ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 475 ผมเตือนคุณ อย่าทำอะไรมั่วซั่ว
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 475 ผมเตือนคุณ อย่าทำอะไรมั่วซั่ว
ในใจของแสนรักน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร สุดท้ายหันไปหาเถ้าแก่ร้านจิวเวอร์รี่ที่ตั้งตารออยู่เหมือนนกกระทา
“คุณไปเอาใบประกอบการค้าออกมา”
“ได้ครับ ท่านประธาน”
เจ้าของร้านรีบไปหยิบใบประกอบการค้าที่ชั้นบน
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เส้นหมี่มองเห็นเถ้าแก่หายใจหอบลงมาถือใบประกอบการค้าอยู่ในมือ เธอมองดูชื่อผู้ประกอบการแว็บหนึ่ง
ในที่สุดก็ประหลาดใจจนนิ่งไป
โอ้พระเจ้า ชื่อผู้ประกอบการ เป็นชื่อเธอเส้นหมี่จริงๆ ด้วย!!
เส้นหมี่หลังจากเดินออกไป เธอยังสับสนอยู่เลย เธอรู้สึกว่าเหมือนตัวเองกำลังฝันไปอย่างนั้น
มอบร้านจิวเวอร์รี่ให้เธอ?
นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เมื่อก่อนความสัมพันธ์ของพวกเขาแย่มาก เขาเกลียดเธอเข้ากระดูก ไม่ต้องพูดถึงร้านจิวเวอร์รี่หรอก
แม้แต่แหวนวงเล็กๆ เธอยังไม่กล้าหวัง
งั้นของขวัญชิ้นนี้ เขาเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ภายในใจของเส้นหมี่กำลังโต้เถียงกันอย่างรุนแรง
แต่ก็ไม่ยอมรับไม่ได้ ไม่ว่าเขาจะตระเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนไหน ภายในใจของเธอปลื้มปีติ และก็ตื้นตัน
เพราะว่า ความรู้สึกแบบนี้ แม้ว่าในหลายปีมานี้เธอเจอปัญหา ในที่สุดก็ได้รับคำตอบที่ชัดเจน แม้แต่เส้นผมของเธอทุกเส้น ต่างก็กำลังปลื้มปีติ
“ขอบคุณค่ะ” ในที่สุดเธอคิ้วตาโก่งโค้ง เต็มไปด้วยความเขินอายกับปลื้มปีติที่ถูกเคาะลงไปบนสมองน้อยๆ
“ขอบคุณอะไรล่ะ คุณคือภรรยาของผม ผมมอบให้คุณเป็นสิ่งที่ควรทำไม่ใช่เหรอ คุณจำไว้ว่า ของของผม ก็คือของของคุณ แม้แต่ตัวผมก็เป็นของคุณ”
ประโยคสุดท้าย เป็นการยอมสยบอย่างไม่มีทางไปไหนได้!
แครอทถอยหลังไปสองก้าว
หลังจากนั้น เธอจ้องเขม็งมองมาที่ทั้งสองคน เหมือนคนตายที่หน้าตาซีดๆ หม่นๆ และบูดเบี้ยว หลังจากนั้นเธอหันหลังกลับแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
คณาธิปเองก็ไม่ได้ดีไปกว่า
เขาเหมือนถูกคนตีหนักๆ ไปที่บ้องหูยังไงอย่างนั้น เพราะว่า เขาทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัยมากมายกับหญิงสาว แต่เขายังคงโอบกอดจินตนาการเอาไว้ไม่วาง
เขาคิดว่าในใจของเธอยังมีเขาอยู่
เขายิ่งรู้สึกว่าหญิงสาวผู้นี้ กับหนุ่มชายที่เคยทำร้ายเธออย่างรุนแรง ความรู้สึกที่มีจึงไม่มากนัก!
แต่ตอนนี้ ความจริงตบลงแรงๆ จนเขาหูวิ้ง!
“งั้น……พวกเรากลับบ้านกันเถอะนะ คุณทำไมมาอยู่ที่นี่อย่างกะทันหัน ไม่ได้อยู่ที่บ้านหรอกเหรอ”
“ผมมาซื้อผัก ใกล้ๆ นี้มีซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ มีผักหลากหลายประเภท”
“……เหมือนว่า”
“อืม งั้นพวกเราไปด้วยกันดีไหม” แสนรักบีบปลายจมูกเด็กโง่คนนี้อย่างเอ็นดู
เธอช่างเชื่อคนง่ายจริงๆ
คุณจะพูดว่าเธอโง่ล่ะสิ แต่บางครั้งเธอก็ฉลาดเป็นกรดจนป้องกันยังไงก็เอาไม่อยู่;จะพูดว่าเธอฉลาด แต่บางครั้งคำพูดของเขา ก็ปลอบเธอลงได้อย่างง่ายดาย
หรือเป็นเพราะว่าเธอไม่ได้มีเกาะป้องกันต่อเขา?
สุดท้ายแสนรักจึงจับมือเธอเดินออกไป
แสงดาวที่อยู่ด้านหลัง โมโหจนกระทืบเท้า : “สารเลว ทำเหมือนฉันไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอ ไม่รู้จักเรียกฉันไปทานข้าวบ้างเลยเหรอ!!”
“……”
ไม่มีใครสนใจเธอ
สองคนนี้ ทำเหมือนเธอนั้นล่องหน
แสงดาวอยากกระอักเลือด ได้แต่กลับไปอย่างเคียดแค้น
แต่คณาธิป แน่นอนว่ากลับไปอย่างน่าสงสาร
“ประธานคณาธิป ซาจากรุ๊ปได้ส่งคนมาแล้ว รอคุณอยู่ที่ออฟฟิศ”
พึ่งกลับมาถึงหิรัญชากรุ๊ป แผนกผู้บริหารหน้าห้องก็รายงานกับเขาเพียงแค่หนึ่งเรื่อง
ทันใด ใบหน้าของเขายิ่งเหมือนถูกปกคลุมด้วยเมฆครึ้มอย่างแน่นหนา
แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยกขาก้าวเดินเข้าออฟฟิศไป
“ท่านประธานใหญ่ คุณกลับมาแล้ว ผมมาเป็นตัวแทนของประธานสมาคมกับคุณหญิง”
ผลลัพธ์ พึ่งเข้ามา เขาก็มองเห็นชายหนุ่มวัยกลางคนชาวญี่ปุ่นที่ใส่แว่นตา คนคนนี้หลังจากได้เจอเขา ก็รีบลุกขึ้นกล่าวทักทายเขาทันที
แต่ว่าแววตาสีหน้าที่แสดงออกมานั้นไม่ได้รู้สึกว่าจะให้ความเคารพสักเท่าไหร่
ประธานสมาคม?
ตาแก่สึรุโอกะคนนั้นน่ะเหรอ?
สีหน้าของคณาธิปยิ่งขุ่นมัว ดึงเนกไทบนลำคอออก โยนลงบนโต๊ะทำงานอย่างไม่สบอารมณ์
“มีเรื่องอะไรเหรอ ถึงกับต้องรบกวนคุณผู้จัดการใหญ่ของตระกูลสึรุโอกะให้มาเลยเหรอ”
“ไม่ ท่านประธานใหญ่ คุณอย่าได้เข้าใจผิดไป ที่ผมมา คุณหญิงกับประธานสมาคมแค่กังวลที่ท่านประธานใหญ่พึ่งจะรับช่วงต่อหิรัญชากรุ๊ป คงจะยุ่งไม่น้อย ดังนั้น จึงให้ผมมาเป็นผู้ช่วยคุณ”
ผู้จัดการใหญ่คนนี้ น้ำเสียงแลดูเกรงใจมาก
สีหน้าของคณาธิปเปลี่ยนไปทันที เขาเงยหน้าขึ้นมา สายตาจ้องมองไปที่คนญี่ปุ่นคนนี้: “คุณหมายความว่ายังไง”
“ท่านประธานใหญ่ หลังจากประธานสมาคมได้ยินมาว่าผู้ช่วยของคุณถูกแสนรักฆ่าไปหมดแล้ว จึงคิดพิจารณาถึงปัญหากำลังคนของคุณที่นี่ ดังนั้นเรื่องเหล่านี้ ต่อจากนี้คุณก็มอบหมายให้ผมทำเถอะครับ”
“……”
เหมือนลมบ้าคลั่งกับคลื่นลูกใหญ่ ดวงตาเยือกเย็นของคณาธิปทั้งสองจ้องมองไปที่คนญี่ปุ่นคนนี้เนิ่นนาน ถึงได้ยินเสียงของตัวเองถามออกมาหนึ่งประโยค: “คุณคิดอยากจะทำอะไร การตายของเจบี เป็นอุบัติเหตุ คุณอย่าทำอะไรมั่วซั่วจะดีที่สุด”
“ท่านประธานใหญ่ เป็นอุบัติเหตุจริงๆ เหรอ เจบีอยู่กับคุณมาตั้งหลายปีแล้ว สุดท้ายเพียงเพราะว่าคุณกระทำหญิงสาวคนหนึ่งถึงถูกฆ่าตายอยู่ที่นี่ ท่านประธานใหญ่ ประธานสมาคมกับคุณหญิงบอกว่า ชายหนุ่มมีความรักความใคร่นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่เพียงเพื่อหญิงสาวคนหนึ่ง คุณลืมไปเลยว่าอะไรสำคัญ งั้นคงไม่ดีแล้ว……”
ประโยคสุดท้ายของคนญี่ปุ่นคนนี้ เหมือนเจาะออกมาจากนรก ได้ยินต่างทำให้คนหวาดกลัวอย่างขีดสุด
คณาธิปเกือบจะไม่สีเลือดเหลืออยู่
เขาโมโหจนดวงตาเบิกกว้างมองไปที่คนญี่ปุ่นคนนี้ บนร่างกายอบอวลไปด้วยกลิ่นอายที่น่ากลัวอยากจะฆ่าคน!
“นากาจิมะ ผมเตือนคุณนะ อย่าทำอะไรมั่วซั่วจะดีที่สุด ไม่งั้นผมจะทำให้คุณเสียใจทีหลัง!”