ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 409 ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความกลัว
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 409 ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความกลัว
อรรตพลรีบเข้าไปในเมืองด้วยความเร่งรีบ
เรื่องเกี่ยวกับภรรยาเก่าของแสนรัก ตั้งแต่เธอกลับมาก่อปัญหาให้ตระกูลลัดดาวัลย์ของเขาครั้งก่อน เขาก็ได้บอกกับลูกสาวของเขาแล้วก็อย่าไปยุ่งกับเธออีก
เหตุผลหนึ่งก็เพราะไม่ว่ายังไงเธอก็ยังเป็นแม่ของเด็กสามคนในตระกูลหิรัญชา ถ้าทำอะไรเธอ คุณท่านอาจจะเอาเรื่องได้
และยังมีเรื่องนั้น ท้ายที่สุดแสนรักก็ถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง
ตั้งแต่นั้นทุกคนก็รู้ว่า เขาก็ไม่ได้อยากทำร้ายเธอ
ดังนั้นไม่แตะต้องเธอจะดีที่สุด
แต่เขาคิดไม่ถึงว่าลูกสาวของเขาจะทำเรื่องเดือดร้อนได้รวดเร็วขนาดนี้
“หัวหน้าดลธี คุณบอกสถานการณ์ตอนนี้ให้ผมรู้ได้ไหม ตอนนี้เส้นหมี่เป็นยังไงบ้างแล้ว”
“ไม่ได้สติ หมอบอกว่าเป็นการสะกดจิตขั้นสูง นี่ก็ผ่านมาห้าวันห้าคืนแล้ว สิ่งที่ท่านประธานกลัวก็คือ เมื่อเธอฟื้นขึ้นมาแล้ว เธอจะลืมลูกของตัวเอง เมื่อถึงเวลานั้นจะทำยังไง”
ดลธีหันมามองเขาอย่างเย็นชา
อรรตพลหน้าซีดอีกครั้ง
ทำยังไงดี
ลูกสาวของเธอสามารถเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลหิรัญชาได้ แต่แม่ของเด็กสามคนยังไงก็ยังเป็นเส้นหมี่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ คาดว่าการแต่งงานของพวกเขาคงจะจบลง
อรรตพลเข้าใจแล้วว่าทำไมแสนรักถึงไม่เรียกลูกสาวเขามา แต่เรียกเขามาแทน
อรรตพลรอมาถึงโรงพยาบาลอย่างใจจดใจจ่อ
แต่พวกเขาสองคนคาดไม่ถึงเลยว่า เมื่อมาถึง เส้นหมี่ที่นอนสลบอยู่บนเตียงจะฟื้นได้สติแล้ว
เป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ แสงลอดเข้ามาทางหน้าต่างเล็กน้อย ผู้หญิงในห้องคนไข้ถูกพยุงให้ลุกขึ้นนั่ง จากนั้นเธอก็ไออย่างรุนแรงโดยมีชายหนุ่มพยุงเธออยู่ จากนั้นเธอก็โน้มตัวลง อ้วกออกมาเป็นสายเลือด
“คุณ…ไม่เป็นไรใช่ไหม”
ใบหน้าของแสนรักยังคงตึงเครียด และซีดขาวมากขึ้นไปอีก
ที่จริงสิ่งที่เขากลัวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมา เธอก็ไม่พูดอะไรเลย เขาจึงทำได้เพียงแค่หรอ ราวกับเท้าข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนขอบหน้าผา
เส้นหมี่รู้สึกสบายตัวขึ้นมากแล้ว จึงพยายามเอนหลังนอนอย่างยากลำบาก ขนตายาวของเธอสั่นเล็กน้อย หน้าผากซีดเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ
“ไม่…เป็นไร แค่เข็มเล่มนี้มันอึดอัดอยู่ในปากของฉัน”
“เข็ม”
แสนรักตกตะลึง
เขาจึงหันไปมองกองเลือดที่เธอเพิ่งพ่นออกมาทันที
และในกองอ้วกสกปรกนั้น นอกจากมีเลือดแล้ว ยังมีเข็มอยู่ด้วยจริงๆ นั่นเป็นเข็มที่เธอพกไว้ติดตัวไม่ใช่หรอ
หัวใจของแสนรักเต้นผิดจังหวะทันที
“แครอทนี่โง่จริงๆ เธอเป็นหมอ ฉันก็เป็นหมอ คิดจะเอาแผนเล็กๆแค่นี้มาจัดการฉัน ฉันจะบอกให้ แค่เพราะว่าฉันใจอ่อน ไม่อย่างนั้นฉันฆ่าเธอได้ในไม่กี่วินาทีเลย!”
เรี่ยวแรงของเส้นหมี่เริ่มฟื้นฟูขึ้นมาแล้ว เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อห้าวันก่อน เธอก็กัดฟันด่าออกมา
และที่จริงเธอก็สามารถทำได้
การสะกดจิต แม้ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากฝ่ายตรงข้าม
ดังนั้นหลังจากที่เส้นหมี่ถูกพาตัวไป เธอก็ได้พบกับแครอท เมื่อเข้าใจแผนของเธอ เธอก็อยากจะลงมือ เข็มของเธอถ้าเทียบกับการสะกดจิตของเธอแล้ว เร็วกว่าสิบเท่า
แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น
เธอยังไม่อยากฆ่าคน และเธอก็ยังคิดได้ว่าถ้าเธอตายแล้ว ช่องว่างระหว่างเธอกับผู้ชายตรงหน้าก็จะยิ่งมากขึ้น เธอเป็นแสงสว่างของเขานะ
ถ้าเธอฆ่าเธอแล้ว เขาจะให้อภัยเธอไหม
เส้นหมี่ก้มหน้าลง เลียปากที่เจ็บปวดของเธอ แต่หัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความขมขื่น
แสนรักมองเธอเงียบๆมาโดยตลอด
ประโยคเมื่อกี้ที่เธอด่าออกมา เขาแทบจะดึงเธอเข้ามากอดอย่างรุนแรง
เธอไม่ได้ถูกลบความทรงจำ ผู้หญิงโง่คนนี้ เพื่อไม่ให้แครอททำได้สำเร็จ เธอถึงใช้วิธีนี้มาปกป้องตัวเอง ไม่เจ็บหรอ เอาเข็มยาวขนาดนั้นสอดเข้าไว้ในปากของตัวเอง
มือทั้งสองข้างที่ห้อยอยู่ข้างตัวสั่นตลอดเวลา ดวงตาก็แดงอย่างเห็นได้ชัด ราวกับมีอะไรบางอย่างกำลังจะระเบิดออกมาจากตัวของเขา
แต่สุดท้ายเขาก็อดทนไว้
เพราะหางตาของเขาเขาเห็นอรรตพลมาถึงหน้าห้องแล้ว
“พวกคุณสองคนยังเป็นเด็กอยู่หรอ เจอกันก็ทะเลาะกัน โตกันหมดแล้ว มีบทเรียนแล้วหนึ่งครั้งยังไม่พอหรอ”
“คุณว่ายังไงนะ”
เส้นหมี่ที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วเมื่อได้ยินประโยคนี้ จึงเงยหน้าขึ้นมาถามเขา
เขากำลังพูดอะไรอยู่
เธอเป็นคนถูกทำร้าย! เธอไม่ได้ไปทำอะไรผู้หญิงคนนั้น เขาต้องเข้าใจให้ถูกนะ นี่ยังจะมาบ่นเธออีก
ดวงตาของเส้นหมี่เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที “อะไรคือเจอกันแล้วต้องทะเลาะ ฉันไม่ได้ทำอะไรฉัน ครั้งนี้ฉันกลับมา ไม่ได้เห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ แต่เธอกลับมาหาเรื่องฉัน ฉันทำอะไรผิดหรอ”
“คุณไม่ได้หาเรื่องเธอ แล้วเธอจะสะกดจิตคนทำไม เธอไม่มีอะไรทำหรอ”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง เธอเป็นบ้ามาโดยตลอดคุณไม่รู้หรอ เธอจะทำอะไรคนอื่นยังต้องหาเหตุผลด้วยหรอ”
น้ำตาของเส้นหมี่ไหลลงมา เธอไม่เคยเห็นผู้ชายไร้เหตุผลขนาดนี้มาก่อน เธอไม่ได้ทำผิดอะไรเลย แต่เขาก็ยังโทษเธอ เขาเกลียดเธอขนาดไหนกันแน่ ถึงได้เลือกปฏิบัติขนาดนี้