ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 145 เขาร้อนใจ
ในตอนที่เคมีได้รับโทรศัพท์ เขาเองก็เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จแล้วมานอนเล่นอยู่บนเตียง
ทันทีที่รู้เรื่อง เขาก็ต้องตกใจจนหยัดกายลุกขึ้นนั่ง“ นายล้อเล่นหรือเปล่า ? คุณเส้นหมี่พาลูกหนีไปแล้ว ? จะเป็นไปได้ยังไง?!”
“ผู้ช่วยเค ผมเหมือนคนที่กำลังล้อคุณเล่นอยู่หรือไง ? คุณรีบให้คนออกไปตามหาตัวเร็วๆเถอะ ทั้งที่สนามบิน ท่ารถ ท่าเรือ……ทุกที่ ที่สามารถจะเดินทางออกไปจากเมือง A ได้ ตรวจสอบอย่างละเอียด ท่านประธานตอนนี้แทบบ้าไปแล้ว !”
คนที่โทรมา คือบอดี้การด์เอชเจที่คอยติดตามแสนรักอยู่ตลอด เมื่อได้ยินคำพูดของเคมี เขาก็พูดเตือนชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นมาทันที
เคมีตะลึงงัน
หนีไปแล้วจริงๆเหรอ !
โอ้พระเจ้า ผู้หญิงคนนั้นเป็นบ้าอะไร ? ทำไมจู่ๆถึงได้เล่นใหญ่แบบนี้ ?
เคมีไม่กล้านอนอยู่บนเตียงต่อ กระโดดลงมาแล้วจัดการหาคนในทันที
แต่แล้ว ที่ทำพวกเขาผิดหวังอย่างที่สุดก็คือ ตลอดทั้งคืน ต่อให้จะตามคนมาทั้งหิรัญชากรุ๊ป ก็ไม่เจอแม้แต่เงาของแม่ลูกเลย
พวกเขาตรวจสอบที่สนามบิน ท่าเรือ ท่ารถ ตลอดจน ทางหลวงทุกสายก็เช็กมาหมดแล้ว ไม่มีแม้แต่ร่องรอยใดๆเลย
และคนที่อยู่ในเมือง ก็แทบจะพลิกทั้งเมืองหากันแล้ว แต่ก็ไม่พบร่องรอยอะไรเลยเช่นกัน!
เพราะอะไร ?
มันแปลกมาก หรือเธอจะหายไปในอากาศได้ ?
แสนรักที่รออยู่ที่ตระกูลอัครนันท์ก็แทบควบคุมตัวเองไม่อยู่ ใกล้รุ่งสางแล้วก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร เขาเดินปรี่เข้ามาแล้วคว้าหมับเข้าที่ลำคอของธนาตย์!
“ผมให้เวลาคุณอีกสามวินาที หากคุณยังไม่บอกที่อยู่ของพวกเขามา ผมจะฆ่าคุณทันที!”
ชายหนุ่มจ้องเขม็งมองเขา ไอสังหารแผ่ซ่าน กับดวงตาที่แดงก่ำ ไม่ต้องสงสัยเลยสักนิด หากตอนนี้ธนาตย์ไม่พูดอะไรที่เป็นประโยชน์ออกมา
ถ้าอย่างนั้น มือของชายหนุ่มก็จะสามารถหักคอของเขาได้เลยจริงๆ
แต่ธนาตย์กลับเป็นคนไม่กลัวตาย
ชายหนุ่มขู่เขา เขาก็สบถด่าออกมาทันที“ เก่งนักก็ฆ่าเลย ฉันก็ไม่มีทางบอกแกหรอก แกมันไอสารเลว!”
“กึก——”
“หยุดนะ!”
โชคดีที่ในตอนนี้ ป้าสาธินีก็อยู่ด้วยพอดี หลังจากที่เห็นภาพๆนี้ ในเสี้ยววินาที ก็ปรี่เข้ามาแล้วคว้าหมับไปที่มือของแสนรักแน่น
“รัก ใจเย็นๆก่อน เรื่องที่หมี่พาลูกๆหนีไป เราไม่รู้เรื่องจริงๆ เราเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเธอสองคน ? ตั้งแต่คราวนั้นที่เธอได้รับบาดเจ็บและไปพักอาศัยอยู่กับเรา ติดต่อมาหาพวกเรา น้ำเสียงของเธอก็ฟังดูอารมณ์ดีอย่างมาก เราจะไปรู้ได้ยังไงว่าจู่ๆเธอจะมาพาตัวลูกหนีหายไปแบบนี้?”
“……”
แสนรักไม่ได้พูดอะไร แต่ทว่า ริมฝีปากของเขาที่เม้มกันแน่น ก็เปลี่ยนเป็นสีซีดขึ้นมา
เมื่อสาธินีเห็น ก็พูดต่ออีกว่า “ดังนั้น เราพูดเรื่องของเราก่อนไหม เรามาคิดวิเคราะห์ด้วยกัน ว่ายังไง?”
เธอพยายามให้เขาพูดต้นสายปลายเหตุออกมา แล้วค่อยมาคิดแก้ไขปัญหา
แต่ว่า แสนรักจะยอมพูดเหรอ ?
เป็นไปไม่ได้!
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาเองก็รู้ดี ว่าชนวนเหตุของเรื่องนี้มันเกิดจากอะไร ?
คือเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนบ่าย!
เขาคิดว่า เธอไม่ได้โกรธ และไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ที่แท้แล้ว เธอก็กำลังแสดงมันอยู่ เพิกเฉยไม่สนใจเขา พอตกกลางคืน ก็ใช้ไม้ตายกับเขา
เธอช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน เรียกได้ว่าเฉียบขาดอย่างมาก!
ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทั้งเธอทั้งลูกหายไปอย่างไร้ร่องรอย และเขา ก็แทบจะพลิกทั้งเมืองเพื่อหาตัวเธอแล้ว แต่ก็ไม่พบร่องรอยอะไรของพวกเขาเลย นี่มันอะไรกัน? ระเหยหายไปจากโลกหรือยังไง ?
ต่อไปจะไม่ปรากฏตัวให้เห็นอีกแล้วใช่ไหม?
จู่ๆเขาก็นึกไปถึงเมื่อห้าปีที่แล้ว ทันใดนั้น หัวสมองก็ว่างเปล่าไปชั่วขณะ หลายปีมานี้ คนที่ผ่านอุปสรรคมากมายมาอย่างเขา นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ขึ้นมา
ร้อนรน!
ไม่มีช่องทางในการต่อต้านใดๆ
“รัก?”
“……”
“คุณชายรัก ฉันรู้ว่าเธอน่าจะไปที่ไหนได้บ้าง ?”
ทันใดนั้น ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ ข้างนอกก็มีคนเดินเข้ามา
เมื่อสาธินีได้ยิน ก็หันหลังแล้วมองไป
ใช่แล้ว คนคนนี้คือลูกสาวของพวกเขา แต่งฝัน
แต่แล้ว หลังจากที่แต่งฝันเดินเข้ามา ก็ไม่ได้สนใจแม่ของเธอเลย แต่กลับตรงดิ่งมาที่ตรงหน้าของแสนรัก
“คุณชายรัก ลูกพี่ลูกน้องของฉันคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ตอนนั้นที่เธอแกล้งตายแล้วใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก ก็ช่วยแม่ของฉันใช้หนี้ไปจำนวนไม่น้อย เธอเก่งพอตัวใช่ย่อย ”
“แต่งฝัน นี่เธอกำลังพูดเรื่องอะไร ? หุบปากไปเลยนะ !”
“หนูพูดผิดตรงไหน ? ตอนนั้นเธอให้เงินแม่ไปไม่น้อยเลยไม่ใช่เหรอ ? แม่วางใจเถอะ หนูไม่บอกชื่อเสี่ยคนนั้นของเธอหรอก หนูแค่อยากให้คุณชายรักหาลูกชายเจอ เพราะยังไง นั้นมันก็เลือดเนื้อของเขา จะไปอยู่กับคนอื่นได้ไง……”
“เพี้ยะ——”
ยังไม่ทันจะได้พูดจบ ในที่สุด สาธินีที่โกรธจนยั้งอารมณ์ไม่อยู่ ก็ลุกขึ้นแล้วตบไปที่ใบหน้าของเธอหนึ่งฉาด!
เธอช่างเป็นความอัปยศของตระกูลอัครนันท์เสียจริง!
ภายในห้องรับแขกที่โกลาหล ในตอนนี้ก็เงียบลงอีกครั้ง
และครั้งนี้ เพราะคำพูดของแต่งฝัน บรรยากาศก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้นไปอีก ความมืดมนขนาดใหญ่ที่ราวกับการบุกประชิดของกองทัพ ราวกับมันกำลังจะจมดิ่ง อันตราย อาฆาต และเย็นเยือกรุนแรง……
ทุกอย่างอยู่ในนั้น
แค่มอง ก็ถึงกับสั่นสะท้าน!
“ระ……รัก อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของเธอเลย เธอไม่รู้เรื่อง มันก็แค่……”
“พูดต่อไป!”