ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1430 พวกเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1430 พวกเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว…….
นี่คงจะเป็นเพราะประสาทที่เกร็งผ่อนคลายลง จึงเกิดภาวะหมดสิ้นกำลังเช่นนี้ เส้นหมี่เมื่อเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาก รอจนเมื่อกลับจากโรงพยาบาลมาถึงโรงแรม เมื่อเธอได้พบกับชายหนุ่มที่กำลังอยู่เป็นเพื่อนเด็กๆในห้องสวีท เธอก็เดินตรงมาหาเขาและนั่งไขว่ห้างลงทันที “ฉันว่าครั้งนี้พี่ธิปคงจะหาแสงสว่างในชีวิตของเขาเจอแล้วล่ะ” “เหรอ?” ครั้งแรกที่ได้ยินผู้หญิงคนนี้ใช้คำว่า ‘แสงสว่าง’ มาบรรยายชายคนที่หลงเธอหัวปักหัวปำมาทั้งชีวิต แสนรักอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามามองเธออย่างจริงจัง
เส้นหมี่ยิ้ม : “ก็ใช่นะสิ เมื่อครู่ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล เห็นความร้อนรนและความกลัวของเขา พอได้ยินว่าเด็กสาวคนนั้นไม่เป็นไร แม้แต่ตาของเขายังแดงเลย ฮิฮิ ครั้งนี้ดีแล้ว ในที่สุดฉันก็จะได้วางใจเสียที” คำพูดนี้ของเธอ กลับพูดได้อย่างตรงไปตรงมา เพราะหนึ่งพูดในฐานะคนในครอบครัวที่ห่วงใยด้วยความบริสุทธิ์ใจ ส่วนเหตุผลที่สองนั้นก็คงจะเป็นเพราะสำหรับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ เพราะในที่สุดคณาธิปก็มอบใจของเขาให้กับผู้หญิงคนอื่นแล้ว แน่นอนชายคนนี้ไม่ต้องคอยเอาแต่หึงหวงอีกต่อไปแล้ว แต่ที่ทำให้เธอแปลกใจก็คือ เมื่อเธอพูดจบ ชายที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่มีทีท่าที่จะผ่อนคลายอย่างที่เธอคิด แต่หน้าผากของเขากลับกระตุก “กลัวว่าจะไม่ง่ายอย่างนั้นนะสิ เด็กสาวคนนั้นไม่มีทางฆ่าพี่สาวของเธออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยหรอก ก็เหมือนกับกระต่าย คุณเคยเห็นกระต่ายกัดคนตอนไหน?” “เวลาถูกบีบจนร้อนรนเหรอ?” เส้นหมี่โพล่งออกมา ใช่ เวลาถูกบีบจนร้อนรนนั่นแหละ ถึงจะกัดคน
ในเมืองยังมีหิมะพริ้วไหวอยู่ หลังจากตกดึกแล้ว ความเย็นยะเยียบในอากาศยิ่งเพิ่มมากขึ้น คณาธิปก็รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกนี้ เพราะเมื่อเขาอยู่ในห้องพักผู้ป่วย รอจนกระทั่งเด็กสาวฟื้น ลืมตาขึ้นมาและพูดสองประโยคกับเขาว่า : “อากิยามะคะ พวกเราหย่ากันเถิดค่ะ” “คุณว่าอะไรนะ?” คณาธิปหรี่ตาลง คิดว่าตนฟังผิดไป หย่า? เธอพูดกับเขาเรื่องหย่างั้นหรือ? คนที่แม้แต่เขาไล่ก็ยังไม่ไป ทั้งๆที่รู้ว่าเขาเห็นเธอเป็นตัวแทน แต่กลับยอมที่จะอยู่ข้างกายเขาโดยที่ไม่สนอะไรทั้งนั้น ตอนนี้มาบอกกับเขาว่าจะหย่า? คณาธิปยื่นมืออกไปเพื่อจะแตะดูว่าเด็กสาวคนนี้มีไข้ใช่หรือไม่? แต่เมื่อมือของเขาไปถึง กลับพบว่าเด็กสาวหันหัวหลบ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำเช่นนี้
คณาธิป : “ ……………….”
“ฉันพูดจริงๆนะคะ อากิยามะ ครั้งนี้ฉันทำความผิดอันใหญ่หลวงอย่างที่ไม่สามารถจะให้อภัยได้ ฉันต้องขอขมาต่อบรรพบุรุษของตระกูลเชียนหยวนค่ะ ต่อจากนี้ฉันจะไปอยู่ที่วัด คุณช่วยส่งเสริมฉันด้วยนะคะ” เธอซึ่งนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยพูดพลางสะอื้นไห้ สิ้นเสียงพูด เมื่อคณาธิปมองใบหน้าที่หันกลับไปของเธอแล้ว เขาก็เริ่มเชื่อว่าสิ่งที่เธอกำลังพูดเป็นเรื่องจริง “ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้ คุณไม่ต้องกังวล ผมได้คุยกับคุณพ่อของคุณแล้ว ว่าคุณตอนนี้แต่งงานกับผมแล้ว เรื่องของตระกูลเชียนหยวน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณอีก” “ไม่ใช่ค่ะ ต้องเกี่ยวสิคะ ฉันยังเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเชียนหยวนนะคะ” เด็กสาวคนนี้ยังดึงดันต่อ แววตาของคณาธิปจึงหดหู่ลง เขาไม่ได้โต้แย้งใดๆกับเธออีก เมื่อเห็นว่าของเหลวในสายยางที่แขวนอยู่ใกล้จะหมดแล้ว เขาจึงเดินออกไปเรียกพยาบาล
คืนนั้นสองสามีภรรยาอยู่ในห้องพักผู้ป่วยนี้โดยไม่ได้พูดจากันอีก เชียนหยวนล๋ายเย่แกล้งหลับ ส่วนคณาธิป เมื่อเห็นว่าเธอ ‘หลับ’ แล้ว จึงไม่ได้ไปรบกวน เขาหยิบโน้ตบุ๊กขึ้นมาทำงานอยู่ในห้องนั้นจนค่อนคืนจากนั้นจึงนอนหลับ เขาตื่นมาอีกครั้งก็ตอนที่ฟ้าสว่างมากแล้ว
คณาธิปขยี้ตาทั้งสองข้าง คลำหาแว่นตาบนโต๊ะมาใส่ จึงพบว่าไม่มีคนอยู่บนเตียงแล้ว เด็กสาวล่ะ? เขารีบลุกขึ้นยืนและออกไปหา “ล๋ายเย่?” เขาเดินไปตามทางเดินของหอผู้ป่วยใน ไม่มีเสียงตอบรับ แต่กลับมีนางพยาบาลคนหนึ่งเดินมา เห็นว่าเขากำลังหาคน เธอจึงบอกเขาไปว่าเชียนหยวนล๋ายเย่เดินไปที่ไหน “คุณเชียนหยวนออกไปรับแดดอยู่ชั้นล่างค่ะ เขาไม่ให้พวกเราไปเรียกคุณค่ะ บอกว่าคุณทำงานทั้งคืน คุณลงไปหาเธอสิคะ” “ครับ” คณาธิปจึงรีบลงไป
จริงอย่างที่ว่า เมื่อเขาไปถึงชั้นล่าง มองเห็นพื้นดินมีหิมะชั้นหนาปกคลุมอยู่ทั่วสวน และเห็นเด็กสาวคนหนึ่งสวมชุดผู้ป่วยกำลังรับแดดอยู่ เด็กน้อยคนนี้ หนาวขนาดนี้ทำไมยังลงมานะ คณาธิปรีบเข้าไปหา “ล๋ายเย่จ๊ะ ทำไมลงมาคนเดียวล่ะ? อากาศหนาวขนาดนี้ พระอาทิตย์มีอยู่นิดเดียวจะไปอบอุ่นอะไร? ระวังจะเป็นหวัดเอา” เขาก็ไม่ได้นำเสื้อนอกลงมาด้วย ดังนั้นเมื่อเดินมาถึงด้านหลังของเด็กสาว จึงเตรียมจะพาเธอกลับไป แต่เมื่อเด็กสาวได้ยินเสียงของเขา จึงหันกลับมามอง “อากิยามะคะ คุณดูสิ พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว” ใบหน้าอันขาวซีดของเธอเผยให้เห็นรอยยิ้ม แขนทั้งสองข้างของเธอกางออกและหงายมือขึ้น คล้ายกับนั่นเป็นแสงอาทิตย์ที่เธอจับไว้สองกำมืออย่างนั้น เธอมีความสุขออกปานนั้นทั้งยังตั้งตารอคอยอย่างนั้น แต่คณาธิปกลับหดหู่เล็กน้อย เพราะเขาได้ยินว่าเธอเรียกเขาว่าอากิยามะไม่ใช่ที่รัก “เอาล่ะ อากาศเย็น พวกเรากลับกันเถอะ” เขาข่มอารมณ์ไว้ คิดอยากจะพาเธอกลับไป แต่เด็กสาวคนนี้กลับเอามือน้อยๆที่เย็นเยียบของเธอ ยื่นออกมาหาฝ่ามือของเขาแล้วจับเขาเสียแน่น ดวงตาหลุบมองภาพเบื้องหน้าเหมือนปักหลักอย่างนั้น