ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 530 เธอตะครุบเข้ามาอย่างเย้ายวนอีกครั้ง
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 530 เธอตะครุบเข้ามาอย่างเย้ายวนอีกครั้ง
“อย่าพึ่งรีบร้อน ของพวกนั้น ตอนนั้นพวกนั้นทำยังไงให้เขากินมัน ถึงเวลานั้น ผมจะเพิ่มเป็นหลายเท่าให้พวกมันกลืนลงไป!”
“ดี!”
ดลธีที่กำลังเดือดดาล ในที่สุดก็สงบลงบ้างแล้ว
หลังจากนั้น ไม่นานเขาก็คิดเรื่องหนึ่งออก :“งั้นงานแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ คุณจะเอาหุ้นส่วน35%ที่คุณท่านเก็บไว้ให้คุณ ให้กับคณาธิปหรือเปล่า”
“ให้สิ ทำไมจะไม่ให้ล่ะ”
หลังจากเขาจุดบุหรี่ในมือ ก็พูดว่าให้ออกมาเบาๆ
ดลธีร้อนรนขึ้นมา:“ยังจะให้อีกเหรอ เขาทำให้คุณท่านถูกทำร้ายจนเสียชีวิต คุณยังจะให้เขาอีกเหรอ แบบนี้คุณจะไม่ทำให้เขาได้ใจขึ้นเหรอ”
เขาร้อนรนขึ้นมาจริงๆ เมื่อนึกถึงฆาตกรคนนั้น สุดท้ายแล้วยังได้รับสิ่งที่ตัวเองต้องการ เขาเกลียดจนอยากจะฆ่าให้ตายกับมือเอง
จริงนะ โมโหมากเลย!
แต่แสนรักเหมือนจะไม่ค่อยมีปฏิกิริยาอะไร
เขามองมาที่เขาที่กำลังเดือดดาล พูดอธิบายเบาๆว่า:“เส้นหมี่กลับมาแล้ว นี่เป็นสิ่งที่ผมรับปากเขาไว้ ผมจำเป็นต้องให้เขา”
“ท่านประธาน!!!”
“ช่างเถอะ คุณไปที่ญี่ปุ่นสักรอบหน่อย ได้ยินมาว่าคณาธิปมีแม่เลี้ยงเป็นคนจีน สึรุโอกะเพื่อเธอ จึงได้ปลูกสร้างสวนยะกะที่มีชื่อเสียงที่เซกาวาขึ้นมา คุณไปดูที่นั่นสักหน่อย ในเวลาจำเป็น ทุกตารางนิ้วตรวจสอบให้ดี แม้แต่ผมเส้นเดียวก็อย่าได้พลาดไป”
คิดไม่ถึงเป็นอย่างมาก ถึงเวลาเข้าตาจนขนาดนี้แล้ว เขายังบอกให้ดลธีไปที่ญี่ปุ่น
อีกทั้งยังให้ไปสืบรังรักของภรรยาสึรุโอกะ
ท่านประธานบ้าไปแล้วหรือเปล่า?
ถึงแม้ว่าเขาจะเข้าตาจนแล้ว แต่ก็ควรทำอะไรหน่อย? ยังจะให้เขาไปสืบสิ่งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย
ดลธีไม่ยินยอมเป็นอย่างมาก ภายในใจ มีกองไฟหนึ่งกองซ่อนอยู่
แต่ว่า BOSSของเขา เขาได้วางแผนเอาไว้แบบนี้แล้ว เขาไม่เชื่อฟังไม่ได้ สุดท้ายแล้ว เขาทำได้เพียงบินไปญี่ปุ่นกลางดึก
หลังจากเขาออกไป ในที่สุดแสนรักก็กลับบ้านแล้ว
“คุณสามี ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว ทานข้าวมาหรือยังคะ”
เมื่อกลับมาถึง ร่างอ้อนแอ้นอรชรที่อยู่ในบ้านก็ตะครุบเข้ามาหาเขา น้ำเสียงนุ่มนวลที่ทำให้คนสามารถอ่อนยวบลงได้
แสนรักกำสิ่งที่ถืออยู่ในมือแน่นแล้วถอยไปหนึ่งก้าว:“อย่าเข้ามา ผมพึ่งกลับมาจากห้องเก็บศพ บนร่างกายมีเชื้อโรค ไม่อยากแพร่ให้คุณ”
“หืม……”
เส้นหมี่ที่ตั้งตารอเขามาทั้งบ่าย จึงได้เพียงแต่ชักมือกลับมา
“งั้นก็ได้ งั้นคุณไปอาบน้ำก่อนไหม ฉันจะไปห้องครัวอุ่นกับข้าวสักหน่อย”
“อืม”
แสนรักตอบกลับไปคำหนึ่ง หลังจากนั้นก็ถือสิ่งของในมือขึ้นไปชั้นบน
เวลานี้ เป็นตอนกลางคืนที่ฟ้ายังไม่ได้มืดมาก แต่ว่า เมื่อแสงดาวไม่อยู่แล้ว ลานบ้านในเวลากลางคืนนี้ รู้สึกเงียบสงัดมาก พวกเด็กๆก็ไม่ได้วุ่นวายแล้ว ภารานินที่อยู่ชั้นบนก็เหมือนนิ่งๆโง่ๆอยู่อย่างนั้น ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรทั้งนั้น
บ้านทั้งหลัง เหมือนถูกกดทับไปด้วยบรรยากาศหนักๆ
แต่เมื่อสักครู่ที่เขาเข้ามา หญิงสาวที่อยู่ด้านล่างคนนั้น กลับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ยังมางอแงใส่เขา
ใบหล่อเหลาของแสนรักกำลังขุ่นมัวเดินมาถึงชั้นสอง
“คุณน้าภา ทำไมคืนนี้ไม่เห็นคุณป้ากลับมา คุณป้าล่ะ”
“ใช่สิ คุณป้าไปไหนแล้ว ปกติกลับมาค่อนข้างเร็วไม่ใช่เหรอ วันนี้ทำไมดึกขนาดนี้แล้วยังไม่กลับมาอีก”
“อืม”
เมื่อเดินผ่านห้องของเด็กๆ แสนรักได้ยินเสียงเด็กๆถามหาคุณป้ากับพี่ภาอย่างร้อนรน
พี่ภาจะพูดอะไรได้ล่ะ?
เธอทำได้เพียงแค่อดกลั้นต่อความเจ็บปวดภายในใจเอาไว้ แล้วกล่อมพวกเด็กๆนอน:“คุณป้าเหรอ วันนี้คุณป้านอนที่บ้านของน้าแครอท ต้องรอให้รักษาหายดีถึงจะกลับมาได้”
“อย่างนี้นี่เอง……”
เมื่อเด็กน้อยทั้งสามได้ฟัง ถึงแม้ว่าจะไม่เกิดความกังวลแล้ว
แต่ว่า ใบหน้าของพวกเขานั้น ยังเห็นได้ถึงความผิดหวัง คุณป้าไม่อยู่ ไม่มีใครเล่นเป็นเพื่อนพวกเขาแล้ว
พี่ภาเมื่อกล่อมพวกเด็กๆหลับไปแล้ว จึงออกมาจากห้อง มองเห็นคุณผู้ชายที่อยู่หน้าห้อง จึงตกใจขึ้นมา
“คุณผู้ชาย คุณ……คุณกลับมาแล้วเหรอคะ ทำไมถึงได้มายืนอยู่ที่นี่ล่ะ ทานข้าวมาหรือยัง ถ้ายัง ห้องครัวที่ชั้นล่างมีอยู่ ฉันจะไปอุ่นให้คุณสักหน่อย”
“ไม่ต้องหรอก เธอกำลังอุ่นอยู่”
แสนรักมองผ่านด้านหลังของเธอเข้าไป มองเห็นเด็กน้อยทั้งสาม
พี่ภาเห็นสีหน้าของเขา จึงรีบอธิบาย :“คุณชายเล็กกับคุณหนูเล็กพวกเขา พวกเขารอให้คุณผู้หญิงมาเล่านิทานให้ฟัง แต่ว่าคุณผู้หญิงยังคงอยู่ข้างล่างรอคุณกลับมา ไม่รู้จะทำไง ฉันจึงขึ้นมาแทน”
“ไม่เป็นไร พี่ภา ผมจำได้ว่าบ้านเกิดของคุณอยู่ที่จังหวัดสารวันทางโน้นใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“งั้นคุณสามารถพาภารา……แม่ผม แล้วก็เด็กๆทั้งสามคนไปอยู่ที่นั่นสักสองสามวันได้ไหม ผมจะให้คนไปส่งพวกคุณ”
ทันใดนั้น คุณผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงทางเดินที่มืดสลัว มองไปที่พี่ภาแล้วก็ขอร้องออกมาเรื่องหนึ่ง
พี่ภานิ่งไป
ไปบ้านเกิดของเธองั้นเหรอ?
เธอไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว!
เพียงแต่ว่า ทำไมต้องกะทันหันขนาดนี้ อีกทั้งยังพาคนเกือบทั้งบ้านไปด้วยทั้งคนแก่และเด็กน้อย พูดออกมาแบบนี้……พูดจริงหรือเปล่า?
พี่ภาเริ่มสงสัยขึ้นมาว่าเธอฟังผิดไปหรือเปล่า?
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้วค่ะ เพียงแต่……คุณผู้ชาย คุณกำลังล้อเล่นหรือเปล่า จะพาพวกเขาทั้งหมดไปที่บ้านเกิดของฉันจริงๆหรือคะ”
“ไม่ได้ล้อเล่น โรงเรียนของเด็กๆกำลังใกล้จะถึงวันหยุดยาวแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะวางแผนพาพวกเขาไปเที่ยวที่ไหน เมื่อก่อนเคยพาไปในหมู่บ้านตรงชานเมือง พวกเขาต่างชอบมาก ดังนั้นจึงนึกถึงบ้านของคุณที่นั่น”