ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 358 ใกล้กันจนเธอได้ยินเสียงหัวใจเต้นของเขา……
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 358 ใกล้กันจนเธอได้ยินเสียงหัวใจเต้นของเขา……
ดลธีไป บวกกับผู้หญิงพวกนั้นก็หนีไปด้วย ในห้องส่วนตัวที่เละเทะนี้ จึงเหลือแค่เส้นหมี่กับแสนรักเพียงสองคน
แน่นอนว่า ที่จริงเส้นหมี่ก็อยากไปจริงๆ
แต่ว่า ตอนนี้เธอเจ็บไปทั้งตัว โดยเฉพาะที่หัวและมือทั้งสองข้าง เหมือนจะหักเสียอย่างนั้น เธอกลัวว่าเดินไปแล้วจะน่าอาย เธอไม่อยากให้คนๆ นี้เห็น
ดังนั้น เธอจึงรออยู่ตรงนั้น
“คุณยังจะอยู่ที่นี่ทำไมอีก?คิดถึงรสชาติที่นี่หรือไง?”แสนรักหยิบทิชชูมาเช็ดเลือดที่มือ แล้วถามอย่างโมโห
เส้นหมี่:“……”
เธอคิดว่านะ เขาไม่มีทางมาช่วยชีวิตเธอโดยเฉพาะหรอก เห็นตอนนี้เขาคืนสู่ความไม่แยแสและเจ้าโมโหตามปกติแล้ว มีความเขาสนใจเธอสักนิดที่ไหนกัน?
เส้นหมี่ละสายตาลงไป สักพัก จึงพยักหน้า:“อือ ไปเดี๋ยวนี้”
จากนั้นเธอก็ฝืน ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องยืนตรงให้ได้ ออกไปจากที่นี่โดยทำเป็นไม่มีอะไร
แต่ว่า เธอยังไม่ทันขยับ ชายหนุ่มที่เช็ดมือสะอาดแล้วก็เข้ามา ก้มหน้ามามอง แล้วจู่ๆ เขาก็ก้มตัวลงตรงหน้าเธออย่างรังเกียจ
เส้นหมี่:“!!!!”
พูดไม่ออกเลย!
ผ่านไปประมาณสี่ห้าวินาที เส้นหมี่ที่ตะลึงงัน จึงได้ยินตัวเองถามไปว่า:“ทำ……ทำอะไรน่ะ?”
“คุณบอกว่าผมทำอะไร?และยังอยากจะให้ผมอุ้มคุณอีก?เส้นหมี่ คุณอย่ามาได้คืบจะเอาศอกสิ!”
น้ำเสียงของชายคนนี้แย่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่คิดว่าเส้นหมี่ไม่อยากให้เขาแบกหลัง แต่อยากให้เขาอุ้ม สายตานั้นจ้องเธอจนจะเป็นหลุม
เส้นหมี่เหมือนโดนฟ้าผ่า
ไม่ เธอไม่ได้ได้คืบจะเอาศอก
แต่ว่า ตอนนี้เขาจะแบกเธอ เธอรู้สึกกลัวมาก!!
เส้นหมี่หน้าแดง เข้าไปอธิบาย:“ไม่ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนี้ ฉันแค่……”
“ไม่ใช่ก็รีบขึ้นมา ผมไม่มีเวลามาอยู่กับคุณนักหรอกนะ ถ้าไม่ได้เห็นแก่ลูกทั้งสอง ผมก็ไม่สนคุณหรอก”
“……”
ประโยคนี้ ในที่สุดก็ทำลายความถือตัวอันน้อยนิดสุดท้ายของเส้นหมี่ลง
จากนั้น เธอก็ปีนขึ้นไปบนหลังของเขาอย่างสบายใจ
ยังไงซะเขาก็บอกว่าเห็นแก่ลูกๆ นี่
ดังนั้นสุดท้ายแล้ว เส้นหมี่จึงถูกคนๆ นี้แบกออกมา และก็ น่าจะเพราะว่าสุดท้ายแล้วผู้ชายคนนี้พูดคำนั้นออกมา ทำให้เธอละทิ้งเส้นป้องกันจิตใจลงโดยสมบูรณ์
สุดท้ายแล้ว พอเดินไป เธอก็คุยกับคนๆ นี้ขึ้นมา
“ทำไมจู่ๆ คุณก็มาที่นี่ล่ะ?”
“คุณมาได้ ส่วนผมมาไม่ได้หรือไง?”
“ไม่ใช่ มันบังเอิญเกินไป และสถานที่แบบนี้ ยังไงคุณก็ไม่เหมือนคนที่จะมาที่นี่”
เส้นหมี่นอนบนหลังที่กว้างใหญ่ของชายคนนี้ ตอนที่นึกถึงฉากในห้องส่วนตัว ที่จู่ๆ เขาก็เตะประตูเข้ามา เบ้าตาก็แดงก่ำ จึงทำเสียงขึ้นจมูกขึ้นมาอีกครั้ง
ในเวลานั้น เธอประทับใจมากจริงๆ
ไม่ว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไร ในเวลานั้น เธอรู้สึกขอบคุณเขาจริงๆ
แสนรักเอาแต่ก้มหน้ามองเงาที่ทับซ้อนกันของคนสองคนที่อยู่ใต้แสงไฟในซอยนี้ ไฟสลัวมาก แต่เงาของทั้งสองกลับชัดเจน และยังลากยาว
เขาก้มหน้าลง ทำให้เห็นหัวเล็กๆ ที่ยื่นออกมาแอบมองเขาด้านบนหลัง
“ผมกำลังจับตาดูเกมเมอร์ ช่วงนี้เขากำลังค้ามนุษย์”
“อ๋า?” เส้นหมี่ที่อยู่บนหลังก็ตกใจจนอ้าปากกว้าง!
“ค้า……ค้ามนุษย์?”
“ใช่ ดังนั้นตอนที่ผมได้ยินว่าสินค้าของเขาในคืนนี้เป็นคนโง่อย่างคุณ จึงต้องมา เส้นหมี่ ผมยังไม่อยากให้ลูกชายสองคนของผมโตมา แล้วรู้ว่าแม่ของพวกเขาถูกขายต่อหน้าต่อตาผม”
“……”
ในที่สุดเส้นหมี่ไม่พูดอะไรอีก
ในที่สุดเธอก็พบว่า ถึงแม้เขาจะสูญเสียความทรงจำ นิสัยที่เขาไม่สนว่าเธอจะเป็นหรือตาย ก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
ในบรรยากาศที่ไม่ค่อย“ปรองดอง”เท่าไหร่นัก ในที่สุดทั้งสองก็เดินออกมาจากซอยนี้ มาตรงหน้าเบนท์ลีย์สีดำคันนั้นที่แสนรักจอดอยู่
และในเวลานี้ เส้นหมี่ก็ไม่อาจลืมตาได้แม้แต่นิดเดียว
เธอเหนื่อยจริงๆ
วันนี้เดิมทีก็ไม่ได้พักผ่อนเท่าไหร่อยู่แล้ว บวกกับคืนนี้ถูกสัตว์เดรัจฉานนั่นทรมานอยู่ตั้งนาน
ดังนั้นพอผู้ชายคนนี้วางเธอลง ให้เธอขึ้นรถ เธอก็ปีนเข้าไปอย่างเชื่องฟังทันที ไม่นานนัก ก็เหมือนกับแมวตัวหนึ่ง เอนตัวผล็อยหลับไปตรงที่นั่งด้านหลัง
“ส่งฉัน……ไปที่โรงแรม……”
สุดท้ายตอนที่เธอผล็อยหลับไป ยังได้ยินเธอพูดคำนี้ออกมาอย่างคลุมเครือ
แสนรักมองจากกระจกมองหลัง แล้วขมวดคิ้ว
ไปโรงแรม?
เธออยู่ที่ตระกูลอัครนันท์ไม่ใช่หรือ?ทำไมไปโรงแรมอีกล่ะ?
เขาอยากหันกลับไปเขย่าเธอให้ตื่นแล้วถามมาก แต่สุดท้าย หลังจากได้ยินเสียงหายใจที่สม่ำเสมอ เขาก็ยอมแพ้ จากนั้น ใบหน้าหล่อเหลาที่มืดมนก็สตาร์ทรถออกไป
ตระกูลอัครนันท์สร้างปัญหาอะไรอีก?
——
สุดท้ายคืนนี้แครอทก็หาแสนรักไม่เจอ
เคมีบอกว่า มีเรื่องด่วนจึงออกไปกะทันหัน น่าจะมีลูกค้ามาหาด่วน เลยให้เธอทำใจให้สบาย แล้วกลับไปรอที่เรืองรองก็พอ
แต่ว่า ไม่นานนัก แครอทที่กลับไปถึงตระกูลลัดดาวัลย์ กลับได้รับรูปถ่ายที่ชายคนหนึ่งกำลังแบกผู้หญิง ค่อยๆ เดินออกไปจากซอยเล็กๆ ซอยหนึ่ง
ภาพนั้น ถ่ายได้สวยงามมาก