ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 583 โง่ ไม่ใช่เหตุผลที่จะเอามาใช้รังแกเธอ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 583 โง่ ไม่ใช่เหตุผลที่จะเอามาใช้รังแกเธอ
“ไม่หรอก ฉันไม่ได้หนาวขนาดนั้น คุณไม่ต้องถอด เมื่อกี้ยังเป็นลมอยู่บนรถอยู่เลยนี่”เส้นหมี่มองเห็น จึงรีบห้ามเขาเอาไว้
แต่ว่า ชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วถอดเสื้อโค้ดออกมา หลังจากนั้นเอาเสื้อโค้ดกันหนาวตัวใหญ่ห่อไปบนร่างกายของเธอ
เส้นหมี่:“……”
“ว้าว หม่ามี๊ดูสิ คุณน้าคนนี้น่ารักจัง สวมเสื้อของคุณลุง เหมือนที่หนูสวมเสื้อหม่ามี๊เลย เหลือเพียงแต่หัวที่โผล่ออกมาด้านนอก”
เสียงของเด็กน้อยที่อยู่ในสถานีพูดออกมา ทันใด สายตาของหลายๆคนจึงมองมา
เส้นหมี่อายจะตายอยู่แล้ว
แต่ว่า ชายหนุ่มคนนี้กลับทำเป็นมองไม่เห็นยังไงอย่างงั้น เด็กคนนี้พูดว่าเธอถูกห่อเอาไว้จนเหลือแต่หัวที่โผล่ออกมาด้านนอก เขายังจะหิ้วปกคอด้านหลังขึ้นมาอีก
“ไปกันเถอะ”
“ไปอะไรล่ะ คุณปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่ใช่เด็กน้อยจริงๆสักหน่อย!!”
เส้นหมี่อยากจะกระอักออกมา
แต่ความจริงแล้ว เธอไม่รู้เลยว่า ตอนที่ชายหนุ่มใช้วิธีนี้พาเธอออกมาจากสถานีไปนั้น ด้านหลังดึงดูดสายตาที่มองมาด้วยความอิจฉาริษยามากมาย
หรือว่านี่คือทาสภรรยาในตำนานกัน?
ทำไมเบื้องบนช่างไม่ยุติธรรมแบบนี้?
ชายหนุ่มที่รูปร่างสูงใหญ่และหล่อเหล่า แต่กลับเอาอกเอาใจผู้หญิงธรรมดาธรรมดาคนหนึ่งขนาดนี้
ในกลุ่มคนเหล่านี้ยังมีหญิงสาวไม่น้อยที่ยังโสด แต่ละคนต่างใจแตกสลายลง
เมื่อออกมาจาสถานีรถไฟความเร็วสูงมา ได้รับข้อความจากเคมี ว่าขับรถมารออยู่ด้านนอกแล้ว เมื่อมองเห็นทั้งสองออกมาแล้ว เขาจึงรีบขับเข้ามารับทันที
“ท่านประธาน คุณผู้หญิง ในที่สุดพวกคุณก็กลับมาแล้ว ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ”
เขามองไปที่เขาคนนี้ที่เป็นเหมือนพ่อคุณเจ้าชีวิต
ตอนที่ดลธีโทรศัพท์มาหาเขา ไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ว่าตอนนี้ เขายังอยากถามสักหน่อย เจ้าชีวิตของเขาคนนี้เฮลิคอปเตอร์ดีๆมีไม่นั่ง
กลับเลือกยานพาหนะเช่นนี้นั่งกลับมา
ตกลงว่าเรื่องราวต่างๆจัดการเสร็จเรียบร้อยหรือยัง?
ผลลัพธ์ เจ้าชีวิตคนนี้ไม่ได้สนใจเขาสักนิด:“คุณภรรยา คุณจะกลับบริษัทหรือว่ากลับบ้านดีล่ะ งั้นพวกเราไปโรงพยาบาลก่อนนะ ไปตรวจดูบาดแผลของคุณ”
ทันใดเขาก็มองมาที่หน้าผากของเส้นหมี่
เรื่องเรื่องนี้ ความจริงตอนที่อยู่บนรถไฟเขาก็อยากจะถามแล้ว แต่ก็กลัวว่าพอถามแล้วเธอจะโมโหขึ้นมาอีก จึงทำได้เพียงรออย่างระมัดระวังจนมาถึงตอนนี้
แต่นึกไม่ถึงว่า เด็กโง่ที่ไร้หัวจิตหัวใจคนนี้ กลับไม่ได้สนใจเรื่องนี้สักนิด
“ไม่ต้องหรอก ไม่ใช่บาดแผลร้ายแรงอะไร ก็แค่แผลที่ถลอกนิดหน่อย งั้นไปที่บริษัทก่อนแล้วกัน สัญญาฉบับนี้นำกลับมาแล้ว ในตอนยังไฟแรงอยู่ต้องกลับไปเตรียมการต่อกับคนในแผนกสักหน่อย ล่าช้าไม่ได้”
หลังจากนั้น เธอก็ตรงขึ้นรถไปทันที
แสนรัก:“……”
เคมี:“……”
ยืนอยู่ที่นั่นนิ่งไปสักพัก เคมีจึงมองไปที่BOSSใหญ่คนนี้อยู่นิ่งๆ
“ท่านประธาน ผมคิดว่าคุณอย่าได้รังแกคุณผู้หญิงอีกเลย เธอไม่มีหัวจิตหัวใจ แต่ก็กลายเป็นเหตุผลที่คุณจะเอามาใช้รังแกเธอไม่ได้นะครับ”
“ไปไกลๆเลย!”
ชายหนุ่มที่ภายในใจไม่สบอารมณ์อยู่แล้ว เมื่อได้ยินประโยคนี้เข้า จึงด่าออกมาทันที แล้วก้าวขาขึ้นรถไป
เคมี:“……”
ไม่ใช่สิ มันเกี่ยวอะไรกับเขากัน? เขาก็แค่พูดถึงเรื่องคุณธรรมเท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ
——
เซตะ ประเทศญี่ปุ่น
สองวันมานี้ อากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดอกสาวเย่าที่อยู่ในสวนยะกะล้มตายไปแล้วมากมาย ไม่มีคนดูแล อีกทั้งฤดูกาลก็เปลี่ยนแปลงไป เดิมทีช่วงนี้ก็ไม่ใช่ฤดูกาลออกดอก ตอนนี้จึงไม่มีเลยเป็นไปตามธรรมชาติ
สองวันมานี้อากิโกะ นากาจิมะก็ค่อนข้างรวน
พี่ชายของเธอตายแล้ว พี่สาวของเธอก็ตายแล้ว เธอทั้งโกรธและโศกเศร้าเสียใจ
แต่ว่า สองวันนี้ที่เธออยู่ที่นี่ กลับไม่กล้าแสดงอารมณ์ใดออกมา
“อากิโกะ คุณหญิงท่านให้คุณไปทำชา ทำเสร็จแล้วหรือยัง”
“เสร็จแล้วค่ะ”
อากิโกะ นากาจิมะรีบร้อนตอบกลับมา หลังจากนั้นจึงยกผงชาที่ตัวเองบดเสร็จแล้วเดินตรงไปที่ที่คุณหญิงท่านพักอยู่
“เพล้ง——”
พึ่งจะเดินมาถึง ก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกระแทกลงบนพื้นจากด้านใน!
“เขาไม่มาเจอฉันงั้นเหรอ เขากล้าดียังไงถึงไม่มาเจอฉัน เพื่อเขาแล้ว ฉันได้เอาคนที่มีอยู่กับความสามารถทั้งหมดที่สะสมมาตั้งหลายปีทุ่มเทออกไปแล้ว เขากลับพูดว่าไม่อยากพบฉันอย่างนั้นเหรอ”
เสียงด่าของผู้หญิงที่กำลังโกรธจัด ดังกังวานไปทั่วทั้งบ้าน ทุกคนต่างเกรงกลัวเป็นอย่างมาก
อากิโกะ นากาจิมะเองก็ด้วย
คุณหญิงท่านกำลังพูดถึงใคร?
หรือว่า เธอกำลังพูดถึงลูกชายของเธอ? เขาถูกช่วยชีวิตออกมาแล้วเหรอ?
ฮานาโกะ นากาจิมะรู้สึกดีใจขึ้นมา หลังจากที่ในหัวของเธอนึกถึงผู้ชายที่สวมแว่นคนนั้นที่ทั้งรูปหล่อ อบอุ่น และสุขุม ดวงตาทั้งสองที่ปลีกวิเวกมาแล้วหลายวัน ในที่สุดก็เปล่งประกายออกมา
“คุณหญิงท่าน คุณลดความโมโหลงก่อน คุณชายน่าจะพึ่งกลับมา ภายในใจยังไม่ทันได้สงบลงนัก คุณให้เขาใจเย็นลงก่อน รอให้ผ่านไปสัก2-3วันเขาต้องมาหาคุณอย่างแน่นอน”
ได้ฟังคำห้ามปรามของคุณแม่บ้าน
ความโมโหของเนติจึงได้ลดน้อยลงบ้าง
“เขาจะต้องการเย็นใจอะไรล่ะ ฉันต้องใช้กำลังแรงกายไปตั้งมากมายกว่าจะทำให้เขาถูกปล่อยออกมา เขาไม่รู้จักบุญคุณก็ช่างปะไร แต่กลับยังมาไม่พอใจฉันอีก”
“ใช่ค่ะ คุณหญิงท่าน งั้นตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี สงบศึกลงชั่วคราวอย่างนั้นเหรอ”
คุณแม่บ้านถามเรื่องแผนการต่อไปขึ้นมาอย่างกะทันหัน
สงบศึกแน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้
ถึงแม้ว่าคณาธิปจะถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว แต่ว่าความสูญเสียของพวกเขาในครั้งนี้ ไถ่คืนมาไม่ได้สักนิด นอกจากซาจากรุ๊ปที่ทุ่มลงไปแล้ว ยังมีหุ้นส่วนของหิรัญชากรุ๊ปที่เขาควรจะได้รับแต่ตอนนี้ทั้งหมดต่างไม่เหลือแล้ว
กล้าดียังไง?
ไอ้ลูกนอกคอกคนนั้นทั้งๆที่ไม่ความสัมพันธ์อะไรกับตระกูลหิรัญชาแม้แต่น้อย กล้าดียังไงเขาถึงได้มาครอบครองสิ่งของของตระกูลหิรัญชา!
ดวงตาของเนติเต็มไปด้วยความโกรธแค้น