ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1446 พิมแสง เธอกำลังประพฤติตนไม่ดีอยู่ใช่ไหม
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1446 พิมแสง เธอกำลังประพฤติตนไม่ดีอยู่ใช่ไหม?
ตาของเส้นหมี่แดงๆ
แต่ผู้หญิงคนนี้ หลังจากที่มองเห็นเธอ กลับวางชามบะหมี่ในมือนั้นลงอย่างตื่นตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูกในทันที
“สวยใส เธออย่าเข้าใจผิดนะ ฉันทานมาเรียบร้อยแล้ว ก็แค่หิวนิดหน่อยน่ะ เธอก็รู้นี่ คนท้อง มักจะหิวได้ง่ายมากๆเลยนะ”
“……”
ใครจะไปฟังคำอธิบายของเธอกันล่ะ?
เส้นหมี่เอื้อมมือไปแตะชามบะหมี่นี้ แล้วมองชามและตะเกียบที่สกปรกกองเต็มอยู่ภายในห้องครัวเพียงเเวบเดียว ด้วยความเดือดดาลอย่างมากเธอจึงวิ่งไปทิศทางห้องรับแขกของตระกูลโรแกน
ผลลัพธ์ พอเธอไปถึงที่นั่นแล้ว ไม่เพียงแค่มองเห็นพี่เขยและพี่สาวของมาร์ติน รวมไปถึงพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่ทั้งสองคนด้วย ต่างก็กำลังเล่นไพ่นกกระจอกอยู่ที่นั่น ภายในห้องรับแขกอันอบอุ่น
ลูกของพวกเขาสองคน ต่างก็เป็นนักเรียนชั้นมัธยมต้นกันแล้ว ก็กำลังเล่นเกม เปิดโทรทัศน์จนเสียงดังลั่นอยู่ที่นั่น
มันเข้าท่าไหมเนี้ย?
วันขึ้นปีใหม่ คนที่มีมือมีเท้าไม่ขยับตัวกันเลยสักนิด แต่กลับให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ท้องเจ็ดเดือนคนหนึ่งสาละวนอยู่กับงานแทน พวกเขาเป็นคนตายด้านกันหมดแล้วเหรอ?
เส้นหมี่พุ่งเข้ามาแล้ว
“นี่พวกพี่กำลังทำอะไรกันอยู่คะ? ทานอาหารที่ผู้หญิงกำลังท้องกำลังไส้คนหนึ่งทำ กลืนกันได้ลงด้วยเหรอ?”
“หา?”
ทั้งสี่คนที่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานอยู่บนโต๊ะกระดานนั้น จู่ๆก็มองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา พวกเขาจึงอึ้งกันไปสักพักหนึ่ง
“เส้นหมี่ ทำไมเเกถึงมาในเวลานี้ได้ล่ะ?”
เป็นมารี หลังจากที่รู้ว่าเป็นเธอ ความประหลาดใจจึงเผยอยู่บนใบหน้า
มาในเวลานี้?
หรือว่า พวกพี่เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วเหรอว่าเธอจะมาเมื่อไหร่?
เส้นหมี่ยิ่งเดือดดาลเข้าไปอีก ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น ตรงหรี่เข้ามาเริ่มถามด้วยเสียงเคร่งขรึมและเฉียบขาดว่า : “ฉันถามว่าพวกพี่กำลังทำอะไรกันอยู่? มองไม่เห็นว่าคนกำลังท้องกำลังไส้สาละวนอยู่กับงานในห้องครัวกันเหรอคะ?”
“อ่อ นั่นนะเหรอ” มารีได้ยินแล้ว ถึงจะมองไปที่ห้องครัวเพียงเเวบเดียว
“ตัวเธอน่ะจะทำเองอยู่แล้ว เป็นครั้งแรกที่กลับตระกูลโรแกน ก็ต้องทำตัวให้ดีสักหน่อยสิ เมื่อวานก็ตกลงกันไว้แล้วว่า เธอจะมาทำอาหารเช้าให้พวกเราวันนี้ตอนเช้า ดังนั้นพวกเราก็เลยตามใจเธอน่ะสิ”
ผู้หญิงคนนี้ นึกไม่ถึงว่าจะทำท่าทางราวกับว่าเรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับตัวเองจึงไม่ใส่ อีกทั้งยังรู้สึกสงบและสบายใจเสียด้วยซ้ำไป
“ทำตัวให้ดีเหรอ?”
นี่เขาดูถูกพิมแสงมากแค่ไหนกัน ถึงจะเอ่ยสองคำแบบนี้ออกมาได้?
หากว่าเป็นครอบครัวทั่วๆไป อุตส่าห์ได้ลูกสะใภ้คนใหม่กลับมาทั้งที คนของครอบครัวฝ่ายสามี ก็ต้องประคับประคองเสียด้วยซ้ำ เธอบอกว่าอยากทำอะไร ก็ปล่อยให้เธอไปทำจริงๆน่ะเหรอ?
แถมยังจะเอ่ยคำหยามเหยียดแบบนี้ออกมาอีกด้วย?
เส้นหมี่เดือดดาลจนถึงที่สุดแล้ว จึงยิ้มอย่างเย็นชาเอ่ยว่า : “อ๋อเหรอ? งั้นตอนนี้น้องมาแล้ว คุณหนูใหญ่ตระกูลโรแกนอย่างพี่เนี่ยก็ไปทำตัวให้ดีๆสักหน่อยได้แล้วล่ะคะ ไม่แน่ว่าน้องพอใจขึ้นมา อาจจะตบรางวัลเป็นบ้านหนึ่งหลังแก่พี่ก็ได้นะ”
“นี่แกพูดอะไรน่ะ?”
มารีเกิดพาลโกรธเคืองขึ้นมาเสียดื้อๆ
ส่วนสามีของเธอ ก็ยืนขึ้นมาด้วยสีหน้าหม่นหมองเอ่ยว่า : เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เธอพูดแบบนี้มันเกินเลยไปไหม? พวกเราเป็นญาติของเธอนะ เธอพูดเเบบนี้ ไม่รู้สึกว่าหยามเหยียดกันเกินไปหน่อยเหรอ?”
“หยามเหยียด? ” พอได้ยินคำพูดนี้ เส้นหมี่ก็เเหน็บเเนมอย่างเสียดแทงอีกครั้งที่นั่น
“พวกพี่ยังรู้สึกว่าหยามเหยียดกันด้วยเหรอคะ? แล้วสิ่งที่ภรรยาของพี่พูดเมื่อกี้นี้ล่ะ? พวกพี่ปล่อยให้เธอทำตัวดีๆ แต่ว่าไม่มีอะไรทั้งสิ้น ส่วนน้อง หากพวกพี่ทำตัวดีๆกันแล้ว น้องยังให้บ้านตั้งหนึ่งหลังแก่พี่ด้วย ใครหยามเหยียดใครกันแน่?”
“แก—”
“เอาล่ะๆ ทุกคนอย่าทะเลาะกันอีกเลยนะ หมี่ เธออย่าโมโหไปเลย ตอนนี้เราไปช่วยพิมแสงกันเถอะ”
สุดท้าย ก็เป็นลูกคนโตตระกูลโรแกนเป็นผู้เอ่ยปาก พาภรรยาออกไปช่วยแล้ว
แต่มารีคนนี้ กลับเห็นว่าพี่ชายของตนเองยอมแพ้ให้ นึกไม่ถึงว่าจะยกมือขึ้นปาไพ่นกกระจอกที่ถืออยู่ทิ้งไว้บนโต๊ะ
“พวกพี่ไป น้องไม่ไปหรอกนะ น้องไม่เคยรับใช้ใครนิ”
“……”
เมื่อตอนที่เส้นหมี่กำลังจะระเบิดอารมณ์อีกครั้ง
ในตอนนี้ แสนรักที่จอดรถอยู่ด้านนอกเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เข้ามาเสียที
พอเขาก้าวเดินเข้าบ้าน ได้ยินประโยคนี้ภายในห้องรับแขก สายตาจึงเปลี่ยนเป็นเย็นชา ฉับพลัน ราวกับว่าทั้งตระกูลโรแกนอุณหภูมิจะลดลงแล้ว
“แสน……รัก นายก็มาแล้วเหรอ”
ในเวลานี้คุณชายใหญ่มาร์ตัสออกมาจากในห้องครัว มองเห็นเขาเข้าพอดี หลังจากหวาดกลัวโดยไร้มูลสายปลายเหตุแล้ว แม้แต่เสียงทักทายก็ยังเชื่องช้าอีกด้วย
แสนรักเมิน
หลังจากที่สาวเท้าเดินเร็วเสมือนดาวตกเข้ามาห้องรับเเขก เขาเห็นบรรยากาศที่นี่อยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดแล้ว และใบหน้าที่เเดงระเรื่อของภรรยาตัวเองที่มีความโมโหหลงเหลืออยู่
เขาจึงเอ่ยถามว่า : “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันเหรอครับ?”
เส้นหมี่ : ไม่มีอะไรหรอกค่ะ น้องก็แค่เห็นว่าหลังจากที่เรามาถึงกันแล้ว แม้แต่น้ำสักแก้วก็ยังไม่ได้ดื่มเลยค่ะ ให้คุณหนูใหญ่มารีรินน้ำให้น้องสักแก้วหนึ่ง แต่ว่าดูเหมือนว่าพี่เขาไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่เลยค่ะ”
“พี่เปล่าสักหน่อย”
เอ่ยคำพวกนี้ออกมา ผู้หญิงหวาดกลัวและลนลาน หลังจากที่เห็นลูกพี่ลูกน้องคนนี้เข้ามา จึงลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ทันที
“พี่ปล่าวนะ รัก วันนี้พวกนายเป็นเเขก พี่จะไม่รินชาให้พวกนายได้ยังไงกันล่ะ พี่……”
เธอรีบร้อนอธิบาย
แต่ว่า เธอพูดยังไม่ทันจบ คนที่หน้าสะพรึงกลัวคนนี้ ก็มีเสียง “ปัง” แล้ว—
พลิกโต๊ะกระดานทั้งหมดในห้องรับเเขกนี้!
ในชั่วพริบตา หลังจากที่เสียงดังสะเทือน ไพ่นกกระจอกทั้งหมดล้วนตกอยู่บนพื้น เป็นเวลาอยู่นาน บรรยากาศภายในห้องรับแขกนี้ ประดุจว่าเข้าไปในนรกอเวจี
หน้ากลัวเกินไปแล้ว!
คนตระกูลโรแกนตะลึงงันกันไปเลยทีเดียว
ส่วนมารีคนนี้ หลังจากทั้งเนื้อทั้งตัวสั่นอย่างรุนแรง เธอกลัวจนห้ามใจตัวเองไม่ได้ที่จะโอบศรีษะของตนเองไว้ และหดอยู่ด้านหลังตลอด
“เล่นสิ่งนี้ในวันขึ้นปีใหม่ ตอนนี้นายบอกพี่ได้รึยัง? นายเคยเห็นใครในบ้านเล่นสิ่งนี้เมื่อมีเเขกมาในวันขึ้นปีใหม่กันหรือปล่าว? มาร์ติน ตระกูลโรเเกนของพวกนายจบเห่แล้ว!”
สุดท้ายเขาก็เงยหน้าขึ้น และสายตาที่เป็นดั่งคมมีดนั้น ก็ส่องไปทางบนบันไดโดยตรง
นั่นคือมาร์ตินอย่างแน่นอน
หลังจากที่เขาได้ยินการเคลื่อนไหว ในที่สุดก็ลงมาได้เสียที