ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 181 เธอได้ตั้งตารอคอยเขาหรือไม่?
วันนี้หลังจากเส้นหมี่กำจัดแสงดาวที่โรงพยาบาลแล้ว ก็รู้สึกดีสุดๆไปทั้งวัน
สี่โมงเย็น เธอต้องไปรับลูกแล้ว
“ขอโทษค่ะ ฉันเลิกงานก่อนนะคะ คนไข้คนนี้คุณช่วยดูแลแทนฉันก่อนนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เข้างาน ฉันจะดูอีกทีว่าผ่าตัดได้ไหม?”
ก่อนไป เนื่องจากวันนี้ได้รับคนไข้ถุงลมโป่งพองที่ต้องผ่าตัด เส้นหมี่จึงกำชับหมอเข้าเวรคนต่อไปโดยเฉพาะว่า ให้เขาคอยระวังให้ด้วย
หมอรับแฟ้มมา แล้วพยักหน้า
“ครับ หัวหน้า แต่ว่า ทำไมถึงให้คนไข้แบบนี้กับคุณล่ะ?คุณเป็นแพทย์แผนจีน ถ้าต้องผ่าตัด ก็ช่วยไม่ได้นี่ครับ?”
“ได้ยินว่าแพ้ยาชา ดังนั้น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลยให้ฉันฝังเข็มระงับความรู้สึกให้เขาตอนผ่าตัด”
เส้นหมี่ถอดเสื้อกาวน์บนตัวไป อธิบายกับหมอคนนี้ไปด้วย
เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นบ่อยจริงๆ บางคนเกิดมาก็แพ้ยาชาอยู่แล้ว เวลานั้น หมอจึงได้แต่หาทางระงับความรู้สึกอย่างอื่นให้คนไข้
และการฝังเข็มของจีน ก็ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
เส้นหมี่ออกไปจากโรงพยาบาล เรียกรถไปรับลูกที่โรงเรียนอนุบาล
คืนนี้จะทำอะไรอีกดีนะ?
ระหว่างทางที่เธอไป ในหัวก็คิดว่าอาหารเย็นคืนนี้จะเอาอย่างไรดี?
ยังไง ตอนค่ำก็ไม่ได้มีแค่พวกเขาสามคนแม่ลูกกินข้าวอีกต่อไปแล้ว
แต่ว่า พอเธอถึงโรงเรียนอนุบาล รับเด็กๆทั้งสามคนแล้ว กลับเห็นว่าทุกคนดูหดหู่
“พวกลูกเป็นอะไรกัน?ทำไมดูเหี่ยวเฉากันแบบนี้ล่ะ?”เส้นหมี่เห็น จึงถามอย่างแปลกใจ
พวกเด็กๆ:……
อยากจะพูดอะไร แต่สุดท้าย ก็ถูกคุณชายคิวที่หัวไวหยุดไว้
“พวกเราอย่าเพิ่งท้อกันเลย แค่แด๊ดดี้บอกว่าไม่มีเวลา ไม่แน่ตอนดึกเขาเลิกงานแล้วอาจจะว่างก็ได้?”
“ใช่ค่ะ”
หนูรินจังก็ช่วยพูดเสริมไปด้วยข้างๆพี่อิคคิว
ชินจังได้ยิน จึงอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย จากนั้นเด็กสามคนก็กลับไป กับหม่ามี๊อย่างมีความสุข
“เด็กๆจ้ะ คืนนี้พวกลูกอยากกินอะไรล่ะ?”
“หนูอยากกินปลา ปลาที่หม่ามี๊นึ่งทั้งหอมและทั้งนุ่ม!”
“อืม……ผมอยากกินซี่โครงหมู ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน ใส่น้ำตาลเยอะๆนะ หม่ามี๊”
ตอนที่สี่คนแม่ลูกไปซูเปอร์มาร์เก็ต ได้ยินเส้นหมี่ถามพวกเขาว่าอยากกินอะไร ก็พูดกันอย่างเจื้อยแจ้วทันที แต่ละคนดูมีความสุข
เส้นหมี่ก็หัวเราะจำไว้ในใจเงียบๆ
แต่ว่า เธอพบว่ามีเด็กคนหนึ่งไม่พูด และเด็กคนนี้ ก็คือคุณชายน้อยชินจังที่อยู่ดีกินดีตั้งแต่เด็กของพวกเขา
เด็กคนนี้ กลัวว่าจะไม่รู้จักสิ่งเหล่านี้น่ะสิ
เส้นหมี่ก้มหน้าลงมองก็เห็นเขาถือตะกร้าใบเล็กเช่นกัน แต่พอถึงโซนอาหารแล้ว เห็นน้องชายน้องสาวพูดอยากกินนั่นอยากกินนี่ไม่หยุด ส่วนเขากลับเป็นเด็กที่ไม่รู้จักอะไรจนดูร้อนรนขึ้นมา
เธออยากจะขำเล็กน้อย
“ชินชิน ลูกอยากกินอะไรล่ะ?ไม่งั้น คืนนี้หม่ามี๊ทำหอยเชลล์อบวุ้นเส้นให้ลูกกินไหม?”
เธอพาลูก มาที่โซนอาหารทะเลแล้วชี้หอยเชลล์ที่กำลังเป่าฟองออกมาอย่างมีความสุขด้านใน
ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นของชินจังดูมีชีวิตชีวาทันที:“อือ!”
เขาพยักหน้าเล็กๆแรงๆอีกครั้ง สื่อว่ารับคำแนะนำของหม่ามี๊อย่างเต็มใจ
ดังนั้นเส้นหมี่ให้พนักงานชั่งหอยเชลล์ที่เนื้อแน่นและสวยหลายตัวให้เธอ
ซื้อเสร็จ สี่คนแม่ลูกจะออกไป แต่จู่ๆ ชินจังก็ดึงเธอไว้“แล้วแด๊ดดี้ล่ะ?”
“อ๋า?”เส้นหมี่ตะลึงอยู่ตรงนั้น
แด๊ดดี้เขา?
ลึกลงไปในใจเธอชะงักลงอย่างไร้เหตุผล ใบหน้าดูอึดอัดเล็กน้อยทันที ต่อต้านเล็กน้อย ไม่ค่อยอยากให้คนๆนี้มากินข้าวที่คอนโดเธออีก
เมื่อคืน บรรยากาศยังน่าอึดอัดไม่พอเหรอ?
แต่สุดท้าย เธอก็ไปโซนเนื้อสัตว์แล้วเลือกสเต๊กเนื้อวัวเกรดดีที่สวยมากชิ้นหนึ่งมา ภายใต้สายตาที่คาดหวังของลูกชายคนนี้
“เอาล่ะ ของแด๊ดดี้ก็ซื้อมาแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ”
“ครับ!”
ในที่สุดชินจังก็พยักหน้าอย่างดีใจ
สองสามชั่วโมงถัดมา ในคอนโด
เส้นหมี่มองสเต๊กชิ้นนั้นที่วางอยู่ในจานจนเย็นบนโต๊ะอาหาร ก็ผิดหวังเล็กน้อย
สเต๊กนี้ เธอใช้ความคิดอย่างมากในการจี่ ไม่ใช่แค่เปลืองน้ำมัน เครื่องปรุงจำนวนมาก แต่ยังสิ้นเปลืองแก๊สของเธอด้วย เป็นอะไรที่สิ้นเปลืองจริงๆ
เส้นหมี่เก็บชามตะเกียบที่กินหมดแล้ว จากนั้นถือสเต๊กนี้เข้ามา แล้วเททิ้งลงถังขยะโดยไม่พูดอะไรทั้งนั้น!
คุณชายคิว:“……”
ชินจัง:“……”
แม้แต่หนูรินจังที่ยืนอยู่ข้างหม่ามี๊มาตลอด ตอนนี้ก็รู้สึกถึงลมหายใจอันเยือกเย็นจากตัวหม่ามี๊ ก็ไม่พูดอะไร มองภาพการกระทำของเธออย่างเป็นเด็กดี
คืนนั้น บรรยากาศในคอนโดไม่มีความสุขอย่างเมื่อคืน
ดังนั้นหลังจากเข้านอน ในห้องนอนเด็กที่มืดมิด คุณชายคิวเข้าไปในใต้ผ้าห่มของพี่ชาย แล้วเริ่มบ่นอย่างไม่พอใจ:“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?ทำไมคืนนี้แด๊ดดี้ไม่มา?”
ชินจัง:“……”
เขาก็อธิบายไม่ได้ ได้แต่งอนไม่พูดอะไรตรงนั้น
คุณชายคิวเห็น ก็ได้แต่ถอนหายใจ:“ช่างเถอะ พวกเราค่อยหาทางอื่นละกัน แด๊ดดี้อาจจะยุ่งจริงๆ ใช่สิ วันนี้ที่โรงเรียนอนุบาลเหมือนบอกว่าจะมีฉลองเทศกาล”
“อะไรเหรอ?”
ในความมืดนั้น ชินจังไม่ค่อยเข้าใจที่น้องชายพูดเท่าไหร่
ทันใดนั้นคุณชายคิวก็หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ขึ้นมาข้างๆเขา:“ฉันรู้แล้วต้องทำอย่างไร พวกเราให้โรงเรียนอนุบาลจัดกิจกรรมได้ จากนั้นให้พ่อแม่มาเล่มเกมที่โรงเรียนอนุบาล หึหึ!”