ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 373 ความปรารถนาอย่างแรงกล้า
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 373 ความปรารถนาอย่างแรงกล้า
“เช่ เขาไปคนเดียวจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม” เส้นหมี่ค่อนข้างกังวล หลังจากเข้าไปในห้อง เธอก็พูดถึงเรื่องนี้ไม่หยุด
ปอร์เช่ซึ่งนอนอยู่บนโซฟา ตอนแรกมีท่าทีสงบ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ดวงตาสีดำสนิทใต้แว่นตาก็เย็นชาขึ้น ราวกับจมอยู่ในน้ำลึกที่เย็นยะเยือก
“ถ้าพี่กังวลนัก จะไปตอนนี้ก็ได้ คิดว่าน่าจะยังไปทัน”
“…”
ไม่ ทำไมวันนี้ผู้ชายคนนี้พูดเสียดสีอยู่ได้
สุดท้ายเส้นหมี่ก็ไม่ได้พูดถึงมันอีก เธอสั่งอาหารบางอย่างมาเพื่อเติมเต็มท้องของเธอ
“เช่ มากินเร็ว อยู่บนเครื่องบินนานมาก หิวจะตายอยู่แล้ว”
“ไม่กิน”
ปอร์เช่นั่งบนโซฟาแล้วถือโทรศัพท์อยู่ในมือ ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร ดูมีสมาธิมาก และบางครั้งก็เห็นคิ้วหลังแว่นของเขาขมวดเป็นครั้งคราว
เขาเล่นเกมอีกแล้วเหรอ
เส้นหมี่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเอาแซนด์วิชและนมที่เขาโปรดปรานมาวางไว้ตรงหน้าเขา จากนั้นเธอก็ไปห้องน้ำ เตรียมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไปพบลูกค้า
“ตื้ด…ตื้ด…”
ทันใดนั้น โทรศัพท์ที่เธอวางไว้ข้างนอกก็สั่น
ปอร์เช่กลอกตาบนโซฟา และเมื่อเห็นโทรศัพท์ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องนานกว่าสิบวินาที ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นและเดินไปรับ
“ฮัลโหล”
“ปอร์เช่ พี่สาวนายล่ะ” เป็นคณาธิปที่โทรมา
ท่าทางของปอร์เช่เริ่มเย็นยะเยือกขึ้น เขาเหลือบมองไปที่ห้องน้ำ และพูดหน้านิ่ง “เกิดอะไรขึ้น”
คณาธิปเร่ง “ฉันจะคุยกับพี่สาวนาย เอาโทรศัพท์ให้เธอ ฉัน…”
ก่อนที่จะพูดจบ ปลายสายก็ส่งเสียง “ตู้ดๆๆ…”
ปอร์เช่ วางสายเขาไป!
เชี่น!
คณาธิปกำลังจะบ้าตายแล้ว
ไอ้สารเลวนี่ สมองเขามีปัญหาหรือเปล่า ปกติจะหาเรื่องเขาก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้เขากำลังมีธุระต้องคุยกับพี่สาวเขา กล้าดียังไงมาตัดสาย
ทางฝั่งโรงแรม หลังจากที่เส้นหมี่ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เห็นว่าโทรศัพท์ของเธอถูกสัมผัส ดังนั้นเธอจึงมองไปที่เด็กชายที่นั่งอยู่บนโซฟาทันที
“เช่ ใครโทรมา”
“คณาธิป”
ปอร์เช่ไม่ได้ปิดบัง
คณาธิป
เส้นหมี่เดินมาทันทีขณะเช็ดผมเปียกของเธอด้วยผ้าขนหนู และสวมเสื้อคลุมอาบน้ำ “เขาพูดอะไร สถานการณ์ทางนั้นดีมั้ย”
ความสนใจของปอร์เช่อยู่ที่โทรศัพท์มือถือของเขาตลอด
แต่เมื่อกลิ่นหอมจางๆของน้ำนมอาบน้ำกระทบจมูกของเขา ขนตาหนาของเขาราวกับพัดใบเล็กของเขาก็ขยับ และในที่สุดดวงตาของเขาก็มองไปทางผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขา
เมื่อเห็นดวงตาของเขาก็หยุดชะงักทันที
“พูดมา เขาพูดว่าอะไร”
เส้นหมี่ยังไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งนี้ จึงไม่รู้ว่าน้องชายของเธอมองเธอด้วยสายตาไม่ปกติ
ตอนนี้เธอแทบรอไม่ไหวที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น
และทันใดนั้นประตูห้องนี้ก็มีเสียงของใครบางคนรูดปลดล็อคประตูด้วยการ์ดอย่างคาดไม่ถึง
เส้นหมี่ “…”
เธอยังไม่รู้ตัว แต่เด็กชายที่นั่งบนโซฟาด้านหน้ากลับลุกขึ้นทันที และขณะที่เธอยังตั้งตัวไม่ถูก เขาก็คว้าข้อมือของเธอแล้วยัดเธอเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง!
“แต่งตัว!”
“อะไร”
ยังไม่ทันพูดจบประโยค เสื้อผ้าอีกหลายตัวก็ถูกโยนเข้าไป ทำให้เส้นหมี่ต้องตะลึงเป็นเวลานาน
เด็กบ้านี่ เคร่งครัดกับเธอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เธอสวมเสื้อคลุมอาบน้ำแล้ว ยังเจอคนไม่ได้อีกหรอ
ข้างนอก คณาธิปเข้ามาแล้ว เมื่อเขาเห็นว่าปอร์เช่นั่งขัดสมาธิเล่นเกมอยู่บนโซฟาคนเดียว ในที่สุดเขาก็อดที่จะระเบิดออกมา
“ปอร์เช่ นายกำลังทำอะไรกันแน่ ทำไมต้องตัดสายฉัน นายรู้มั้ยฉันมีเรื่องด่วนต้องคุยกับพี่สาวนาย”
“คุณโทรหาเธอ และเธอกำลังอาบน้ำอยู่ ถ้าผมไม่วางสาย จะให้ผมเอาโทรศัพท์ไปให้เธอในนั้นหรอ”
“นาย–”
คณาธิปถูกยั่วจนโมโหแทบตาย
ฟังดูดี แต่ไม่ว่าคณาธิปจะมองอย่างไร เขาก็รู้สึกว่าเด็กบ้าคนนี้จงใจขัดขวางเขา
คณาธิปสูดหายใจเข้าลึกๆ เขารู้สึกว่าเขาต้องสงบสติอารมณ์เสียก่อน ต้องรู้ว่าเขาเป็นทนาย และเคยมีคนดังมากมายตกอยู่ในมือของเขา
เขาจะจัดการเด็กแบบนี้ไม่ได้เชียวหรอ
คณาธิปก้าวไปข้างหน้า “ปอร์เช่ ฉันคิดว่าเราจำเป็นต้องคุยกันดีๆ”
การแสดงออกของปอร์เช่เรียบเฉย “คุยอะไร”
“แน่นอนว่าเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้ เช่ ฉันรู้ว่านายโกรธมากที่ฉันไปหลอกพี่สาวของนาย แต่ไม่ต้องห่วง เรื่องนั้นมันผ่านไปแล้ว ต่อไปฉันจะไม่”
“จริงหรอ”
“จริงสิ ไม่อย่างนั้นฉันไม่มาที่นี่เป็นเพื่อนพวกนายแล้ว นายว่ามั้ย”
คณาธิปวางท่าทีของตัวเองให้ต่ำที่สุด เขาคิดดีแล้ว ถ้าเขาสามารถเกลี้ยกล่อมเด็กหนุ่มคนนี้ได้ จะเสียหน้าต่อหน้าเขาก็ไม่เป็นไร
หลังจากที่ปอร์เช่ฟังจบ เขาก็วางโทรศัพท์ในมือลง มองมาที่เขาและยิ้ม
“ที่จริง ครั้งนี้ทนายธิปตั้งใจมาก แต่นี่เป็นโอกาสที่ทนายธิปรอคอยไม่ใช่หรอ”
“นายพูดถึงอะไร”
“ผมพูดผิดหรอ ทนายในมืออีริคมีมากมาย แต่เขาเลือกคุณก่อน ไม่ใช่เพราะคุณเสนอตัวหรอ และแม้แต่ตั๋วเครื่องบินก็เตรียมไว้แล้ว ทนายธิป คุณพยายามมากจริงๆ”