขาก็มาจัดการให้เธองั้นเหรอ?
ขำจะตายอยู่แล้ว!
เธอด่าไปคำเดียวจากก้นบึ้งของหัวใจ แต่ตอนที่ออกจากบ้าน ที่จริงแล้วเบ้าตาแดงๆอยู่นิดหน่อย
ทางด้านเรืองรอง เส้นหมี่ก็ไม่ได้ว่างเช่นกัน
แต่ เพราะว่าตอนที่เธอเพิ่งจะฟื้นตัวจากอาการป่วยหนัก ไม่เหมาะที่จะทำงานหนักจนเกินไป เพียงแค่รับผิดชอบช่วย เชียนหยวนล๋ายเย่จัดงานแต่งงานทางนี้คือชุดเเต่งงานต้องสั่งทำ แล้วก็เครื่องประดับต่างๆ
“พี่ค่ะ ดูสิ ชุดแต่งงานที่แต่งแบบจีนนี่สวยจังเลยค่ะ”
วันนี้ ร้านชุดเเต่งงานส่งภาพตัวอย่างมาให้เธอเลือกอีก หลังจากที่เธอดูแล้ว ก็ชอบเครื่องยศสตรีสีแดงเข้มชุดนั้นทันที
แสนรักกำลังตรวจการบ้านของเด็กหลายคนอยู่ที่นั่น จู่ๆก็ได้ยินเรื่องนี้ เขาจึงยืนขึ้นมาดูเป็นเพื่อนเธอสักพัก
“อืม สวยจริงๆ ถ้าเธอชอบ ต่อไปพวกเราก็จะทำชุดนี้”
“จริงเหรอค่ะ?”
ผู้หญิงที่บนหน้ายังซีดเซียวจากอาการป่วย พอได้ยินสิ่งนี้ ก็ดีใจสุดๆ
กำลังเลือกอยู่ ด้านนอก จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าของเด็กวิ่งเข้ามา
“แปะ……แปะๆ……”
นึกไม่ถึงว่าจะเป็นหนูดารา
หลังจากที่เธอวิ่งเข้ามา ก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนอีก เธอที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยโคลนและเศษหญ้า จึงยกมือเล็กๆขึ้นมาจูงมาทางคุณอาแสนรัก
เด็กคนนี้นี่ เฉลียวฉลาดมากๆเลย พึ่งจะหนึ่งขวบกว่า ก็รู้แล้วว่าเรื่องที่ตัวเองทำไม่สำเร็จ ก็วิ่งเข้ามาหาผู้ใหญ่แล้ว
ดังนั้นแสนรักจึงถูกมือเล็กๆนี้จับนิ้วมือนิ้วนึงของตัวเองลากออกมาแล้ว