ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 449 เขาไปจากหิรัญชากรุ๊ป
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 449 เขาไปจากหิรัญชากรุ๊ป
ประโยคสุดท้าย ผู้ช่วยคนนี้แทบจะกัดฟันพูดออกมา
ความเฉลียวฉลาดของแสนรัก พวกเขาล้วนรู้กันหมด
ดังนั้นถึงมีการจัดตั้งฉากใหญ่แบบนี้ขึ้นมา
แต่พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าหลังจากที่ถูกบังคับให้ไปสู่ทางตัน ชายผู้นี้จะไม่ใช้เส้นทางปกติใดๆเลย แต่ปิดกั้นและสังหารเหล่าคนเก่าแก่โดยตรง
จัดการฆ่าเกมเมอร์ก่อน
เขาเป็นคนวิปริตและโหดเหี้ยม พวกเขาคาดไม่ถึงจริงๆ
“แต่คุณก็ไม่ต้องเป็นกังวล ถึงแม้ว่าแผนในตอนนี้จะล้มเหลว แต่ตราบใดที่พวกเรามีไพ่ตายอยู่ในมือ เขาจะต้องมอบเก้าอี้ตัวนั้นให้พวกเราอย่างเชื่อฟังแน่นอน”
ทันใดนั้นผู้ช่วยก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง
คณาธิปไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าเมื่อได้ยินประโยคนี้ ก็รู้ได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังพูดเยาะเย้ยอยู่…………
——
ในคืนนั้นแสนรักกกลับมาดึกมาก
หลังจากที่ผู้ถือหุ้นที่มีปัญหาเหล่านั้นถูกเรียกคืนหุ้นของพวกเขา เขาต้องจัดการกับมัน มิฉะนั้น เมื่อเขาไปที่ลอสแองเจลิสอีกครั้ง แสงดาวผู้ซึ่งไม่เคยเจอเรื่องใหญ่โตเช่นนี้จะพบกับความโกลาหลอีกครั้ง
แสนรักกลับมาที่ตึกวังฬาหนึ่งด้วยความอ่อนเพลีย
“คุณผู้ชาย คุณกลับมาแล้วหรอ”
ค่อนข้างแปลก จนเวลานี้แล้วห้องนั่งเล่นใหญ่ตึกวังฬาหนึ่งยังส่องแสงสว่างไสว
แสนรักเหลือบมองคนใช้ ด้วยความสับสน “มีอะไรหรือเปล่า พวกเขายังไม่หลับหรอ”
เขาคิดว่าพวกเด็กๆได้ยินว่าเขากลับมาแล้ว และยังรอเขาอยู่
แต่พี่ภากลับส่ายศีรษะ “ไม่…….ไม่ใช่ค่ะ เป็นคุณท่านกำลังรอคุณอยู่ค่ะ”
อะไรนะ
เขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และมองไปทางห้องนั่งเล่น ถึงมองเห็นว่าในเวลานี้ ใต้ตะเกียงคริสตัลที่ยังสว่างอยู่ มีชายชรานั่งอยู่ตรงนั้นจริงๆ
ชายชราคนนี้ ดึกขนาดนี้แล้ว เขาไม่กลับไปนอนยังคฤหาสน์หลังเก่า แล้วมาทำอะไรที่นี่
แสนรักเดินเข้าไป “พ่อ มาทำอะไร ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมยังไม่ไปนอนอีก ถ้าหากจะถามเรื่องของบริษัทเมื่อตอนกลางวัน ผมจะพูดกับพ่อพรุ่งนี้ ผมเหนื่อยแล้ว”
แสนรักใจร้อนเล็กน้อย เขาอยากขึ้นไปข้างบนก่อน
แต่เมื่อชายชราเห็นเขากำลังจะไป ก็รีบลุกขึ้น “หยุดก่อน มานี่ ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก”
แสนรัก “……….”
แต่ก็ยังคงเข้ามา อดทนต่อความไม่อดทนในหัวใจของเขา และยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“แสนรัก เส้นหมี่ทางนั้นเป็นยังไงบ้างแล้ว”
“เธอหรอ วันนี้ผ่าตัดที่หลอดเลือดสมองเสร็จแล้ว บอกว่าตอนนี้สามารถมองเห็นได้แล้ว ทำไม อยากให้เธอกลับมาแล้วเหรอ ยังไม่เร็วขนาดนั้นหรอก ผมจะบอกพ่อให้”
เมื่อแสนรักได้ยินคำถามนี้ ก็ปฏิเสธด้วยใบหน้าที่หล่อเหลา
แต่เมื่อชายชราเห็นสีหน้าของเขา เขาก็ยิ้มออกมาทันที “ ดีมาก ในเมื่อเป็นแบบนี้ แสนรัก งั้นลูกก็พาเด็กๆ ไปที่ลอสแองเจลิสเถอะ”
“พ่อว่าอะไรนะ ”
แสนรักคิดว่าตัวเองฟังผิดไปแล้ว “ให้ผมพาเด็กๆ ไปลอสแองเจลิส”
“ใช่ ไม่ใช่ว่าลูกอยากมีครอบครัวที่มีชีวิตเรียบง่ายและมีความสุขไม่ใช่เหรอ ตอนนี้เส้นหมี่ไม่เป็นไรแล้ว ลูกก็พาเด็กๆไป แบบนี้ พวกลูกทั้งห้าคนก็สามารถอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแล้ว”
หลังจากที่ชายชราก้าวเท้าสองเก้าด้วยไม้ที่โซฟาแล้ว เขาก็มองไปทางอื่นแล้วค่อย ๆ พูดออกมา
แสนรักหรี่กรอกตา
ในที่สุดเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ก็ยังดีๆอยู่ ทำไมต้องให้เขาพาพวกเด็กๆไปใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงคนนั้น ที่นี่ไม่ต้องให้เขาจัดการแล้วหรอ
คุณท่าน “ไม่นี่ ฉันก็แค่รู้สึกว่าลูกน่าจะไปใช้ชีวิตอย่างที่ลูกต้องการ”
ชีวิตที่เขาต้องการ
แสนรักเยาะเย้ย “ชีวิตที่ผมต้องการคืออะไร พ่อไม่เคยถามผม พ่อรู้ได้ยังไงว่านี่คือสิ่งที่ผมต้องการ”
“แน่นอนว่าฉันรู้สิ ในปีนั้นที่ลูกรับช่วงต่อบริษัท พ่อก็เข้าใจแล้ว ตั้งแต่เล็กลูกก็ไม่เต็มใจทำสิ่งนี้ แต่เป็นพ่อเองที่บังคับลูก ลูกถึงเลือกมัน เช่นนั้นตอนนี้พ่อปล่อยลูกไป ให้ครอบครัวพวกลูกทั้งห้าคนใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่ดีเหรอ”
ชายชรามองเขาอย่างสงบ แต่เขาไม่ยอมแพ้เลย
แสนรักไม่ได้พูดอะไรแล้ว
เขาเป็นคนฉลาดมาก และแน่นอนว่าเขาจะไม่เชื่อสิ่งที่ชายชราพูดในเวลานี้อย่างแน่นอน
อะไรที่ไม่เต็มใจตั้งแต่เด็ก
ให้ตายเถอะถ้าไม่เต็มใจจริงๆ เขาจะมาพูดตอนนี้เหรอ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้
แสนรักจ้องมองเขาเป็นเวลานาน ในที่สุด ก็ได้ยินตัวเองถามว่า “หรือว่าพ่อรู้สึกว่าผมไม่มีคุณสมบัติที่จะดำรงตำแหน่งนี้”
“……”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุด ชายชราก็มองไปที่อื่นแล้วค่อยมองมาที่เขา
“ฉันก็แค่รู้สึกว่า บางทีแกอาจจะไม่ควรอยู่ในตำแหน่งนี้จริงๆ”
“ทำไมล่ะครับ”
“วันนี้ลูกฆ่าคนแล้ว”
“หลังจากนั้นล่ะ”
“คนที่ควบคุมตัวเองได้จะไม่ทำเช่นนี้ แสนรักอาจเป็นความผิดของพ่อตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันไม่ควรปล่อยให้แกดำรงตำแหน่งนี้ ฉันควรให้แกใช้ชีวิตตามที่แกต้องการ ด้วยวิธีนี้ จะทำให้แกฟื้นตัวได้ดีขึ้นมากกว่าไหม”
เขามองมาที่เขา และในท้ายที่สุด เขาพูดประโยคนั้นออกมาจากปากของเขาอย่างช้าๆ
แสนรักเอียงศีรษะเล็กน้อย
ดูเหมือนเขาจะพยายามที่จะแยกแยะสิ่งที่พ่อพูด
เพราะว่าเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
แต่น่าเสียดายที่เขาจ้องมาที่เขานานกว่าสิบวินาที และสิ่งที่ยังก้องอยู่ในใจของเขาคือคำว่า “ต้องควบคุม ต้องฟื้นตัว” สองคำนี้
จากนั้นก็มีบางอย่างแทงเข้าในใจเขาอย่างดุเดือด ประโยคหนึ่งก็ถูกคำรามออกมาจากปากของเขาอย่างควบคุมไม่ได้ “พ่อกำลังพูดถึงอะไร พ่อพูดใหม่อีกครั้งสิ”
“……”
“คุณผู้ชาย คุณจะทำอะไรคะ ใจเย็นก่อนนะคะ”
“คุณผู้ชาย——”
ผู้คนจำนวนมากวิ่งเข้ามา และพยายามดึงมือที่แน่นของเขาออกจากชายชรา
แม้กระทั่งเด็กๆที่อยู่ชั้นบนสุด ก็วิ่งลงมา “แด๊ดดี้ อย่านะ แด๊ดดี้——”
แสนรักเสียการควบคุมไปแล้วจริงๆ!