ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 483 จอมมารผู้ยิ่งใหญ่
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 483 จอมมารผู้ยิ่งใหญ่
เจเคพยักหน้าเห็นด้วย: “ใช่ แค่แกพูดออกมา แม้ว่าพวกเราคุณชายสี่เมืองหลวงจะไม่มีทรัพย์สินมากมายที่จะแข่งกับลูกชายนอกสมรสของแก แต่ถ้าลงเล่นแล้วพวกเราก็สามารถเล่าเขาถึงตายได้เลย”
ผู้ชายคนนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในสี่คนที่อายุน้อยที่สุด
แต่ในเวลานี้ ใบหน้าที่อ่อนเยาว์และหล่อเหลานั้นเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและความโหดเหี้ยมที่สามารถพบได้ที่ด้านบนสุดของสังคมนี้เท่านั้น!
ก็จริง เมื่อพูดถึงเรื่องเงินเมืองหลวงไม่ค่อยมีสักเท่าไหร่
แต่เป็นหนึ่งในสถานที่แห่งสมาธิ
ยิ่งไปกว่านั้น เบื้องหลังของคนเหล่านี้ประเมินค่าต่ำไม่ได้
แสนรักวางไพ่ในมือเขาออกมาหนึ่งใบอย่างช้าๆ แล้วเงยหน้าลืมตาขึ้นเหลือบมองไปที่พวกเขา
“ไม่ต้องการ”
“ไม่ต้องการ?” เจเคเพ่งตาโตขึ้นทันที “ไม่ต้องการหมายความว่าอะไร?แกกลัวละสิ?”
“กลัว?”
แสนรักเดาะลิ้นอย่างเยาะเย้ย: “แกคิดว่ามันจะเป็นไปได้เหรอ? ฉันแค่รู้สึกว่าเกมนี้มันน่าเบื่อและฉันก็ไม่สนใจแล้ว”
สนใจ?
เขาบอกว่าการแข่งขันเพื่อชิงทรัพย์สินหลายแสนล้านของครอบครัวเป็นแค่ความสนใจ!
ครั้งนี้แม้แต่ม็อกโกยังขมวดคิ้ว:“รัก คำพูดนี้หมายความว่าอะไร? แกจะยอมแพ้เหรอ?”
แสนรักพยักหน้า: “อืม ปีที่ผ่านมาฉันได้พบเจออะไรมากมาย มันทำให้ฉันเข้าใจความจริงของคนที่อยู่ในโลกนี้ไม่ใช่แค่สิ่งเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่เราควรมี”
น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาลง เขาพูดอะไรบางอย่างเชิงปรัชญา
เมื่อพูดจบ อีกสามคนที่โต๊ะโปกเกอร์ก็เงียบ
พวกเขาจ้องมองไปที่ผู้ชายนี้อย่างว่างเปล่า แสดงท่าทีสงสัยว่าหูของพวกเขามีอะไรผิดปกติรึเปล่า
พ่อคุณรัก!
นั้นมันคนที่หยิ่งผยองและอวดดีถึงขีดสุดในโลกนี้ไม่ใช่เหรอ?
เขาเปลี่ยนมือเป็นก้อนเมฆและเอามือปิดฝน ไม่มีใครเอาอะไรไปจากเขาได้และยิ่งไม่มีใครกล้าต่อกรกับเขา ไม่เช่นนั้นจะเหลือเพียงคนเดียวในสนามเท่านั้น ตายอย่างไม่มีที่ฝังศพ!
แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น?
พวกเขาไปได้ยินอะไรมา?!!
เป็นเวลานานกว่าสิบวินาทีที่โต๊ะโปกเกอร์เงียบจนได้ยินเสียงเข็มตก
แสนรักหางตาของเขาโปน และเขาเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือของเขา:“จะไม่เล่นแล้วใช่ไหม? ถ้าไม่เล่นฉันก็จะกลับ”
ม็อกโก:“……”
เจเค:“……”
ในท้ายที่สุดหลังจากที่มาที่นี่เปรมไตรที่ไม่ค่อยพูดก็ทำลายภาวะชะงักงันลงได้
“เหตุผลหล่ะ?อย่างน้อยๆแกก็น่าจะพูดสักหน่อย พวกเราเดินทางมาแต่ไกลก็เพราะเป็นห่วงแก ถ้าหากแกยอมแพ้ พวกเราก็กลับไม่ได้”
แสนรัก:”……“
เขาอดทนอดกลั้นแต่ในที่สุดเขาก็ต้องอธิบาย: “ฉันแค่คิดว่าตอนนี้ฉันควรให้ความสำคัญกับครอบครัวมากขึ้น ลูกทั้งสามคนของฉันยังเล็กและแม่ของพวกเขาก็ไม่ค่อยสบาย ฉันควรใช้เวลากับพวกเขาให้มากขึ้น”
“……”
ทุกคนตะลึงเงียบงัน
เพราะเห็นได้ชัดเจนมากว่าคำพูดเหล่านี้ไม่ตรงกับบุคลิกของเขา
หากพูดว่าเขาสละมรดกมหาศาลเพื่อลูกทั้งสามคน พวกเราอาจจะไม่ตกใจขนาดนั้น
แต่ว่าเพิ่มแม่ของลูกอีกหนึ่งคน…
สามคนที่ยังคงติดกับภาพผู้ชายคนนี้ในงานแต่งไม่เชื่อเรื่องไร้สาระพวกนี้
แต่ในไม่ช้า พวกเขาเห็นโทรศัพท์ของผู้ชายคนนี้ดังขึ้น
“ฮัลโหล?”
“พี่ชายคะ พี่ไม่ได้อยู่บ้านเหรอ? พี่ไปไหน?
น้ำเสียงอ่อนโยนของเด็กผู้หญิงดังขึ้นจากโทรศัพท์อย่างขี้ขลาด ทันใดนั้นบนโต๊ะโปกเกอร์ก็เงียบสนิทไม่มีเสียงอะไรเลย
แสนรักรู้สึกตัวก็รีบหยิบโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นเดินไปทางหน้าต่าง:“มีธุระข้างนอกนิดหน่อย มีอะไรรึเปล่า?”
“ไม่เป็นไรคะ ฉันก็แค่…กลับมาบ้านแล้วไม่เจอพี่ก็เลยโทรหาพี่ค่ะ …พี่ชายจะกลับมากินข้าวเย็นไหมคะ ถ้ากลับมากิน ฉันจะทำเพื่อพี่ไว้ด้วย .”
เส้นหมี่ในปลายสายถ่อมตนมาก
หล่อนกลัวว่าเขาจะโกรธอีกครั้ง ทั้งๆที่อยากรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน และอยากให้เขากลับมามาก แต่ในเวลานี้เพราะหล่อนได้ทำผิดพลาดมาก่อน หล่อนจึงทำได้แต่ถามหาเขาอย่างน่าสมเพช
เหมือนลูกสุนัขที่ถูกเจ้าของทอดทิ้ง
แสนรักกลืนน้ำลาย
“เข้าใจแล้ว ผมจะกลับเดี๋ยวนี้” แล้วเขาก็กดวางสายไป
ม็อกโก:“……”
เจเค:“……”
ครั้งนี้แม้แต่เปรมไตรยังจ้องมองเขาอย่างเหม่อลอยราวกับว่าเขาเห็นผี
เมื่อแสนรักอย่างนั้นก็ไม่อยากอธิบาย แล้วเดินไปที่โต๊ะโปเกอร์หยิบกุญแจรถและเสื้อโค้ทของเขาเตรียมจะเดินออกไป
“นั้นคุณจะไปที่ไหน?”
ในที่สุด เซี่ยวเวลาที่เขาจะออกไป ม็อกโกที่ตื่นได้สติก็ลุกขึ้นแล้วถามเขา
แสนรักหยุกชะงักทันทีแล้วตอบว่า “มัลดีฟส์มั่ง อากาศที่นั่นดีมาก”
ม็อกโก: “ก็ดี ในเมื่อคุณตัดสินใจแล้ว พวกเราทุกคนก็ยอมรับการตัดสินใจของคุณ ฉันมีฟาร์มสามแห่งที่มัลดีฟส์ ถ้าคุณต้องการ ฉันสามารถให้คุณได้ทั้งหมดเลย”
พื่อ——
นี่คือผู้นำทหารที่มีชื่อเสียงที่โด่งดังในเมืองหลวงนี้ และยังใจกว้างอีกด้วย
แสนรักยิ้ม: “ไว้ค่อยว่ากัน ถ้าคุณอยากช่วยผมจริงๆ เมื่อถึงเวลานั้นคุณช่วยจัดการที่นั่งที่ดีบนเครื่อง ส่งผมกับครอบครัวไปที่นั่นดีกว่า”
ม็อกโกตอบตกลงทันที: “เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา คุณรับนามบัตรนี้ไว้ แค่โทรไปก็ได้แล้ว”
เมื่อพูดจบเขาก็หยิบนามบัตรออกจากกระเป๋าเสื้อของเขา
แสนรักก้มหน้าดูนามบัตรนั้น พบว่าคือนามบัตรของกัปตันชั้นหนึ่ง และยังเป็นเครื่องบินทหารอีกด้วย
ดีมากจริงๆ!
อยู่บ้านถูกภรรยาเลี้ยง
พอมาตอนนี้อยู่กับพี่น้อง ยังต้องให้เขาช่วยเหลืออีก ตอนนี้เขาตกระกำลำบากจริงๆเหรอ?
แสนรักขับรถออกจากโรงแรม…