ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 30 เธอน่าผิดหวังมากจริงๆ
ผู้หญิงคนนี้ ไม่คิดว่าจะมีความสามารถจริงๆ!
ตอนที่แสนรักจะหมดสติไปตอนสุดท้าย ในหัวของเขาปรากฏขึ้นก็คือสิ่งนี้
หลังจากนั้น เขาก็พาความอ่อนเพลียที่มีอย่างหนักหน่วง เข้าสู่ห้วงแห่งความฝันในที่สุด นานมากแล้วจริงๆที่เขาไม่ได้ปิดตาลงได้สนิทแบบนี้
“หลับเสียที….”
หลังจากที่เส้นหมี่เห็นว่าเขาหลับแล้ว ก็ถอนหายใจออกมายาวๆด้วยความโล่งใจ
เข็มนี้ ฝังลงไปได้ไม่ง่ายนัก อาการป่วยของเขาหนักเกินไป จุดลมปราณหลายๆจุดตันไปหมด สิ่งเดียวที่สามารถทำให้เขาหลับได้ก็คือตรงนี้ แต่ดีที่สุดท้ายแล้วเธอยังหาเจอ
เส้นหมี่เก็บเข็ม คิดจะพักผ่อนเสียหน่อย
แต่กลับไม่คาดคิดว่าเธอเพิ่งจะดึงเข็มออกมา แล้วจู่ๆผู้ชายคนที่หลับอยู่นั้น ศีรษะของเขาก็เอียงลงไป เธอเห็นแล้ว ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นหมอ ก็ยื่นมือไปรับเอาไว้
และตกลงมาบนฝ่ามือเธอพอดี
เส้นหมี่ : “…….”
เกือบหนึ่งวินาที อุณหภูมิร่างกายที่ไม่คุ้นเคยที่อยู่ในฝ่ามือ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับถูกอะไรต่อย และเธอก็รีบเก็บมือกลับมาทันทีราวกับถูกไฟช็อต ตื่นตระหนกเสียจนแม้แต่ใบหน้าเล็กๆนั้นซีดขาวไปแล้ว
นี่ช่างน่าขำเสียจริงๆ ทั้งๆที่พวกเขานั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรต่อกันแล้ว เธอเองก็บอกกับตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน สำหรับเธอแล้วเขาเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้ว
แต่ทำไมเธอไปสัมผัสโดนตัวเขาโดยไม่ทันได้ระวัง กลับยังมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบนี้อีกกัน?
ข้อนิ้วของเธอเริ่มซีดขึ้นมาอีกครั้ง มองไปหลังจากที่เห็นผู้ชายคนนี้หลับอยู่ การใช้คำพูดที่เฉียบคมมาข่มคนอื่นและความเยือกเย็นเหมือนปกตินั้นไม่มีอยู่แล้ว มีเพียงแค่ความนุ่มนวล ความขาวเนียนของผิวพรรณ ใบหน้าที่มีมิติ เบ้าตาลึกและขนตาหนาทึบงอนเล็กน้อย ดูเหมือนกับชายหนุ่มที่นอนอยู่ใต้ต้นแมกโนเลียในตอนนั้นเลยอย่างไรอย่างนั้น
เส้นหมี่มองด้วยความเหม่อลอย
“เขาหลับแล้วจริงๆใช่ไหมครับ?”
“?”
เส้นหมี่ตกใจมาก รอจนกระทั่งดึงสติกลับมาได้แล้ว เธอถึงได้พบว่าตอนนี้ทางด้านหลังของเธอ ไม่รู้ว่าชินจังลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และในเวลานี้กำลังเดินมาทางนี้ ใบหน้าเล็กๆที่ดูเยือกเย็นจ้องมองมาทางแด๊ดดี้ของเขา
“ใช่แล้ว เขาหลับแล้วล่ะ ชินชิน ทำไมหนูออกมาอีกล่ะ?ยังไม่นอนเหรอคะ? เสียงดังเกินไปหรือเปล่า?”
เส้นหมี่เก็บอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองทันที เก็บกระเป๋าเข็มข้างๆขึ้นมา
ชินจังไม่ได้สนใจเธอ แต่เดินมายังข้างๆแด๊ดดี้แทน
ความจริงแล้วเขาเป็นห่วงแด๊ดดี้มาก เพียงแต่เด็กคนนี้แสดงออกมาไม่เก่ง เขามีการเข้าสังคมกับคนอื่นน้อยมาก ในบ้านนี้ นอกจากพูดกับแสนรักแล้ว กับคนรับใช้เหล่านั้นเขาก็ไม่ได้สนใจเลยเสียด้วยซ้ำ
“ชินชิน ไม่ต้องเป็นห่วงนะ คุณน้าจะต้องรักษาเขาให้หายอย่างแน่นอน”
“จริงไหมครับ?”
“จริงสิคะ คุณน้าจะบอกหนูให้นะ คุณน้าเป็นหมอที่มีชื่อเสียงมากจริงๆนะ คนไข้ที่คุณน้ารับมา ไม่มีที่รักษาไม่หายเลย”
เพื่อให้เด็กคนนี้วางใจ เส้นหมี่จึงพูดถึงความมีเกียรติที่ตอนที่อยู่โรงพยาบาลเคลียร์เมื่อห้าปีมานี้ของตัวเองขึ้นมา
พูดเสร็จแล้ว นับว่าเห็นคิ้วที่ขมวดเข้าหากันของเขาไม่ได้ขมวดมากแบบนั้นอีกแล้ว
“ครับ!”
ชินจังตอบรับโดยที่ใบหน้าไม่ได้แสดงอาการใดๆออกมา แล้วหันหลังกลับเตรียมจะเดินขึ้นไปด้านบน
เส้นหมี่รู้สึกอึ้งไป : “ชินชิน หนู….จะขึ้นไปแล้วเหรอคะ?”
ชินจัง : “อืม ไปนอนครับ!”
เป็นครั้งแรก เขาตอบคำถามของเธอแล้ว คาดว่าคงจะเป็นเพราะเห็นกับที่เส้นหมี่รักษาแด๊ดดี้เขานั่นเอง
เส้นหมี่เห็นแล้ว รู้สึกได้รับแรงบันดาลใจขึ้นมาทันที เธอรีบตามมา : “ถ้าอย่างนั้นคุณน้าขึ้นไปส่งหนูดีไหม? หนูขึ้นไปคนเดียวไม่ค่อยปลอดภัยนัก”
“ไม่ต้องครับ!”
คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะถูกเขาปฏิเสธอย่างเด็ดขาดอีกครั้ง
เส้นหมี่รู้สึกว่าในใจหดหู่ขึ้นมาทันที
แต่ เธอก็ไม่ยอมแพ้ มีโอกาสได้กลับมาพบกับลูกชายนั้นไม่ใช่เรื่องงาย เธอจะต้องไม่ปล่อยไปแบบนี้อย่างแน่นอน
“ใช่สิ ครั้งนี้ที่คุณน้ามา เอาของอร่อยๆมาให้หนูด้วยนะ หนูหิวหรือยังคะ? เดี๋ยวน้าจะไปเอามาให้เดี๋ยวนี้เลยนะ”
เธอพูดเสร็จแล้ว เธอก็ไม่ได้สนใจว่าเขาจะยอมหรือเปล่า หันกลับกลับไปทางกระเป๋าของตัวเอง และหยิบเอาขนมเปี๊ยะไส้ถั่วเขียวออกมาหนึ่งกล่อง
ขนมเปี๊ยะไส้ถั่วเขียวนี้ เธอทำเองเมื่อตอนช่วงบ่ายที่เธอไปบ้านคุณป้า ตอนนั้นทำให้อิคคิวกับรินจังทาน ทั้งสองคนชอบทานขนมเปี๊ยะไส้ถั่วเขียวที่เธอทำมากที่สุด
แต่ใครจะรู้ว่าต่อมาเคมีโทรมาแล้ว จะบอกว่าเธอมีโอกาสที่จะได้เจอกับลูกชายคนโตคนนี้
เธอจึงเอากล่องสุดท้ายมาที่นี่ด้วย
ถือขนมมาแล้ว เธอเอาส่งให้ลูก แต่คิดไม่ถึงว่า ลูกจะไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอะไรเลย แต่กลับเป็นคนรับใช้ที่อยู่ในห้องรับแขกมาตลอดคนนั้นที่ส่งเสียงออกมาก่อน
“นี่อะไรของคุณน่ะ? จะเอามาให้คุณชายเล็กทานไปทั่วได้ยังไง?”
“ไม่ใช่ค่ะ นี่เป็นของที่ฉันทำเอง วางใจได้ค่ะ ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว”เส้นหมี่เห็นแล้วจึงรีบอธิบายกับเธอ
แต่คนรับใช้คนนี้กลับไม่ฟังเธอเลย หรือพูดได้ว่า เธอไม่ไยดีกับของที่เธอเอามาเลยเสียด้วยซ้ำ
“คุณทำเองก็จะไม่สกปรกอย่างนั้นหรือ? คุณชายของเราเป็นใคร? เป็นคนที่จะให้คนอย่างพวกคุณเอาอะไรมาให้ทานก็ได้อย่างนั้นหรือ? คุณชาย ไม่ต้องไปสนใจเธอหรอกค่ะ พวกเราไปนอนกันดีกว่า”
“เธอ–”
สุดท้ายแล้วเส้นหมี่รู้สึกโมโหเสียจนหน้าซีดไปหมด
เธอเป็นแม่ของเด็กนะ แต่ตอนนี้กลับโดนคนมาพูดว่าของที่เธอทำออกมานั้นไม่คู่ควรที่จะให้ลูกทานเสียอย่างนั้น
เส้นหมี่มองร่างเล็กๆที่ถูกพาตัวไปด้วยขอบตาที่แดงก่ำ เวลานี้ ในใจของเธอนั้นรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมมาก เหมือนกับหัวใจโดนมีดแทงอย่างไรอย่างนั้น ทำให้เธอรู้สึกแย่เสียจนน้ำตาแทบจะไหลออกมาตรงนั้นเลยอีกด้วย