ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 57 อธิบาย
ลมหายใจของเส้นหมี่หยุดชะงักไปอย่างไร้สาเหตุ และรีบเบนสายตามองไปทางอื่นทันที
“ชินจัง ลูกมานี่ก่อน”
หลังจากที่เธอเข้ามา สายตาของแสนรักไม่ได้มองมาที่เธอในทันที แต่ได้เรียกให้ลูกชายที่เข้ามาก่อนไปที่ข้างกายของเขา เหมือนกับมีความหมายว่าอีกเดี๋ยวค่อยคิดบัญชีกัน
ชินจังขมวดคิ้วเล็ก ๆ และเดินเข้าไป
“วันนี้ลูกไปไหนมา?”
“ไม่ได้ไปไหน” ชินจังตอบแด๊ดดี้อย่างเฉยชา
เมื่อเส้นหมี่ที่อยู่ด้านข้างได้ยินแล้ว ก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันที……
โชคดี โชคดีที่ลูกชายไม่ได้บอกว่าไปสวนสนุกมา ไม่อย่างนั้นละก็ถ้าให้ผู้ชายคนนี้รู้เข้า เกรงว่าเขาคงจะโกรธยิ่งกว่าเดิม
แต่เมื่อแสนรักได้เห็นสภาพลูกชายที่มีเหงื่อท่วมตัว ก็ไม่เชื่อเลยสักนิด: “ไม่ได้ไปไหนเหงื่อออกเยอะขนาดนี้เชียวเหรอ? ตอนนี้ลูกโกหกกับพ่อเป็นแล้วใช่ไหม”
ชินจัง: “……”
เมื่อเส้นหมี่เห็นท่าไม่ดี ก็ไม่สนใจอะไรมากอีก จึงรีบยืนออกมา: “คือว่า……คุณอย่าโทษเขาเลย ฉันจะเป็นคนพูดกับคุณเอง พวกเรา……ออกไปเล่นมาสักพัก แต่ว่าคุณวางใจได้ เขาไม่โดนอากาศเย็นแน่นอน ฉันได้ซื้อผ้าขนหนูผืนเล็กให้กับเขา เอาไว้บังเหงื่อบนหลัง”
เธอกลัวว่าเขาจะโกรธ สุดท้ายแล้วก็ไม่ลืมที่จะพูดเสริมอีกหนึ่งประโยค
แต่ผลลัพธ์ก็คือ หลังจากที่ชายโฉดคนนี้ได้ยิน กลับได้ตะคอกขึ้นมาหนึ่งประโยค: “คุณหุบปากไปซะ!”
โหดเหี้ยมดุร้ายจนเหมือนแทบอยากจะกัดเธอให้ตายในทันที
เส้นหมี่สำลักเล็กน้อย ชั่งเถอะ เธอไม่ต่อปากต่อคำกับชายโฉดคนนี้หรอก
ความจริงแล้วเธอรู้ว่าตัวเองพาเด็กน้อยออกไปเที่ยว ดูแล้วมันค่อนข้างจะเกินไปหน่อยอยู่ เพราะยังไงเสีย วันนี้เด็กคนนี้เพิ่งจะไม่สบาย แต่ว่า สายตาของเขาในตอนนั้นดูใฝ่ฝันมากจริง ๆ ปรารถนาจนทำให้เธอเจ็บแปล๊บอยู่ในอก เธอเป็นหม่ามี๊ของเขา ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยสักนิด
นอกจากนี้แล้ว เธอยังเป็นหมอคนหนึ่ง แน่นอนว่าเธอเองก็ได้ไตร่ตรองหลาย ๆ อย่างแล้ว มั่นใจว่าเจ้าตัวเล็กจะไม่เกิดเรื่อง ถึงได้ให้เขาไป
ยังดีที่ ผ่านไปสักพัก ผู้ชายคนนี้ได้ตรวจดูลูกชายจนทั่วร่าง พบว่าเขาไม่ได้มีอาการอะไรจริง ๆ นอกจากนี้แล้ว เนื่องจากเขาได้เล่นเครื่องเล่นเหล่านั้นในตอนที่อยู่ที่สวนสนุก ทำให้เหงื่อออกไปทั้งตัว ดูแล้วมีชีวิตชีวาขึ้นมาไม่น้อย
สีหน้าของแสนรักไม่ได้ดูแย่แบบนั้นอีก
“เอาล่ะ ให้คุณอาเคพาลูกไปอาบน้ำ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
“ครับ”
ชินจังตอบรับด้วยใบหน้าหม่นหมอง ไม่นาน ผู้ช่วยเคก็ได้เข้ามา และเตรียมที่จะพาเขาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องพักรับรองที่ชั้นบน
“แด๊ดดี้”
“?”
“ห้ามดุคุณน้านะ!”
ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ในตอนที่เจ้าตัวเล็กถูกพาออกไป กลับไม่ได้ลืมเส้นหมี่เลยสักนิด เขาใช้น้ำเสียงที่เอาจริงเอาจัง เรียกร้องไม่ให้แด๊ดดี้ต่อว่าเธอ
เส้นหมี่ที่กำลังถูกคิดบัญชีอยู่รู้สึกตื้นตันใจขึ้นมาทันที: “ชินชิน……”
“ชินชินอะไรล่ะ? ยังมัวซื่อบื้ออยู่ที่นี่อีกทำไม? ยังไม่รีบพาเขาขึ้นไปอีก?!!” ผู้ชายที่มีความโมโหอยู่เต็มท้อง แทบจะระเบิดออกมาแล้วจริง ๆ
คนไม่รู้จักบุญคุณ เขาเลี้ยงเขาเอาไว้เพื่ออะไรกัน?
เด็กน้อยถูกพาตัวออกไปแล้ว ในที่สุดภายในห้องทำงานก็สงบลง และในตอนนี้เอง เส้นหมี่ยืนอยู่ตรงนั้น ถึงได้รับรู้ว่าเวลาคิดบัญชีได้มาถึงแล้ว
แปลกจริง ๆ เลย ทำไมเขาถึงได้โมโหขนาดนั้น?
เธอแค่พาเขาออกไปเที่ยวเล่นแค่นั้นเองไม่ใช่เหรอ?
เส้นหมี่ตัดสินใจที่จะเอ่ยปากขึ้นมาก่อน : “โอเค ฉันขอโทษคุณก่อน เป็นความจริง ที่ฉันพาเขาออกไปนั้นมันไม่สมควรสักเท่าไหร่ แต่ที่ฉันทำแบบนี้ เป็นเพราะว่าวันนี้ฉันได้เห็นอะไรบางอย่าง คุณแสนรัก ฉันคิดว่าคุณควรที่จะอธิบายกับฉันหน่อย”
“คุณว่ายังไงนะ? อธิบายงั้นเหรอ?”
แสนรักคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ เขายังไม่ทันที่จะเอ่ยปากหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับได้ตั้งข้อสงสัยกับเขาขึ้นมา
เส้นหมี่พยักหน้า: “ถูกต้อง เขาไม่ชอบไปโรงเรียนอนุบาลเป็นเพราะอะไรกัน? วันนี้ฉันเห็นว่าอากาศดี แค่อยากจะให้เขาออกกำลังกายสักหน่อย แต่เมื่อพูดขึ้นมา เขาก็ค่อนข้างจะอารมณ์ปั่นป่วน ต่อมาเมื่อฉันได้พูดถึงพวกเด็ก ๆ ในโรงเรียนอนุบาล เขาก็อารมณ์รุนแรงจนถึงขั้นตะคอกเสียงดังกับฉัน แสนรัก คุณไม่คิดว่าคุณจำเป็นต้องอธิบายเรื่องพวกนี้กับฉันหน่อยเหรอ? ทำไมเด็กปกติคนหนึ่งเมื่ออยู่ในมือคุณ ถึงได้กลายเป็นแบบนี้?”
“……”
ชั่ววินาทีจริง ๆ บรรยากาศภายในห้องทำงานก็ได้ลดลงมาจนถึงขีดสุด
แสงอาทิตย์ที่ด้านนอกยังคงสดใสเหมือนเดิม ผ่านบานกระจกที่ใสสะอาด ก็ยังสามารถมองเห็นแสงสีทองระยิบระยับที่สาดส่องเข้ามา แต่ว่าวินาทีนี้เส้นหมี่ยืนอยู่ข้างใน กลับรู้สึกหนาวเหน็บเหมือน
ในช่วงเดือนสิบสอง ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปรอบ ๆ หนาวจนเธออดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านขึ้นมา
เกิดอะไรขึ้น?
เธอพูดอะไรผิดไปเหรอ?
ในที่สุดเธอก็รู้สึกตัวขึ้นมา เหมือนว่าสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง
“คุณต้องการให้ผมอธิบายกับคุณใช่ไหม?”
“……ใช่”
“ได้สิ งั้นผมจะอธิบายกับคุณ เส้นหมี่ ทำไมเขาถึงได้กลายเป็นแบบนี้ ก็เพราะตอนนั้นคุณได้ทิ้งเขาไป เขาคลอดก่อนกำหนด เขาป่วยนัก อายุสองขวบแล้วก็ยังพูดไม่เป็น เขาไม่มีแม่ เป็นผมที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็กจนโต เขาสันโดษ เฉยชา เพราะในใจของเขา ตำแหน่งของคนเป็นแม่นั้น ไม่สมบูรณ์มาโดยตลอด ทำให้ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็เข้ากับใครไม่ได้ และขาดความอบอุ่น เหตุผลแบบนี้พอหรือยัง?”
เขานั่งอยู่ตรงนั้น ใบหน้าคมเข้มที่มีเค้าโครงอย่างชัดเจน เนื่องจากไฟโมโหภายในใจ ทำให้ทุกเส้นลายต่างก็ดูเยือกเย็น บนใบหน้าที่เย็นชา เหลือเพียงการเสียดสีและความเกลียดชังอันแหลมคม
เขามองดูเธอ เหมือนกับได้หัวเราะออกมา แต่เสียงหัวเราะนั้นไพเราะเสนาะหูแค่ไหน เส้นหมี่ก็ได้ยินเพียงว่าตัวเองถูกทิ่มแทงอย่างโหดร้าย