ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 255 สามีเก่าคุณเป็นคนบ้าหรือ?
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 255 สามีเก่าคุณเป็นคนบ้าหรือ?
“พรุ่งนี้ให้ดลธีพาคุณไป”
“อ๋า?”
“แล้วก็ กลับมาก่อนสามโมง”
เขาไม่ให้ช่องว่างในการเจรจาใดๆ หลังจากพูดเงื่อนไขทั้งสองนี้ออกมาแล้ว ความสนใจก็ไปอยู่ที่คอมพิวเตอร์ตรงหน้า
ไม่รู้ว่าใช่ภาพลวงตาของเส้นหมี่หรือไม่?
เธอดันรู้สึกถึงความเยือกเย็นที่เข้ามาในตัวเขา ดวงตาที่เมื่อกี๊ยังนิ่งสงบ ตอนนี้ดูหม่นหมองจนน่าตกใจ มองดูแล้วน่ากลัวมาก
“……โอเค งั้นฉันลงไปก่อนนะ”
เส้นหมี่รีบเทชาให้เสร็จ จากนั้นก็ยืนขึ้นมาแล้วออกไปเหมือนกับกำลังหนี
บริษัทเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกหรือเปล่า?
แต่ว่ายังดี เขารับปากเธอแล้ว แค่รับปาก งั้นเขามีเรื่องอะไร ก็ไม่เกี่ยวกับเธอ
พอเส้นหมี่กลับมาถึงห้องของตัวเองแล้ว ก็เอาข่าวดีนี้บอกมาร์ติน:“มาร์ติน เขาตกลงแล้ว พรุ่งนี้ฉันออกไปได้ แต่ว่า มีคนตามฉันไปด้วยนะ แล้วก็ ต้องกลับมาสามโมง”
มาร์ตินกระทืบเท้าด้วยความโมโหทันที:“ก่อนสามโมง?ก่อนสามโมงงานแต่งของตระกูลสิริศรเพิ่งจะเริ่มเอง แล้วเธอจะไปทำบ้าอะไร?”
ผู้ชายคนนี้ ปากเสียอีกแล้ว!
เส้นหมี่ทำอะไรไม่ได้:“ฉันมีทางอื่นด้วยหรือ?ตอนนี้ฉันทำให้เขายอมให้ฉันออกไปได้ก็ดีแล้วค่ะ คุณยังอยากให้เขาตามใจฉันอีกมากแค่ไหน?”
มาร์ติน:“……”
ช่างเถอะ ถึงตอนนั้นค่อยคิดหาทางละกัน
บางทีก่อนงานแต่ง สุขาวดีอาจจะถึงแล้วก็ได้ ยังไงเธอก็สนิทกับตระกูลสิริศร
สุดท้ายทั้งสองก็ตกลงตามนี้
แต่ ที่ทำให้เส้นหมี่คิดไม่ถึงก็คือ เช้าวันถัดมาที่เธอตื่น ยังไม่ออกเดินทาง จู่ๆ มาร์ตินกลับโทรศัพท์มา บอกเรื่องหนึ่งกับเธอที่ทำให้ช็อกมากๆ
“ยัยโง่ เธอเห็นหรือยัง?ตอนนี้ในเน็ตมีคนกำลังพูดว่าแสนรักเป็นโรคประสาทน่ะ”
“คุณพูดอะไรน่ะ?”สีหน้าเส้นหมี่เปลี่ยนไปทันที หวีที่กำลังถืออยู่ในมือ ก็เกือบจะหล่นลงไปที่พื้น
โรคประสาท?
เป็นแบบนี้ได้ไง?เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
เธอตกใจมาก ปล่อยหวีตกลงไปโดยตรง จะไปเปิด ipad ที่ตู้หัวเตียง
มาร์ตินยังคงพูดร่ำไรในโทรศัพท์:“แสนรักไง เธอไม่ได้เข้าเน็ตใช่ไหม?เพราะการปรากฏตัวของหนังสือเล่มหนึ่ง จู่ๆ ก็มีคนบอกว่า คนๆนี้มีภาพลักษณ์เหมือนแสนรักมาก ดังนั้นตอนนี้คนในเน็ตเลยถกเถียงกันอยู่”
สีหน้าเส้นหมี่ซีดอีกครั้ง
เธอไม่ได้ฟังเขาพูดอีกต่อไป เธอเปิดแท็บเล็ตแล้ว คลิกเปิดไปที่หน้าเว็บโดยตรง
กลับเห็นว่า พอเปิดอินเทอร์เน็ตนี้แล้ว ก็จริงด้วย บนเว็บไซต์หลายแห่งนี้มีการเข้าชมมากเป็นพิเศษ มองไปเห็นคำแบบนี้ทันที รวมทั้งหนังสือที่แนบมา
《เข็มใจ》!
ที่พูดอยู่คือเล่ม《เข็มใจ》นั่นหรือ?!!
เส้นหมี่มือสั่นอย่างรุนแรง
เธออดกลั้นความตื่นตระหนกที่มีอยู่ในใจมหาศาล ค่อยๆ มองไป พบว่ามีคนสงสัยถึงตัวประธานหิรัญชากรุ๊ปจริงๆ เพราะการตั้งภาพลักษณ์ของพระเอกในหนังสือเล่มนี้
เพราะตอนนั้นที่เส้นหมี่กำลังเขียน ยึดเขียนตามผู้ชายคนนี้จริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งลักษณะเด่นของเขาที่ชัดเจน เช่นเส้นหมี่บรรยายตรงหางตาของเขาว่า มีไฝอยู่เม็ดหนึ่ง
ดวงตาที่งดงามราวกับทะเลหมู่ดาว เล็กเล็กน้อย เหมือนกับหางของดาวตก ทิ้งรอยไว้บนแก้มเขาอย่างเงียบๆ เธอกังวลเสมอว่ามันจะนำพาความไม่ดีมาให้เขา แต่ว่า เวลาที่เห็นมัน มักจะหลงใหลเสมอ
ต้องยอมรับว่า การเขียนของเส้นหมี่ตอนนั้นดีมาก
แค่ประโยคสั้นๆ นี้ ตอนนั้นไม่รู้ว่าแฟนๆ หนังสือคลั่งไคล้พระเอกมากแค่ไหน และจากที่บรรยายนี้ ก็ไม่รู้ว่ามีถึงกี่คนที่เพ้อฝันถึงตัวละครนี้
กระทั่งว่า ทำให้เกิดเป็นคาแรกเตอร์การ์ตูน และยังมีการคอสเพลย์ตัวละคร
จนกระทั่งวันนี้ รูปภาพของประธานหิรัญชากรุ๊ปถูกโยงเข้ากับเหตุการณ์ตามชอบ
“เพียะ——”
ในที่สุดแท็บเล็ตที่เส้นหมี่ถือไว้ในมือก็ตกลงไปที่พื้น
เธอสั่นไปทั้งตัว หลังจากที่ความกลัวมหาศาลครอบคลุมไปทั่วบนศีรษะเธอ ทันใดนั้น เธอก็ยืนไม่มั่นคงเท่าไหร่
“ยัยโง่?เธอเป็นอะไรไป?เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”มาร์ตินได้ยินทางนั้นเงียบอยู่นาน ก็ร้อนรนจนพูดออกไปในสาย
ยัยโง่นี่ เธอคงไม่ได้ตกใจกลัวหรอกนะ?
นี่เป็นแค่การคาดเดาอันน่าเบื่อของคนพวกนี้ ไม่ใช่ความจริงเสียหน่อย เธอจะกังวลไปทำไม?
มาร์ตินกลัวว่ายัยโง่นี่จะตกใจจนกลัว รีบปลอบเธอไปอีกครั้ง:“เธออย่ากลัวล่ะ นี่เป็นเรื่องปั้นน้ำเป็นตัว เธอว่าแสนรักบ้าหรือไง?”
เส้นหมี่:“……”
มาร์ติน:“ฉันว่าคนๆ นั้นหาเรื่องอีกแล้วแน่ เธอรอดูเถอะ ถ้าหิรัญชากรุ๊ปเห็น จะต้องจัดการแอคปล่อยข่าวพวกนี้ทันทีแน่นอน แม้แต่ข่าวลือแบบนี้ยังกล้าปล่อยออกมา ไม่กลัวว่าสามีเก่าเธอจะเอาพวกเขาถึงตายโดยไม่เหลือแม้แต่ซากเลย!”
มาร์ตินไม่ใส่ใจเรื่องนี้เลย
แต่ในความเป็นจริง ตอนนี้ความเร็วที่เรื่องนี้พูดถึงกันในเน็ต ถือว่าช้ามากจริงๆ
และก็แค่ไม่กี่บัญชีด้วย บวกกับกำลังพูดถึงเรื่องนี้แล้ว แค่มองก็รู้ว่าเป็นเรื่องของการตลาด ความนิยมก็ไม่ขึ้นมาเลย
เส้นหมี่ตกตะลึง
ไม่กี่วินาทีถัดมา ในที่สุด เธอก็ได้สติคืนมา ทันใดนั้น ความรู้สึกโล่งอกออกมาจากในใจเธอแล้ว เธอก็ตื่นเต้นจนเกือบร้องไห้ออกมา
โชคดี ที่ยังทัน
เธอไปเปลี่ยนชุดทันที จากนั้นถือกระเป๋าออกมา